มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
+12
Fliz flamme
myeleven
Mashiro-Hiro
ピエロココ
凶死郎 ナット
Bakunetsu Japan
shiotari atsusa
jass-blue2020
lovlyprao
羽島 花
kagura ai
fujiwara
16 posters
หน้า 3 จาก 8
หน้า 3 จาก 8 • 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
เอ๋............ทำไมถึงชอบ....................คำถามยากแฮะ อาจเป็นเพราะแบ็กกราวบางอย่าของตัวละครมันไปเหมือนกับชีวิตจริงของเรามั๊ง................เอ.............ถามง่ายแต่ตอบยากแฮะ ชีวิตที่ดราม่า(เกี่ยวป่ะ)......................พึงตัวเองมาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน(เกี่ยวป่ะ) ง่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาขอตอบง่ายๆได้ป่ะ ไม่รู้อ่ะ มันชอบง่าาา แบบว่าเห็นแล้วรักเลย และยิ่งพอได้รู้BGตัวละครอีก อ๊ากกกกกกกกคลั่งไปเลยshiotari atsusa พิมพ์ว่า:สวัสดีค่า^o^ อาซึสะมาแล้ววววววววว ถึงหน้า70แล้วเหรออ่านแทบไม่ทันเลยนะเนี่ยแต่ก้อสนุกทุกตอน555+ ช่วงนี่คงต้องไว้อาลัยให้ผู้ประสบภัยสึนามิที่ญี่ปุ่น เห็นแล้วสงสารจังเลย พวกเอนโดจะเป็นยังไงนะคงร้องไห้นำตาแตกรึป่าว?(บ้าไปแล้ว นี่เรื่องจริงเกี่ยวอะไรกับการ์ตูน)555+ คุณฮานะมีเรื่องอยากถามว่าทำไมถึงชอบคิโดเหรอคะ? ตอบด้วยนะ
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
555+งั้นเหรอ คงตอบไม่ได้สินะ ความรู้สึกแบบนี้มัน.....บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้สินะ .........ว้ากกกกกกกกกกกกกกกโอเว่อร์actionมากไปแล้ววววววววว พูดอารายออกไปเนี่ยยยยยย!!!!!!!!!!ขอโทษนะฮานะจังT^T
shiotari atsusa- จำนวนข้อความ : 43
Join date : 11/11/2010
Age : 26
ที่อยู่ : อยู่กับกาเซล
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ฮ่ะๆ อาซึสะจังก็พูดเกินไป เป็นเพราะเค้าไม่รู้จะบรรยายยังไงต่างหาก แฮะๆ ต้องขอโทษทีนะคะshiotari atsusa พิมพ์ว่า:555+งั้นเหรอ คงตอบไม่ได้สินะ ความรู้สึกแบบนี้มัน.....บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้สินะ .........ว้ากกกกกกกกกกกกกกกโอเว่อร์actionมากไปแล้ววววววววว พูดอารายออกไปเนี่ยยยยยย!!!!!!!!!!ขอโทษนะฮานะจังT^T
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
มาต่อกันเถอะ
เสียงเรียกหา.........................คำแนะนำ.........................สายสัมพันธ์
ชุดโทก้า
- Spoiler:
- แอนทีรอสมองเข้าไปในแววตาที่มุ่งมั่นของฮิริว
แอนทีรอส : ไปกันเถอะท่านลุง เพอร์ซิโฟนี่
เทพแห่งการรักตอบพูดด้วยอาการขรึมๆ
ฮาเดส : อ่ะ…………….อืม
ฮาเดสรับคำพลางเดินนำทำคนเข้าไปในถ้ำโดยประคองเพอร์เซโฟนี่ราชินีของตนอยู่ด้วย
แอทีรอส : แหม……………คู่นี้หวานแหว๋วจนน่าหมั่นใส้แฮะ
เทพแห่งการรักตอบพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
เพอร์เซโฟนี่ : ก็ต้องขอบคุณทั้งอีรอสและเจ้าด้วย ถ้าไม่มีเจ้าทั้งสองเราก็คงไม่มีวันนี้
แอทีรอส : (สะดุ้งแล้วหน้าแดง)ก็……………มันหน้าที่ข้ากับอีรอสอยู่แล้วหนิ
เพอร์เซโฟนี่ : (ชะงักมองดูแอนทีรอส)………….
แอนทีรอส : (ตกใจ) ทำไมมองข้าอย่างนั้นล่ะ
เพอร์เซโฟนี่ : ก็นี่ดูไม่เหมือนเจ้าเลย
แอนทีรอส : (โวยวาย) ก็ร่างนี้มันของข้าซะที่ไหนกันเล่า
เพอร์เซโฟนี่ : แต่ว่านะ…………..
เพอร์เซโฟนี่พูดค้างไว้เท่านั้นแล้วเดินไปแตะตัวแอนทีรอส ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างจ้าเรื่องออกมาจากตัวเทพแห่งความรักผู้น้อง ซักพักเมื่อแสงสว่างนั้นดับวูบลงไปเผยให้เห็นแอนทีรอสในชุดโทก้าสั้นสีม่วง…………….ประกอบกับที่แอนทีรอสอยู่ในร่างชองลิโนะ…………….เลยดูเหมือนเทวีกรีกเข้าไปใหญ่
แอนทีรอส : (หน้าแดง) นี่เจ้าเอาชุดอะไรมาให้ข้าใส่เนี๊ยะ
แอนทีรอสพูดพลางดึงกระโปรงมาปิดเข่า
เพอร์เซโฟนี่ : ไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าน่ะมันน่าแกล้งอยู่แล้วเพราะในหมูพวกเรามีเจ้าคนเดียวที่แต่งได้ทั้งหญิงและชาย
ฮิริว : แต่ก็น่ารักดีนะทีหลังต้องให้ฮานะจังแต่งแบบนี้บ้าง
แอทีรอส : (หันมามองฮิริวตาขวาง)นี่ก็อวยน้องเข้าไป ไม่ได้คิดจะช่วยกันเลย เอ่อ ถ้าไมเป็นการรบกวนเกินไป ช่วยข้าก่อนได้ไหมห๊า………….!!! ไอ้ซิสค่อน!
แอนทีรอสโวยวายใส่ฮิริวเป็นผลให้ทั้งราชาและราชินีแห่งยมโลกหัวเราะออกมาเบาๆ
แอนทีรอส : ยินดีที่ท่านเห็นข้าเป็นเครื่องบันเทิงนะท่านลุง
ฮิริว : เห็นแบบนี้ปากคอเราะร้ายจังนะ
แต่อยู่ๆฮาเดสที่เดินนำหน้าอยู่ก็หยุดเดินกระทันหัน เมื่อเห็นพวกของคิจังเดินอยู่ด้านหน้า
ฮาเดส : ถึงแล้วล่ะ เดม่อนเกต เราแอบดูเขาอยู่ตรงนี้แหละ
ที่เหลือ : อ…….อือ
ฮิริว : (กระซิบ) พวกเขาจะจับฮารุนะจังไปทำไมนะ
ฮาเดส : พวกนั้นน่ะกินเด็กสาวบริสุทธ์เป็นอาหารยังไงล่ะ………………..แลกเปลี่ยนกับ การที่โลกจะไม่ถูกทำลาย
‘อย่านะ…………………….อย่าให้ฮารุจังไป………………………..ถ้าเป็นฮารุจัง ยูโตะคุงจะต้องเสียใจมากๆแน่……………..อย่าให้ฮารุจังไปนะท่านแอนทีรอส……………………..ให้ข้าไปแทนเถอะ’เสียงของลิโนะดังก้องขึ้นมาในหัวของแอนทีรอส
แอนทีรอส : (กะซิบดุ) เจ้าใช้อะไรของเจ้าคิดฮะฮานะจัง เจ้าคิดเหรอว่าถ้าเจ้าทำอย่างนั้นแล้วคิโดคุงเขาจะมีความสุข
‘ต……………………แต่มันไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้วนี่’
แอนทีรอส : มีสิมันต้องมี……………..ฉันต้องหามันให้เจอ!!!
แอนทีรอสพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
‘ ขอบคุณนะคะ…………………..ขอบคุณจริงๆ’
แอนทีรอส : (พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน) ไม่เป็นไรหรอกมันเป็นหน้าที่ของเทพแห่งความรักอย่างฉันอยู่แล้ว
ฮิริวพอได้ยินแอนทีรอสพูดกับตัวเองก็ทำตาโตอย่างตกใจพลางเขย่าตัวแอนทีรอสอย่างร้อนรน
ฮิริว : แอนทีรอส!!!แอนทีรอส!!!พูดกับฮานะจังอยู่เหรอ ฮานะจังเป็นไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า!!!
แอนทีรอส : (รำคาญฮิริวเต็มแก่) น้องสาวเจ้าน่ะสบายดี แต่จะไม่สบายเพราะเจ้าเขย่าแรงนี่แหละ ปล่อยสิ ไอ้ซิสค่อน!!!
ฮิริว : อ่ะ…………………..ขอโทษที
ฮิริวได้ฟังแอนทีรอสว่าเช่นนั้นเลยรีบปล่อยแอนทีรอส
แอนทีรอส : เออ………….ดีกระดูกกระเดี้ยวพังหมด ไม่รู้ฮานะจังทนได้ไง
ฮาเดส : (กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ) ก็เพราะเป็นน้องสาวไง…………………..
แอนทีรอส :ท………………ท่านลุง
เพอร์เซโฟนี่ : (บีบมือฮาเดสแน่น) ไม่เป็นไรนะคะ
ฮาเดส : (ยิ้มตอบ) ไม่เป็นไรครับ
แอนทีรอสมองภาพนั้นพลางยิ้มบางๆให้กับตัวเองแล้วเสไปมองที่สนามที่ตอนนี้ทีมของคิจังและทีมของเดลต้ากำลังทำการแข่งขันกันอยู่แต่จู่ๆ แอนทีรอสก็สะดุ้งขึ้นมากับคำพูดของเดลต้าที่ว่าถ้าทีมของคิจังแพ้เขาจะนำวิญาณของทั้งหมดไปเป็นเครื่องเซ่นของจอมปีศาจ
‘ไม่ได้นะ!!!ไม่ได้!!!!เขาจะเอาวิญาณของยูโตะคุงไปไม่ได้นะ……………ถ้าจะเอาเอาวิญาณของฉันไปแทนสิ’
แอนทีรอส : (ตวาดเบาๆ) เงียบนะฮานะจัง ฉันจะไม่ให้เดลต้าเอาวิญาณของใครไปทั้งนั้นแหละเข้าใจไหม และก็เงียบได้แล้วฉันจะใช้ความคิด!!!
‘แต่ว่า………………………….’
แอนทีรอส : ไม่ต้องมีแต่!!!
เทพแห่งการรักตอบตั้งใจดูเกมที่กำลังดำเนินอยู่อย่างตั้งใจแต่ก็ต้องขบฟันอย่างเจ็บใจเมื่อทีมของคิจังโดนยิงเข้าไปเหมือนโดนโกง
‘ไม่ได้!!!’มันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง ฉันไม่ยอมให้ใครเอาวิญาณยูโตะคุงไปหรอก’ เสียงสะอึกสะอื้นสิโนะดังขึ้น……………เสียงขอเธอดังพอที่ทั้งสามเทพกับหนึ่งมนุษย์ที่อยู่ตรงนั้นได้ยิน
ฮิริว : ฮานะจัง!!!ใจเย็นก่อนน่ะ ตอนนี้พวกเรากำลังหาทางช่วยคิโดอยู่นะ
‘แต่พี่คะ………………….’ น้ำเสียงขอลิโนะแผ่วเบาเต็มที
ฮิริว : ฮานะจัง!!!น้องไม่เป็นอะไรแน่นะฮานะจัง!!!
ฮิริวร้องหาน้องสาวอย่างเป็นห่วง………………………….เวลานั้นเป็นเวลาพักครึงทุกคนในทีมคิจังนั่งพักพร้อมกับปรึกษาแผนกันอยู่ที่ข้างสนาม……………แอนทีรอสมองหน้ากัยราชาแห่งยมโลกผู้เป็นลุงก่องที่จะเรียกธนูคู่ใจออกมาแล้วยิงไปที่กลางวงม้านั่งข้างสนามทีเดลต้านั่งพักอยู่
เดลต้า : (ตกใจพูดเสียงดัง) ลูกศรนี่!!! แอนทีรอสนี่เจ้าตามข้ามาอย่างงั้นเหรอ!!!!
ฮาเดส : เขามากับข้า!!!เจ้ามีปัญหาไหม!!!
เดลต้า : (ทำความเคารพฮาเดส) ไม่ทราบว่าท่านจะมาด้วยตัวเองไม่ทันต้อนรับต้งขออภัยด้วย
ฮาเดล : (กล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีพลังอำนาจ) เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทำร้ายคนพวกนี้เด็ดขาด
เดลต้า : คงจะไม่ได้หรอกท่านเพราะเป็นความต้องการของท่านจอมปีศาจ
“แล้วถ้าเป็นข้าล่ะ”
เดลต้า : อย่างเจ้าจะทำอะไรข้า……………….แอนทีรอส
“ไม่ใช่แอทีรอสแต่เป็นฉันเอง ฮานะจัง!!!”
คิจัง : (ตะโกนด้วยความตกใจ) ฮานะจัง!!!ตามผมมาทำไม ทำไมไม่รออยู่ที่บ้านพัก!!!
ฮิริว : ไม่ต้องกังวลหรอกคิโดคุงเดี๋ยวฉันจะดูแลฮานะจังให้!!!
ลิโนะ : อย่าแพ้เขานะ ยูโคะคุง!!!
เดลต้า : หึ !!! ไม่มีวันหรอกข้าจะเอาวิญาณของเจ้าพวกนี้ไปเซ่นท่าจอมปีศาจ
ลิโนะ : (ก้าวออกมาด้านหน้า) เป็นฉันได้ไหม ฉันขอแลกระหว่างวิญาณของฉันกับทุกคนได้ไหม
คิจัง+ฮิริว : อย่านะฮานะจัง!!!
ลิโนะ : (หันมามองคิจังด้วยแววตาที่อ่อนโยน) ขอโทษด้วยนะยูโตะคุง (หันไปมองฮิริว) ขอโทษด้วยนะคะพี่ชาย
ลิโนะเดินช้าๆออกไปหาเดลต้า
ฮิริว : (ตะโกนอย่างหัวเสีย) ทำอะไรบ้างสิแอนทีรอส อย่ามัวแต่เงียบสิ เจ้าเป็เทพผูพิทักษ์ของฮานะจังไม่ใช่เหรอ!!!
‘ก็ใช่!!!แต่ถ้าน้องสาวเจ้าแข็งขืนอยู่อย่างนี้ข้าก็ทำอะไรไม่ได้’เสียงของแอนทีรอสดังก้องออกมา
ฮิริว : ฮานะจัง!!!ปล่อยให้แอนทีรอสเขาจัดการเถอะ
ลิโนะ : แต่ว่า…………………….ยูโตะคุง
ลิโนะมองไปยังคิจังที่อยู่เบื้องล่าง
ซากุมะ : ไม่เป็นไรหรอกลิโนะจังทางนี้ก็จะดูแลคิโดคุงไว้ให้ จริงไหมฟุโดว
ฟุโดว : (สะดุ้งสุดตัวเมื่อซากุมะเรียก) อ่ะ…………….อืม
มาร์ก : me too
ดีแลน : YEAH!!!
เตเรส : eu também (ฉันด้วย)
โทระมารุ : จริงด้วยฮะ พวกเราก็จะสู้ให้ถึงที่สุด เนอะโกเอนจิซัง
โกเอนจิ : อ่ะ……….อืม
สึนามิ+โทระมารุ+โทบิทากะ : พวกเราด้วย!!!
ลิโนะ : (น้ำตาไหล) ขอบคุณนะทุกคน……………
พอสิ้นเสียงของลิโนะ เธอก็ยกมือกุมศรีษะพร้อมกับทรุดลงกับพื้น
คิจัง+ฮิริว : ฮานะจัง!!!
‘ข้าเอง………..ไม่ใช่ฮานะจัง’หญิงสาวพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฮิริว
ฮิริว : แล้วน้องสาวข้า………………
แอนทีรอส : อย่าห่วงเลย นางจะไม่ออกมาจนกว่าเรื่องนี้จะจบ
แอนทีรอสกล่าวพลางลุกขึ้นยืน
แอนทีรอส : เดลต้าฟังนะข้าในฐานะเทพแห่งการรักตอบ ข้าจะไม่ยอมให้พวกเจ้าทำอะไรคนทั้งคู่หรอก
เดลต้า :แล้วเจ้าจะทำอะไรข้า……………
แอนทีรอส : ข้าน่ะ ไม่ทำ แต่ท่านลุงของข้าน่ะไม่แน่
ฮาเดส : เดลต้า พอเถอะ!!!
เดลต้า : แค่ท่านราชา
ฮาเดส: (ขึ้นเสียง) ข้าบอกให้พอ!!!
แต่ทันใดนั้นเสียงนกหวีดเริ่มครึ่งหลังก็ดังขึ้น…………………ทีมของคิจังยังคงโดนเล่นสกปรกเหมือนเดิมซึ่งนั่นทำให้แอนทีรอสขบฟันอย่างโกรธแค้น
‘ฮานะจังถ้าตอนนี้เป็นเจ้า เจ้าจะแก้เกมยังไง’ แอนทีรอสคิดอยู่ในใจ
‘ถ้าเป็นหนูเหรอคะ ก็อย่างที่เตเรสบอก ทีมอินะสุมะ เจแปนเป็นทีมที่ดีแต่เหมือนว่าบางครั้งเราเป็นตั๊กแตนติดโถ อย่างตอนเราเจออังกฤษเราทำเต็มที่ถึงชนะ แต่พอมาเจอกับทีมอาเจนติน่าที่มีศักยภาพสูงกว่าในการป้องกันเรากลับเล่นเหมือนกับที่เราเล่นกับทีมอังกฤษไงคะเราถึงได้แพ้เพราะเรามัวแต่ไปคิดว่าฟอร์มการเล่นที่เราเล่นกับทีมอังกฤษนั่นคือฟอร์มการเล่นที่สุดยอดของเราแล้ว ทั้งๆที่เราสามารถพัฒนาไปจนขนะได้’ สิโนะ อธิบายให้แอนทีรอสฟังง่ายๆ โดยคิดว่าแอนทีรอสจะได้ยินเพียงคนเดียว แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นทั้งหมดที่อยู่ในสนามด้านล่างล้วนได้ยินเสียของเธอกันทั้งนั้น
คิจัง : (เงยหน้ามองลิโนะ) ขอบคุณมาก…………………ฮานะจัง
‘อืม…………….ไม่เป็นไรหรอกยูโตะคุง อย่าลืมเอาชนะให้ได้นะ’เสียงใสใสของลิโนะดังออกมา เพี่ยงแต่มันไม่ได้ดังออกมาจากผนังถ้ำเหมือนที่เคยแต่มันดังมาจากริมฝีปากบางของเธอเอง…………..เสียงนั้นดังมาจากร่างของเธอเอง
จากนั้นทีมของคิจังก็เริ่มเล่นดีขึ้นเรื่อยๆจะกระที่งตีตื้นจนสกอร์เสมอกับทีมของเดลต้าได้แต่แล้วทีมของเดลต้าก็งัดลูกไม้สกปรกขี้นมาใช้อีก โดยใช้มนต์ตรึงให้ทุกคนอยู่กับที่เพื่อที่ตนเองขะเข้าไปยิงประตู
ฮาเดส :เจ้าทำเกินไปแล้วนะเดลต้า!!! ทะจิมุไกเจ้าไปรับลูกสิเจ้าขยับตัวได้แล้วนะ
ฮาเดสตะโกนก้อง ทะจิมุไกที่ยืนนิ่งอยู่เมื่อสักครู่กลับพุ่งตัวมาเซฟลูกก่อนที่จะข้ามเส้น จากนั้นคิจัง ซากุมะ และฟุโดว ก็เตะเพนกวินจักรพรรดิ์ที่3เข้าประตูไป ตอนนี้สกอร์เป็น 3ประตูต่อ2 แล้วจากนั้นเวลาในนาฬิกาทรายที่กำหนดการแข่งขันก็ค่อยหมดลงไป……………สุดท้ายทีมของคิจังก็สามารถเอาชนะทีมของเดลต้าไปได้
แอนทีรอส : (พูดกับลิโนะที่อยู่ในร่าง) เห็นไหม ว่าไม่เป็นไร ข้ากับท่านลุดจัดการได้
‘ขอบคุณมากนะคะ…………..ขอบคุณมากจริงๆ’
ฮาเดส : (พูดกับลิโนะ) แต่เจ้าก็โง่มากรู้ไหมที่จะยองแลกวิญาณกันเดลต้าน่ะ
‘ก……………..ก็หนู………………….ไม่อยากให้ยูโตะคุงเป็นอันครายนี่คะ’ ลิโนะพูดด้วยน้ำเสียงที่สำนึกผิด
เพอร์เซโฟนี่ : เอาล่ะๆ ไม่มีใครว่าอะไรเจ้าหรอกนะ ตอนนี้มีเทพอยู่ตรงนี้ด้วยกันตั้งสามองค์ เราไม่ปล่อยให้มนุษย์อย่างพวกเจ้าเป็นอะไรแน่
‘ข………………..ขอบคุณค่ะท่าน’เสียงของลิโนะสั่นเครือด้วยความดีใจ
แอนทีรอส : ดีแล้วล่ะข้าจะได้หมดห่วงซักที
แอนทีรอสพูดพลางเดินหลบไปหลังก้อนหิน
แต่ทันใดนั้นทีมใหม่ที่เป็นลูกผสมระหว่างทีมสวรรค์กับทีมนรกก็ปรากฏตัวขึ้น
ฮิริว :นี่มันอะไรกันเนี๊ยะ (มองซ้าย มองขวา) แล้วแอนทีรอสล่ะแอนทีรอสไปไหน
แอนทีรอส :ข้าอยู่นี่
เสียงของแอนทีรอสดังขึ้น ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในร่างของลิโนะแล้วเทพแห่การรักตอบเดินออกมาในรูปแบบของเด็กหนุ่มผมทองเป็นลอนสวมชุดทูนิกทะมัดทะแมงพร้อมศรทองในมือ
แอนทีรอส : เอ๋…………ทำไมมองข้าอย่างนั้นล่ะ
เพอร์เซโฟนี่ :ก็นานๆทีได้เห็นตัวจริงของเจ้า ก็…………แปลกตาไปอีกแบบนะ
ฮิริว : ด………………..เดี๋ยวสิถ้าเจ้าอยู่นี่และน้องข้าล่ะ
แอนทีรอส : ข้าให้นางพักผ่อนอยู่หลังก้อนหินก้อนนั้นน่ะ ถ้าขืนข้าอยู่ในร่างของนาง นางคงไม่ยอมพักแน่
ฮิริวมองแอนทีรอสด้วยสายตาอันอ่อนโยนพลางส่งยิ้มให้
แอนทีรอส : (มองฮิริวอย่างหวาดๆ) มองอะไรห๊า ไอ้ซิสค่อน!!!
ฮิริว : ขอบคุณนะ
แอนทีรอส :ไม่ต้องขอบคุณหรอกมันเป็นเรื่องที่ข้าต้องทำอยู่แล้ว
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังก้องขึ้นมาจากในสนาม
“เรามีความคิดใหม่แล้วถ้าพวกเจ้าไม่ได้สู้เพื่อเด็กพวกนี้ล่ะ แต่ต้องสู้เพื่อตัวเอง……………..แล้วหัวใจของตัวเอง”
เสียงนั้นหยุดลงสมาชิกทั้งหมดของทีมดาร์กแองเจิ้ลหลบออกมาด้านข้าเผื่อเผยให้เห็นแท่นบูชาที่เลื่อนขึ้นมาโดยมีหญิงสาวคนหนึ่งนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนแท่นนั้น
เซน : น่ารักนะ ว่าไหม
เดลต้า : นางดูสวยมากในชุดโทก้า
เดลต้าเสริม
คิจัง : อย่าทำอะไรฮานะจังนะ!!!!
คิจังพูดเสียงดังด้วยความตกใจ
เสียงเรียกหา.........................คำแนะนำ.........................สายสัมพันธ์
ชุดโทก้า
- Spoiler:
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ลงของตัวเองซักหน่อย
ฮว้ากกกก ของพี่ฟ็อกซ์เนื้อเรื่องทำเอาลุ้นมากมาย มีฮาสุดๆ ก็ตอนฮิริวโดนว่าว่า ซิสค่อน กร้ากก (/โดนฮิริวจับไปขังในคุกใต้ดิน)
- Spoiler:
- โซ่ที่ล่ามฉันไว้ทำเอาฉันแทบขยับตัวไม่ได้เลย แล้วที่ข้อรัดก็ดูคล้ายๆ กับกุญแจมือเลย บาดข้อมือซะ... ถึงเลือดจะไม่ออกแต่ฉันก็รู้สึกช้ำๆ หน่อย เพราะโซ่ที่ล่ามเท้าไว้มันค่อนข้างหลวม แรงดึงจากน้ำหนักตัวเลยดึงเอาฉันลงเรื่อยๆ
....ฉันต้องรออีกกี่วันกันถึงจะออกไปจากการพันธนาการนี้ได้...
ชั่ววูบ หน้าของสมาชิกอินาซึมะคาราวานก็แว้บเข้ามาในหัว
.....จริงสิ....เราโดนพาตัวมาที่นี่โดยที่ไม่มีใครรู้เลย.....ถ้ากลับไปจะบอกพวกนั้นว่ายังไงดีล่ะ........หรือพวกนี้อาจจะตามรังควานเราอยู่.........ถ้างั้น.........อย่าเจอกันอีกเลยจะดีซะกว่ามั้ง.........
แอ๊ด~
เสียงเปิดประตูขัดให้ฉันหยุดความคิดของตัวเอง ฉันชายตามองนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะเหมือนตาตัวเองชักเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เห็นอะไรก็มัวๆ ไปหมด
“ไม่เป็นไรมากใช่ไหม”
อ้อ ฉันจำเสียงได้ หมอนี่คือคนที่พูดเพราะที่สุดในนี้แถมยังทำตัวเป็นกลางๆ ด้วย หรือนายจะเป็นสปาย ฮะ
แจ๊ส : “ไม่เห็นต้องถามเลย”
“ก็แค่อยากรู้เอง”
แจ๊ส : “…”
บรรยากาศเริ่มอึมครึ้มลง หมอนี่เงียบ ฉันก็เงียบ เอ่อ....ขอคิดก่อนว่าจะพูดอะไรดี
แจ๊ส : “นาย....มาทำดีกับฉันทำไมในเมื่อรอบๆ ตัวนายต่างก็คิดว่าฉันเป็นศัตรู”
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่คิดๆ ไปแล้วเผอิญว่าความคิดฉันกับพวกพี่ๆ ไม่ตรงกันเท่านั้นเอง”
แจ๊ส : ‘แต่ฉันว่ามันไม่ใช่แค่นั้นนะ’ “นายไม่กลัวโดนจับได้หรือไงถ้าทำแบบนี้”
“จับได้ก็จับสิ ไม่ได้ทีความสัมพันธุ์อะไรลึกซึ้งขนาดนั้นซักหน่อย... ก็แค่ลูกบุญธรรม”
แจ๊ส : “เอ่อ...ขอโทษนะที่....”
“ช่างเถอะ ฉันก็ไม่คิดมากกับเรื่องนี้แล้ว ถ้าเธออยากจะรู้เหตุผลจริงๆ ฉันก็จะบอกให้”
หมอนี่ลุกขึ้นยืนแล้วกลับหลังหันไปทางประตู
“ฉันแค่อยากอยู่ให้เป็นกลางมากที่สุด นี่แหละคือเหตุผล”
แจ๊ส : “…”
แต่ลางสังหรณ์ฉันไม่ได้บอกว่านั่นคือเหตุผลที่เป็นเส้นตรงของนายนะ
ดะ...เดี๋ยวก่อนสิ รู้สึกว่าตัวเองจะสอดรู้สอดเห็นเขาไปทั่วขึ้นทุกทีแล้วนะ
พอๆ เลิกฟุ้งซ่านแล้วไปคิดเรื่องหาทางรอดจะดีกว่า
----------------------------------------------------------
*= =*
เผลอหลับไปเลยแฮะ ไม่รู้เพลียหรือเพราะอากาศหนาวที่ทำให้เคลิ้มหลับไป รู้แค่ว่ารู้สึกอวัยวะภายในของตัวเองยังทำงานปกติดีอยู่ คิดว่าร่างกายฉันคงต้านฤทธิ์มันได้ดีอยู่นะ พิษมันคงไม่ร้ายแรงอย่างที่คิดหรอก
..........นอกจากว่ามันจะเห็นผลทีหลัง.........
ยังไงซะก็คงต้องคิดในแง่ดีเอาไว้ก่อน
แอ๊ด! แคร้ง!
ฉันหันหัวไปมองที่หน้าประตูทันทีที่ได้เสียงเปิดประตูอย่างดัง เปิดเบาๆ ก็ได้ ไม่มีใครไปประท้วงสักหน่อย ส่วนแก๊งที่มาก็เป็นพวกหน้าเดิมๆ ไม่สิ เอามาเพิ่มอีกคนด้วย กลัวอ่ะดิ เหอะๆๆๆ
“ตกใจง่ายจริงนะแกเนี่ย”
ไอ้อ้วนเถื่อนทักฉันเป็นคนแรกอย่างที่เคย
แจ๊ส : “เปล่าหรอก แค่อยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างเท่านั้นเอง”
“เหรอ~”
แจ๊ส : (ปล่อยหัวตัวเองให้ห้อยลงตามเดิม) “แกจะมาทำอะไรอีกล่ะ”
“ไล่กันทางอ้อมเหรอ แกน่าจะสำนึกบุญคุณที่ฉันอุตส่าห์ไม่ฆ่าแกมากกว่าถามอะไรโง่ๆ แบบนี้”
แจ๊ส : “จะให้ฉันสำนึกอะไรมิทราบ พวกแกเป็นใครมาจากไหนฉันยังไม่รู้เลยแล้วจะให้ฉันสำนึกบุญคุณพวกแกได้ยังไง”
“แบบนี้ไง....”
พลั่ก!!
แจ๊ส : “อึ่ก...”
ตัวฉันงอตามปกติที่โดนชกแต่งอได้แค่นิดหน่อยเพราะติดที่เจ็บข้อมือที่โซ่คล้องไว้
“เห.....ข้อมือแกยังไม่ขาดอีกเหรอ หนังเหนียวจริงนะ”
แจ๊ส : “...ด้านด้วย” (ไอเบาๆ) “อั่ก...” (โดนชกจนหน้าหันไปอย่างเร็ว)
“ฉันลืมบอกไป...ว่าเกลียดพวกที่ชอบต่อปากต่อคำด้วยเหมือนกัน”
แจ๊ส : “ไม่เห็นต้องบอกเลย ฉันไม่อยากรู้”
เพี้ยะ!
“แกฆ่าตัวแกเองนะ”
แจ๊ส : “แล้วทำไมฉันไม่ตายสักทีล่ะ”
พลั่ว!
“พูดอีกสิ......แกจะได้ทรมานอย่างงี้ต่อไปเรื่อยๆ”
แจ๊ส : “แกมาเพื่อแค่อัดฉันแค่นี้จะมากันทำไมให้เสียเวลาฮะ!”
“ฉันแค่อยากมาระบายนิดหน่อย แต่แกทำให้ฉันอยากระบายต่อเองนะ”
แจ๊ส : “ถ้าจะระบายละก็ ทำไมแกไม่อัดฉันให้เละไปทีเดียวเลยล่ะ มัวแต่มาอัดเช้าสายบ่ายเย็นทีละนิดแบบนี้ เสียเวลาแกเปล่า”
“ก็อยากทำให้มันเป็นเวลาเดียวอยู่หรอกนะ แต่คิดๆ ไป เวลาฉันอัดแกแบบนี้มนัสนุกดีว่ะเลยขอเก็บแกไว้ก่อน”
แจ๊ส : “พวกแกว่างงานกันนักหรือไงถึงได้มีเวลามาทำเรื่องชั่วๆ กัน”
“ไม่ได้ว่าง แค่งานมันไม่มาเท่านั้นแหละ….”
เสียงไอ้นี่เริ่มเปลี่ยนไปแล้วแฮะ เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ
“...แต่ตอนนี้ฉันขออัดแกสักตั้งดิวะ น่าจะจับมาอัดตั้งนานแล้ว....”
รังสีความโกรธแค้นแผ่ซ่านภายในเสี้ยววินาทีจนฉันรู้สึกได้แล้วช็อกไป....
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
รู้สึกตัวอีกทีก็........หางคิ้วซ้ายแตก ปากแตกทั้งข้างในแล้วข้างนอก จุกเข้ากระดูกสันหลัง คางช้ำ แก้มช้ำ ข้อมือเริ่มแสบมากขึ้นเรื่อยๆ......
และมันยังมีอีกอย่างหนึ่งที่ดังขึ้นจากในสมองฉันว่า........
‘ก็ดีแล้วนี่.......จะได้รู้ซะบ้างว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง.........จะได้รู้ซะบ้างว่า..........การเจ็บจากภายนอกมันเป็นยังไง......’
ฮว้ากกกก ของพี่ฟ็อกซ์เนื้อเรื่องทำเอาลุ้นมากมาย มีฮาสุดๆ ก็ตอนฮิริวโดนว่าว่า ซิสค่อน กร้ากก (/โดนฮิริวจับไปขังในคุกใต้ดิน)
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ฮ่ะๆ ของแจ๊สซังเองก็สนุกนะคะ สู้ๆ
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ต่อล่ะน๊าาาา................
- Spoiler:
- คิจังขบฟันของตัวเองอย่างโกรธแค้น
ฮารุนะ : พี่ชายค่ะ พี่ฮานะจังต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆคะ
ฮารุนะพูดพร้อมกับยิ้มให้ชายผู้เป็นพี่เพื่อให้กำลังใจทั้งๆที่เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าลิโนะจะเป็นอันตรายไหมหรือว่าลิโนะจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่
เซน :มาแข่งกัน เจ้ามนุษย์ โดยใช้เกมฟุตบอลที่เจ้ารัก
ทันใดนั้นร่างของลิโนะที่นอนนิ่งอยู่บนแท่นหินก็เรืองแสงขึ้นมา
เดลต้า : เริ่มแล้วสินะ
ระหว่างนั้นก็มีกิ่วทับทิมโผล่ขึ้นมาจากแท่นหินนั่นเพื่อรัดข้อมือของลิโนะเอาไว้
เพอร์เซโฟนี่ : (ผุดลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ) ทับทิม!!!ต้นไม้แห่งยมโลก!!! ไม่ได้นะมนุษย์คนนั้นยังตายไม่ได้
เธอร้องพร้อมกับชี้นิ้วไปที่กิ่งทับทิมที่กำลังจะเลื้อยมาพันรอบข้อมือของลิโนะ…………………ทันใดนั้นกิ่งหนาสีน้ำตาลไหม้ก็ค่อยๆบางลงจะเปลี่ยนเป็นเถาไม้เส้นบางๆสีเขียวอ่อน หนามของกิ้งทับทิมก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นใบไม้สีเขียวสด ส่วนผลทับทิมสีแดงฉานดุจเลือดก็ค่อยๆหดเล็กลงจนแปลเปลี่ยนเป็นดอกไม่สีม่วงสดไปในที่สุด
เพอร์เซโฟนี่ : (เหงื่อผุดพรายตามใบหน้า) นี่มัน………………..พลังอะไร…………………กันเนี๊ยะ
เธอพูดออกมาอย่างยากลำบากจนฮาเดสผุดลุกขึ้นมาอย่างตกใจ
ฮาเดส : มาข้าช่วยนะ
ฮาเดสยื่นมือออกไปประสานมือกับผู้เป็นราชินีทำให้พลังของเธอเพิ่มสูงขึ้นจนกระทั่งเปลี่ยนกิ่งทันทิมที่ตรึงลิโนะไว้กับแท่นหินนั้นให้เป็นเถาผักบุ้งทะเลจนหมด
‘ขอบคุณท่านทั้งสองมากนะคะที่พยายามช่วยหนู’
เสียงของลิโนะดังออกมาจากผนังถ้ำอีกครั้ง
ฮิริว : ฮานะจัง!!!ฮานะจัง!!!น้องอยูไหนน่ะ น้องได้ยินพี่หรือเปล่า!!!
‘ค่ะพี่หนูได้ยินพี่ค่ะ ’
ฮิริว : (ลนลานหันซ้าน-ขวา) น้องอยู่ไหนน่ะ กลับเข้าร่างสิแล้วกลับมาหาพี่
‘หนูก็อยากทำอย่างนั้นค่ะพี่แต่หนูเข้าร่างไม่ได้’
ฮิริว : (ขบฟัน) เป็นเพราะเจ้าคนเดียวเลยแอนทีรอส!!!
แอนทีรอส : มาโทษข้าคนเดียวได้ยังไงห๊ะ ไอ้นายซิสค่อน!!!
ฮิริว : โธ่เว๊ย!!! คำก็ซิสค่อนสองคำก็ซิสค่อน วันนี้ฉันขอเตะเทพถวายเจ้าซักทีเหอะ!!!
แอนทีรอส : เฮ้ย!!! อย่านะ อย่างน้อนข้าก็ยังเป็นเทพประจำตัวของฮานะจังอยู่นะ
ฮิริว : งั้นก็เลิกเป็นได้เลยโว๊ย!!!เทพผู้พิทักษ์ภาษาอะไรปล่อยให้คนที่ตัวเองปกป้องอยู่เป็นอันตราย
แอนทีรอส : (หลบเท้าของฮิริว) ข้าเลิกไม่ได้ เทพประจำตัวน่ะ ไม่ใช่ว่าเราเลือกคนที่จะปกป้องได้หรอกนะ
ฮิริว : หมายความว่าไง?
แอนทีรอส : ก็หมายความว่าเราเลือกเองไม่ได้น่ะสิ
ฮิริว : ถ้าฮานะจังไม่ได้เลือกเทพที่จะมาคุ้มครอง และเจ้าเองก็ไม่ได้เลือกที่จะมาคุ้มครองฮานะจัง แล้วใครเลือกกันล่ะ
แอนทีรอส : เดอะ เฟธ (เทพแห่งโชคชะตาทั้งสาม) ไง เดอะเฟธเป็นคนเลือกไม่ใช่ข้า ฮานะจังหรือว่าใครทั้งนั้น
ฮิริว: เดอะ เฟธ เหรอ…………………..
แอนทีรอส : เออ!! รู้แล้วก็เงียบปากซะไอ้ซิสค่อน คนเอ๊ยเทพกำลังใช้ความคิด
ฮิริว : เออ แล้วก็ช่วยคิดวิธีให้ได้แบบเทพๆด้วยนะ
‘พี่คะ!!! ท่านแอนทีรอส!!! หยุดทะเลาะกันก่อนได้ไหมคะ ดูนั่นก่อน!!! ยูโตะคุง!!! ยูโตะคุงแย่แล้ว’เสียงอันร้อนรนของลิโนะดังขึ้น ทั้งฮิริวและแอนทีรอสมองลงไปที่สนามเบื้องล่าง ทีมอินะสุมะเจแปน เตเรส และฟิดิโอ้ที่กำลังแข่งขันกันอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อที่จะทำสกอร์ตามตีคื้น
‘ยูโตะคุง………………………’เสียสะอื้นของลิโนะฟังแล้วช่างดูเศร้าสร้อยเหลือเกิน
ดูเหมือนว่าเสียงของเธอจะสื่อไปถึงชายหนุ่มในชุดผ้าคลุม เขาสะดุ้น้อยๆพร้อมกับขบฟันแน่น
‘ฮานะจัง!!!ผมต้องช่วยคุยให้ได้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม’ชายหนุ่มตะโกนก้องอยู่ในใจ
‘ชนะให้ได้นะยูโตะคุง……………ชนะพวกนั้นให้ได้นะ……………….เพื่อตัวนายเอง…………………………เพื่อพวกพ้อง’ลิโนะพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
‘ไม่!!!ถ้าผมจะชนะผมก็จะชนะเพื่อคุณ!!! ถ้าผมชนะ แล้วถ้าคุณไม่กลับมาชัยชนะของผมมันจะมีความหมายอะไรล่ะ’คิจังตะโกนก้องอยู่ในใจ
‘ยูโตะคุง…………………………….ฉัน…………………………..สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ……………………………สำคัญขนาดที่นาย…………………..’เสียงของลิโนะแผ่วเบาจนจางหายไปในอากาศ
‘ฮานะจัง!!!!ผมต้องช่วยคุณให้ได้ ต้องช่วยให้ได้!!!’คิจังคิดอยู่ในใจ
แต่ระหว่างนั้นเซนและเดลต้าก็ได้เตะที่คู่จนบอลเกือบเข้าประตูลิโนะตกใจมากเธอรีบถ่ายทอดพลังของเธอไปให้คาเบยามา โทบิทากะ และเอนโด เพื่อที่จะป้องกันประตู ……………..เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดสงบลงลูกบอลถูกปัดออกไปนอกสนามแล้ว ลิโนะที่มองดูเหตุการณ์อยู่อย่างไม่มีใครเห็นยิ้มออกมาอย่างโล่งอก…………….แต่เธอก็ต้องทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับกระอักเลือดออกมาอีกครั้งแต่ไม่ใช่แค่วิญญาณของเธอที่กระอักเลือดออกมาร่ากายของเธอที่นอนนิ่งอยูบนแท่นหินนั้นก็กระอักเลือดออกมาด้วย
คิจัง : (มองไปที่ลิโนะที่นอนอยู่บนแท่นหิน) ฮานะจัง!!!!
ฟุโดว : (มองภาพนั้นพร้อมกับขบฟันด้วยความเจ็บใจ) ฮึก!!!
เดลต้า: เจ็บใจเหรอ!!! ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ จบเกมนี้นางก็จะเป็นอาหารชั้นดีของจอมมาร ฮ่าๆๆๆๆ
คิจัง : (ขบฟันพร้อมกับกำหมัดแน่น) ฉันไม่ยอมหรอก!!!!
เซน : ลองห้ามฉันดูสิ!!! แต่คงจะยากหน่อยนะ เจ้ามนุษย์ ฮ่าๆๆๆๆ
คิจัง+ฟุโดว : ฉันจะไม่ให้แกทำอะไรฮานะจัง/ลิโนะจัง หรอกน่า!!!
เดลต้า : เหรอ……………..มนุษย์อย่างพวกเจ้าจะมาทำอะไรข้าได้ฮ่ะๆๆๆๆๆ
วิญาณของหญิงสาวมองภาพการแข่วขันในสนามแล้วเดินขึ้นไปหาฮิริวที่ด้านบน
‘พี่คะ’ลิโนะเรียกฮิริวด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าพลางเอื้อมมืมไปแตะไหล่ฮิริวทำให้ชายผมขาวที่นั่งอยู่สะดุ้งน้อยๆ
ฮิริว : ฮานะจัง!!!นั่นน้องเหรอ นั่นน้องใช่ไหม!!!
‘ค่ะพี่ นี่หนูเอง’ลิโนะพูดพร้อมกับคลี่ยิ้มบางๆ
ฮิริว : น้องอยู่ไหนน่ะทำไมพี่ไม่เห็น้องเลย!!!!
‘พี่คะหนูอยู่ข้างหลังพี่ไงคะ’ลิโนะพูดทั้งน้ำตา…………….ฮิริวหันกลับหลังพลางกวาดสายตามองซ้าย-ขวา
ฮิริว : น้องอยู่ที่ไหนน่ะ!!!
ลิโนะเดินมาคุกเข่าต่อหน้าฮิริวแล้วค่อยๆเอื้อมมือมาจับมือของฮิริว
‘หนูอยู่นี่ไง หนูจับมือพี่อยู่ พี่รู้สึกไหม’ลิโนะพูดพลางสะอึกสะอื้น
ฮิริว : (สะดุ้งน้อยๆ) พี่รู้แล้ว……………..พี่รู้……………..น้องอยู่นี่………………………ตรหน้าพี่
ฮิริวเอื้อมมือออกมาพลางลูบแก้มของลิโนะ……………..หญิงสาวจึงใช้อีกมือหนึ่งจับมือของฮิริวที่ยื่นออกมาจับแก้มของตนเอง
ฮิริว: (พูดอย่างเศร้าๆ) น้องกำลังร้องไห้นี่!!! อย่าร้องเลยนะ……………………ดอกผักบุ้งทะเลน่ะแข็งแกร่ง…………..แข็งแกร่งเสมอ
ลิโนะโผเข้ากอดฮิริว
‘ค่ะพี่หนูจะเข้มแข็ง’ลิโนะพูดเสียงเครือพอดีกับที่การแข่งขันครึ่งแรกจบลง
‘จบแล้วสินะครึ่งแรกน่ะ…………………….’ลิโนะมองไปที่สกอร์บอร์ดซึ่งแสดงตัวเลขที่เสมอกันอยู่
แต่อยู่ๆแอนทีรอสก็ยิงศรมาปักที่หินกลางวงของทีมดาร์ก แองเจิ้ล
เดลต้า : แอนทีรอส!!!
แอนทีรอส : เจ้าน่ะยอมแพ้ซะเถอะ อย่างเจ้าน่ะไม่สามารถเอาชนะความรักของมนุษย์ได้หรอก!!!!
เดลต้า : ทำไม!!! ทำไมข้าถึงจะเอาชนะมนุษย์อ่อนแอพวกนี้ไม่ได้!!!
แอนทีรอส : ก็เพราะเจ้าไม่เคยมีความรักไง!!!มนุษย์พวกนี้น่ะใช้ชีวิตอยู่บนความรัก สายใย และความสัมพัน เป็นสิ่งที่เจ้าไม่เคยมี!!!
เดลต้า: ข้าไม่เชื่อ!!!!แอนทีรอสเจ้าโกหก!!!
ฮาเดส : จริงสิ!!! ใครจะรู้เรื่องความรักดีไปกว่าเทพแห่งความรักล่ะ
ฮาเดลพูดพลางปรายตาไปมองร่างของลิโนะที่เวลานี้มีเถาผักบุ้งทะเลรัดหนาขึ้นทุกที
ฮิริว : ฮานะจังมีเวลาเหลืออีกเท่าไหร่ครับ
ฮาเดส : ตอนนี้คงมีหนทางเดียวที่ช่วยนางได้
ฮิริว : ทางไหนเหรอครับ
แอนทีรอส : .ให้คิโดคุงกับพวกชนะเกมนี้……………….พวกนั้นน่ะถึงเป็นมารก็จริงแต่ถือวาจาสัตย์มากเลยล่ะ ถ้าคิโดคุงชนะเกมนี้ พวกนั้นก็จะปล่อยพวกคิโดคุงไป
ฮิริว : แล้วไม่มีทางไหนที่เราจะช่วยเขาได้เลยเหรอครับ
ฮาเดส: เรื่องนั้นวางใจได้ข้ากับแอนทีรอสจะจัดการเอง
เกมครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นรูปเกมดูไม่ดีเลยฝ่ายของคิจังดูเหมือนว่าจะโดนบุกอยู่ฝ่ายเดียวทุกคนล้วนแต่โดนบอลอัดจนล้มลงไปกับพื้น
‘ยูโตะคุง!!!ทุกคน!!!’ลิโนะพูดพลางวิ่งลงไปในสนามแล้วคุกเข่าลงข้างๆคิจัง
‘เจ็บมากไหม………..’ลิโนะพูดสียงเครือพลางเอามือไปสัมผัสแผลที่หัวเข่าของคิจังอย่างแผ่วเบาทันใดนั้นแผลที่เคยเลือดไหลของคิจังก็หายกลับเป็นแค่รอยถลอกธรรมดา
แอนทีรอส : (พูดเบาๆกับฮิริว) เจ้าเห็นไหม นั่นล่ะ พลังแห่งความรักล่ะ ถึงตอนนี้จะอยู่กันคนละโลก แต่ยังสามารถสื่อถึงกันได้ตลอดเวลา
ฮิริว : (มองตามแอนทีรอส) นั่นสิ
แอนทีรอส : ทั้งสองคนรักกัน แต่ไม่เคยเอ่ยปากบอกกันเลย……………..
ฮิริว : นั่นสินะ
ฮิริวปลายตาไปมองในสนามเกมจบลงด้วยการที่ทีมอินะสุมะเป็นฝ่ายชนะไป สองประตูต่อหนึ่ง ทั้งหมดวิ่งมาดีใจกันที่กลางสนาม ที่แท่นบูชาเถาวันที่ตรึงร่างของลิโนะไว้ค่อยๆคลายออกและสลายไปในที่สุด……………..คิจังรึบวิ่งไปที่แท่นหินและอุ้งลิโนะลงมา
คิจัง : (เขย่าตัวลิโนะ) ฮานะจัง!!!ฟื้นสิฮานะจัง!!!
ฮิริว : ทำไมฮานะจังถึงยังไม่ฟื้นล่ะ
แอนทีรอส : ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่า ทั้งสองคนรักกัน แต่ไม่เคยเอ่ยปากบอกกันเลย……………..
ฮิริว : อ……………..อืม
แอนทีรอส : นี่คือบทลงโทษจากฉันเทพแห่การรักตอบ เมื่อไหร่ก็ตามที่คิโดคุงพูดคำนั้นออกมาจากหัวใจ วันนั้นน้องสาวเจ้าจะฟื้นขึ้นมา……………………ทั้งสองควรจะได้พูดคำนั้นก่อนที่มันจะสายไป
แอนทีรอสพูดจบพร้อมกับเดินออกไปพร้อมกับฮาเดลและเพเซโฟนี่
ฮิริว : ขอบคุณ ขอบคุณท่านทั้งสามมากจริงๆ
ชายผมขาวพูดขอบคุณเทพทั้งสามที่เดินออกไปอย่างจริงใจ………..แล้วรีบวิ่งลงไปสมทบกับพวกคิจัง
ฮิริว : แล้วพวกดาร์กแองเจิ้ลล่ะไปไหน
เอนโด : แยกย้ายกันไปแล้วครับ……………………..
เอนโดปรายตาไปมองคิจังที่กำลังพยายามปลุกลิโนะอยู่
ฮิริว : อย่าพยายามเลย
คิจัง : ทำไมล่ะครับ
ฮิริว : ก็เพราะถ้าฝืนทำแบบนั้นไปยังไงฮานะจังก็ไม่ฟื้นหรอก
คิจัง : ทำไม…………………….
ฮิริว : ก็เพราะว่าที่ฮานะจังยังไม่ฟื้นน่ะมันคือบทลงโทษของพวกเธอทั้งสองคน…………………….บทลงโทษที่ให้พูดคำนั้นก่อนที่จะสายไป
คิจัง : (เงยหน้ามองฮิริว) ก่อนที่จะสายไป……………..งั้นเหรอ
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ฉากฮาตามมาด้วยดราม่า ว้ากกก สุดยอด (โรคเก่ากำเริบแล้วววว/โดนหามมส่งโรง'บาล)
อ้า..........ลงของตัวเองต่อ
อ้า..........ลงของตัวเองต่อ
- Spoiler:
- ฉัน...ไม่อยากหมดแรงตอนนี้เลย ในเมื่อมือตัวเองยังติดอยู่ในห่วงกุญแจมืออยู่อย่างนี้ น้ำหนักตัวมันก็ยิ่งถั่วให้ลงเรื่อยๆ ข้อมือก็โดนแรงกดเต็มๆ
เวลาผ่านพ้นไปเรื่อยๆ ขณะที่ฉันกำลังหาทางไม่ให้ตัวเองสนใจกับความเจ็บปวดที่ข้อมือ แต่มันกยังคงเหมือนเดิม ทั้งฝืนทั้งปล่อย ยังไงๆ ก็ยังเจ็บอยู่เหมือนเดิม
แต่...อ๊ะ ชาแล้วนี่ เฮ่อ ค่อยยังชั่วหน่อย
ทีนี้ก็เหลือแค่คิดว่าจะออกไปยังไงดีในเมื่อติดอยู่แบบนี้ ขยับขาเตะก็ไม่ได้ มือยิ่งต้องระวัง ถ้าเหวี่ยงตัวมากเกินไปคงได้แผลมาฟรีๆ แน่ อาวุธก็ไม่มีติดตัวเลย ถึงมีคงไม่ได้ใช้งาน อย่าเพิ่งคิดถึงอาวุธเลยดีกว่า โดนมัดข้อมือพันๆ กันแบบนี้ยิ่งทำให้เคลื่อนไหวยากด้วย อากาศในนี้ยิ่งหนาวๆ อยู่ มือเท้าก็พากกันเย็นเฉียบไปหมด นี่ฉัน...หมดหนทางแล้วเหรอ
.....บลู...ถ้าเราไม่ได้เจอกันอีกจะเป็นอะไรรึเปล่า.......เธอเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันคนหนึ่งเลยนะรู้ไหม.......คอยเป็นเงาให้ฉันตลอด..........รู้ใจกันโดยที่แทบจะไม่ต้องพูดกันทั้งวันเลยก็ได้......ทั้งเหมือนทั้งคล้ายปนๆ กันไป..............แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า..........เราสนิทกันแค่นี้จริงๆ งั้นเหรอ..........
ฉันหลับจาลงและพบกับภาพบุคคลที่หน้าตาเหมือนๆ กับตัวเอง .......บลู....... คนที่ฉันไม่เคยชนะในเรื่องของความเย็นชาเลย
บลูเป็นเหมือนทั้งนกอินทรีและนกฮูกในเวลาเดียวกัน เพราะไม่เลยนอนหลับเลยและไม่คิดที่จะหลับด้วย กลางวันกระตือรือร้น กลางคืนก็ตาใสแป๋ว ฮ่ะๆ เวลามองหน้าทีไรตาบลูก็จะเป็นอย่างนั้นแหละ
เรื่องสู้ก็ใช่ย่อย ถึงจะไม่ค่อยเก่งในการเดี่ยวตัวต่อตัวแต่โดยรวมก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเพราวางแผนเก่ง ชอบวางแผนก่อนมากๆ เลย โดยเฉพาะก่อนเวลาจริง เพราะงั้นเลยไม่ถนัดต่อสู้เดี่ยว สู้ไปสู้มาก็เอาแต่คิดวางแผนจนไม่รู้เลยว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว เคยมีครั้งหนึ่งที่ท่านพ่อลองทดสอบแล้ว บลูได้คะแนนแค่ 4 ส่วน 10 คะแนน เกือบดีแล้วแหละนะ ^^
ถึงบลูจะดูออกหยิ่ง แต่ฉันหยิ่งกว่าเยอะ เรื่องนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไรฉันถึงชอบเอาแต่เชิ่ดๆๆ อยู่นั่นแหละ
บลูแทบจะถูกฉันเรียกว่า สมุดบันทึกเพื่อการอยู่รอด เลยก็ว่าได้ รู้แทบจะทุกอย่างเลยอ่ะ นอกจากบางอย่างและอนาคตเหอะๆ แน่ล่ะ ต่อให้วิเศษมาจากไหนก็หยั่งรู้ถึงอนาคตไม่ได้ นอกจากจะมีลางสังหรณ์
คิดๆ ไปถึงตอนที่ดาร์กมาเข้าสิงฉัน ฉันรู้สึกได้เลยว่าบลูทำอะไรไปบ้าง ถึงจะรู้ไม่หมดก็ตาม ตอนที่ฉันยังไม่สลบไปเมื่อโดนดาร์กเข้าสิงฉันก็รู้ทุกการกระทำของเพื่อนคนนี้ ที่ไม่ยอมทำร้ายดาร์กในร่างฉัน ไม่ยอมฝืนอะไรทั้งนั้น เพียงเพราะเหตุผลแค่ว่า........ไม่อยากให้ฉันเจ็บตัว......ก็เท่านั้นแหละ น่าตลกนะ เมื่อก่อนยังชอบดั้นด้นให้ฉันไปเสี่ยงตายทุกครั้งเลย คิดเมื่อไหร่ก็ขำ
บลูไม่ได้เป็นบุคลิกที่ไปสิงใครก็ได้ แต่เป็นตัวตน......เป็นตัวตนอีกครึ่งหนึ่งของตัวฉัน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเราเจอกันเมื่อไหร่ ที่ไหน ยังไง รู้แค่ว่า........พออยู่ด้วยกันแล้วฉันรู้สึกเหมือนว่าเรารู้จักกันมาทั้งชีวิตแล้วล่ะ
อ้อ มีเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องสร้อยที่มีเม็ดอัญมณีรูปหยดน้ำอะไรซักอย่างที่ฉันใส่อยู่ มันแปลกตรงที่ว่า สีของมันมักจะตรงกับสีตาของฉันตลอดเลย และบลูก็บอกไว้ด้วยว่าห้ามถอดเด็ดขาด ฉันก็แปลกใจอยู่ แต่เห็นว่ามันดูเท่ห์ดีเลยใส่ไว้กับตัวตลอด
ทุกๆ คืนที่ฉันชอบเข้าไปในป่าก็เพื่อฝึกฝนตัวเองการต่อสู้เพื่อให้อยู่คนเดียวได้ แต่.......ในสถานการณ์ตอนนี้.......ฉันคงจะต้อง....ยอมแพ้แล้วมั้ง.....
รู้สึกคล้ายๆ จะมีอะไรสักอย่างคล้ายๆ น้ำแต่เหนียวกว่านิดๆ ไหลลงมาจากข้อมือฉัน แต่ก่อนที่ฉันจะคิดอะไรไปได้มากกว่านี้ ประตูกรงขังก็เปิดออก
วันนี้มาแปลกแฮะ มากันแค่สี่คนเอง
“อย่างที่คิดไว้เลยเนาะ 55555555555+”
มาอีกแล้วโอเปราประสานเสียง แค่แตกต่างจากคราวที่แล้วเพราะคราวนี้มีแค่สี่โทน
“สุดท้าย......หนังหยาบๆ ด้านๆ ก็ไม่อึดอย่างที่มันควรจะเป็น”
พูดอะไรของแกเนี่ย
“พวกเราว่าไหม เหล็กที่ถูเหลาให้แหลมๆ นี่คมสุดๆ ไปเลยนะ ตัดขาดแม้กระทั่งหนังควาย แล้วก็ทนทานมากๆ ด้วย”
แจ๊ส : “สุดท้ายก็ถูกสนิมกินอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”
“..... ใช่สิ .... ใช่มากๆ ด้วย เอ๋ เดี๋ยวก่อนนะ วันนี้ยังไม่ได้อัดคนเลยนี่หน่า ขออัดแกก่อนเป็นรายแรกเลยละกันนะข้อหาสอดโดยไม่ได้รับอนุญาต”
แจ๊ส : (เบี่ยงหน้าหนีนิดๆ) “แกจะเป็นอะไรก็ช่าง ฉันไม่สน แต่บอกตามตรงนะ ฉันไม่เคยเห็นแก๊งคนชั่วๆ ที่มีหัวหน้าแก๊งออกแนวมั่วๆ ไปวันๆ แบบนี้มาก่อนเลย มันปัญญาอ่อนสุดๆ เลยแกรู้ป่ะ”
“......”
หมอนี่เงียบไปและดูเหมือนตัวจะสั่นๆ ด้วย บอกได้เลย ถ้าฉันทำอะไรได้เมื่อไหร่ก็จะฆ่าไอ้อ้วนเถื่อนนี่เป็นคนแรก คนบ้าๆ บอๆ ไปวันๆ อย่างมันอยู่ไปก็เปลืองพื้นที่ประชากรเปล่าๆ
“..ฉันไม่ใช่หัวหน้าแก๊ง...หัวหน้าแก๊งคือพี่สาวของพวกเรา......”
แจ๊ส : (พูดขัด) “อ้อ งั้นเหรอ เก่งเนาะบังคับผู้ชายทั้งฝูงได้”
“มันจะมากไปแล้วนะ!!!”
แจ๊ส : “อุก...” (โดนต่อยเข้ากลางท้องจนตัวอ่อนเหมือนสลบไป)
“ใครก็ตามที่มาว่าท่านพี่ของพวกเรา พวกเราไม่ให้อภัยแน่”
แจ๊ส : (เงยหน้าขึ้นทันทีพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา) “ว้าว รักใคร่กลมเกลียวกันจริงๆ สงสัยคงรักกันจนห่างกันไม่ได้แม้เสี้ยววินาทีแหงๆ” (โดนตบจนแผลในปากเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย)
“ทุเรศ ขั้นนั้นมันเกินไปแล้ว”
แจ๊ส : “ไม่เห็นเกินเลยนี่ ฉันยังเคยเห็นเพื่อนที่สนิทกันสุดๆ เดินด้วยกันทั้งวันเลย ไม่รู้ว่านอนเตียงเดียวกันด้วยรึเปล่านะ” (โดนชกเข้าท้องอย่างจัง)
“ฉันก็เหมือนกับแกนั่นแหละ ไม่ต้องมาพูดอะไรที่แกรู้มากๆ ให้ฉันฟังก็ได้”
แจ๊ส : “ไนเมื่อฉันกับแกพูดเหมือนกัน ทำไมแกไม่หัดหยุดบ้างล่ะ” (โดนเตะจนตัวปลิว)
“แกหาวเรื่องเองนะ ช่วยไม่ได้”
แจ๊ส : (พึมพัมเบาๆ) “ฉันไม่ได้ถามแกซักหน่อย โอย.....”
จุกสุดๆ เลย ครั้งนี้
“อ๊ะ เกือบลืมเรื่องสำคัญไปแหนะ เอาล่ะพวกเรา เริ่มขนย้ายยัยนี่ได้เลย”
แจ๊ส : “ว่าไงนะ” ‘ย้ายฉันเหรอ จะเอาฉันไปไหนอีกล่ะ อย่ามาพูดคำว่า ‘ยัย’ ใส่ฉันนะเฟ่ย’
ด้วยแรงที่ไม่มีเหลือแม่จะชันหัวตัวองขึ้น ฉันถูกพวกนั้นจับลงบนเปลหามอย่างง่ายดาย ตอนลงเห็นข้อมือทั้งสองข้างของตัวเองด้วย ....เลือด....เลือดไหลออกมาไม่หยุดเลย คนเพราะโดนอัดแรงๆ นานๆ แผลเลยลาม
แล้วไอ้พวกนี้..... แกจะพาฉันไปไหนฮะ!
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
มาต่อเลย
เสียงเรียกขอเพื่อน............................เสียงของหัวใจ.............................เสียงของ...............เขา
- Spoiler:
- เมื่อถึงที่บ้านพักฮิริวที่อุ้มลิโนะอยู่ก็รีบเดินเข้าไปทีห้องของลิโนะด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
ฮิโระ : (ตกใจ) พ……………พี่ฮิริว
ชิกะ : เกิดอะไรขึ้นแล้วทำไมลิโนะจังถึง…………………..
ฟุโดว : ทำไมไม่ลองถามคิโดดูล่ะ!!!! (เน้นเสียงทุกพยางค์) จริงไหม คิโดซัง!!!
คิจัง : ( สะดุ้ง) อ่ะ เอ่อ…………………………….
เอนโด ;เอาน่าๆพวกเราก็เป็นห่วงลิโนะจังไปไม่น้อยกว่าพวกนายสองคนหรอกนะ
เอนโดพูดพลางเดินตามฮิริวขึ้นไปดูอาการลิโนะที่ด้านบน
ฮิโระ : (กอดแขนโกเอนจิ) ชูยะคุง…………….นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่น
โกเอนจิ : มันเป็นการลงโทษ……………….การลงโทษของเทพแห่งความรัก
ฮิโระ :แอนทีรอสงั้นเหรอ
โกเอนจิ : อืนเห็นว่า เป็นเพราะทั้งสองคนไม่ยอมรับความรู้สึกของตนเองน่ะ
ชิกะ : (กอดแขนฟุบุกิอย่างหวาดๆ) นี่ชีโร่คุง น่ากลัวจังเลยนะ
ฟุบุกิ : ฮ่ะๆผมอยู่นี่ไม่ต้องกลัวอะไรนะครับ
ที่ห้องของลิโนะ…………..
ทุกคนที่ทอยู่ในห้องยืนล้อมเตียงที่มีร่างของลิโนะนอนนิ่งอยู่โดยมีฮิริวนั่งอยู่ข้างเตียง………………….ฟุโดวขบฟันอย่างเจ็บใจ
ฟุโดว : อึก!!!
‘ลิโนะจัง…………………ถ้าเธอ………………………….ถ้าเธอรักฉันเรื่องแบบนี้คนไม่เกิดขึ้นใช่ไหม’ ฟุโดวคิดอยู่ในใจอย่างโกรธแค้น
‘ขอโทษด้วยนะ…………………….ขอโทษด้วยนะฟุโดวคุงคือฉันไม่……………………………..ฉันไม่ได้คิดกับนายแบบนั้น ฉันให้นายได้แค่เพื่อน เท่านั้นเอง เท่านั้นจริงๆ’ลิโนะตอบกลับแต่ทุกคนกลับไม่ได้ยินเสียงของเธอ
ฟุโดว : หี!!!
ชายเจ้าของผมทรงโมฮอกว์เดินอย่าหวุดหงิดออกไป
เอนโด : เอ๋………………….เขาเป็นอะไรของเขาน่ะ
คาเบยาม่า : เมื่อไหร่คุณลิโนะจังจะฟื้นล่ะครับ
โคงูเระ : นั่นสิ
สึนามิ : (มองซ้ายมองขวา)เฮ้พวกเราอย่าเศร้าอย่างนั้นสิไม่ดีเลยนะ ป่ะลงไปทานอาหารข้างล่างดีกว่าป่านนี้อากิจังคงเตรียมอะไรอร่อยๆไว้ให้เรากินเต็มไปหมดแล้วล่ะ ป่ะๆ
เมื่อเห็นสึนามิพูดดังนั้นทุกคนจึงทยอยกันเดินออกจากห้องของลิโนะ
ฮิริว : (คว้าข้อมือคิจัง) คิโดคุงขอถามอะไรหน่อยสิ
คิจัง : อ……………อะไรเหรอครับ
ฮิริว : ยังจำที่ฉันเคยถามนายได้ไหม
คิจัง : ค………………..ครับคุณถามผมว่า ผมคิดยังไงกับน้องสาวของคุณ
ฮิริว : ใช่ และวันนี้ฉันขอคำตอบนั้นได้ไหม
คิจัง : ค………………..ครับ ฮานะจัง ……………….เป็นคนสำคัญของผมเป็นคนที่ผมจะต้องปกป้องไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
ฮิริว : (ส่ายหัว) นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันต้องการ…………………….นี่คิโดคุงรู้ไหม ถ้าเป็นน้องสาวฉัน ถ้าเป็นฮานะจัง………………..นายคงไม่ต้องมานอนอย่างฮานะจังตอนนี้แน่……………..ฮานะจังต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อให้นายกลับมา
ฮิริวพูดแค่นั้นก็ลุกเดินออกไปจากห้องทิ้งให้คิจังอยู่กับลิโนะตามลำพัง
คิจัง : (เดินไปนั่งที่ข้างเตียงของลิโนะ)ฮานะจัง……………………….ฟื้นขึ้นมาสิ……………………………..ฟื้นขึ้นมาคุยกับผม……………….ฮานะจังคุณอย่าทิ้งผมอย่างนี้ได้ไหม………………………ไหนบอกว่าจะไม่มีวันหันหลังให้ผมไง……………………………ไหนคุณบอกว่าจะเดินเคียงข้างกับผมไงแล้วทำไมตอนนี้ถึงทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวล่ะ(จับมือลิโนะขึ้นมา)ผมไม่อยากอยู่คนเดียวนะฮานะจัง……………………..(เอาแก้มไปแนบกับมือของลิโนะ)
When the waves are crashing down
Pulling you to sorrow
I will sail you back to shore
When there are no more heroes
Over under, near or far
I'll be right beside you
Standing here with open arms
When there are no more heroes
ยามเมื่อคลื่นซัดสาด
มันพาคุณกลืนหายลงไปในความทุกข์
ผมเอง……………………เป็นผมเองแหละ ที่จะพาคุณกลับมาสู่ฝั่ง
เมื่อไม่มีใครที่จะที่จะอยู่เพื่อคุณ
ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม……………………..
ผมก็จะอยู่เคียงข้างคุณ
พร้อมกับอ้อมกอดที่มีให้กับคุณ………………………คนเดียว
ในยามที่ไม่มีใครอยู่เคียงข้างคุณ
And through it all
And through it all
When you're tired and you stumble I will carry you
When starlight falls, my love will guide you home
You'll never be alone
When there are no more heroes
และทั้งหมดนี้………………
และทั้งหมดนี้…………………………
ในยามที่คุณอ่อนล้าและกระอักกระอ่วนใจ…………………….ผมจะเป็นคนที่คอยโอบอุ้มคุณเอาไว้เอง
ยามที่ไม่มีแสงดาวนำทาง…………………ความรักของผมจะนำทางคุณกลับสู่………….บ้าน
คุณจะไม่โดดเดี่ยว
เมื่อไม่มีใครที่ยืนอยู่เคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ
It was you who showed me how
Brought me back to glory
Through hopelessness and darkest days
It was breath you gave me
เป็นคุณนั่นเองที่ทำให้ผมรู้ว่าการที่จะกลับมาเป็นตัวของตัวเอง
ข้ามผ่านความสิ้นหวังค่ำคืนที่มีนมินที่สุด
นั่นคือลมหายใจที่คุณมอบให้ผม
And through it all
And through it all
When you're tired and you stumble I will carry you
When starlight falls, my love will guide you home
You'll never be alone
When there are no more heroes
และทั้งหมดนี้………………
และทั้งหมดนี้…………………………
ในยามที่คุณอ่อนล้าและกระอักกระอ่วนใจ…………………….ผมจะเป็นคนที่คอยโอบอุ้มคุณเอาไว้เอง
ยามที่ไม่มีแสงดาวนำทาง…………………ความรักของผมจะนำทางคุณกลับสู่………….บ้าน
คุณจะไม่โดดเดี่ยว
เมื่อไม่มีใครที่ยืนอยู่เคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ
And through it all
And through it all
When you're tired and you stumble I will carry you
When starlight falls, my love will guide you home
You'll never be alone
When there are no more heroes
และทั้งหมดนี้………………
และทั้งหมดนี้…………………………
ในยามที่คุณอ่อนล้าและกระอักกระอ่วนใจ…………………….ผมจะเป็นคนที่คอยโอบอุ้มคุณเอาไว้เอง
ยามที่ไม่มีแสงดาวนำทาง…………………ความรักของผมจะนำทางคุณกลับสู่………….บ้าน
คุณจะไม่โดดเดี่ยว
เมื่อไม่มีใครที่ยืนอยู่เคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ
And through it all
And through it all
When you're tired and you stumble I will carry you
When starlight falls, my love will guide you home
You'll never be alone
No no,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
When there are no more heroes
และทั้งหมดนี้………………
และทั้งหมดนี้…………………………
ในยามที่คุณอ่อนล้าและกระอักกระอ่วนใจ…………………….ผมจะเป็นคนที่คอยโอบอุ้มคุณเอาไว้เอง
ยามที่ไม่มีแสงดาวนำทาง…………………ความรักของผมจะนำทางคุณกลับสู่………….บ้าน
คุณจะไม่โดดเดี่ยว
ไม่เลย……………….
เมื่อไม่มีใครที่ยืนอยู่เคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ
When there are no more heroes
ในยามที่คุณไม่เหลือใคร
วิญญาณของลิโนะที่มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดร้องไห้ออกมาเพราะภาพที่เห็นตรงหน้าเธอเดินตรงไปกุมมือของคิจังเอาไว้
‘ฉันรู้………………………ฉันรู้……………….ว่านายอยากให้ฉันกลับไปหานาย……………………….ตัวฉันเองฉันก็อยากกลับไปหานายเหมือนกัน……………………สัมผัสนายด้วยมือของฉันเอง………………………….ได้อยู่ในอ้อมกอดของนายอีกครั้ง’ลิโนะสะอื้นพลางเอนตัวไปให้ศรีษะแนบอกของคิจัง
คิจัง : (สะดุ้ง) ฮานะจัง!!! นั่นคุณใช่ไหม กลับมาสิ กลับมาหาผม ผมต้องการคุณนะ!!!
‘ยูโตะคุง……………’
คิจัง : ฮานะจัง!!!.................ผม…………………
‘ฉัน……………………………’
คิจัง+ลิโนะ : ผมรักคุณ!!!/ฉันรักนาย!!!
เสียงเรียกขอเพื่อน............................เสียงของหัวใจ.............................เสียงของ...............เขา
- Spoiler:
- ]
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ช้าไปหลายก้าวเลยเรา ฮา.... (อารมณ์ดีจริ๊ง)
พรุ่งนี้จะได้ไปเรียนซัมเมอร์แล้ว...... โฮ ไม่อยากไปเลย (ช่างเปลี่ยนได้ไวมาก เฮ้ย แล้วแกไปลงไว้ทำไมล่ะ)
ลงเรื่องของตัวเองก่อนดีกว่า
ไม่ได้ตั้งใจให้ยาวเล้ย(เหรอ?).........แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็ เฮ้ย! กะจะตัดบทตอนนั้นไม่ใช่เหรอ
แต่ก็ช่างมันเถอะ ไหนๆ มันก็ออกมาละ
พรุ่งนี้จะได้ไปเรียนซัมเมอร์แล้ว...... โฮ ไม่อยากไปเลย (ช่างเปลี่ยนได้ไวมาก เฮ้ย แล้วแกไปลงไว้ทำไมล่ะ)
ลงเรื่องของตัวเองก่อนดีกว่า
- Spoiler:
- ฉันพยายามจะขยับตัวเพื่อจะได้ออกจากแปลหามนี่ในขณะที่ไม่มีอะไรรัดตัวเองไว้เลย แต่เหมือนโดนเล่นตลก เพราะฉันไม่สามารถบังคับร่างกายให้ขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย
“ไงพวกเรา........พร้อมกันแล้วใช่ไหม”
ผ่านโพรงมืดสู่สถานที่โล่งเตียน สายลมเอื่อยๆ พัดมาแทนที่ฉันจะรู้สึกสบายกลับรู้สึกหวาดกลัวอย่างน่าประหลาด แสงอาทิตย์ที่ส่องโดนหน้าฉันทำให้ร่างกายที่เย็นเฉียบค่อยๆ อุ่นขึ้น
“เอ้า มัดมันไว้ตรงนี้ ล็อกแขนมันให้แน่นด้วย”
“ครับ!”
“ขาด้วยล่ะอย่าลืม”
“พี่ครับ ล็อกขาข้างนี้ไม่ได้ครับ”
“ไหนดูซิ........ โหไอ้บ้า แกจับท่านี้มันจะไปล็อกได้ไงวะ”
“พี่ครับ เหล็กข้างนี้งอครับทำไงดี”
“เดี๋ยวฉันไปดูให้ รอตรงนี้เสร็จก่อน เอ้าไอ้น้องชาย กดนะ 1..2..3...”
แจ๊ส : (ตะโกนพร้อมกับรู้สึกตัว) “โอ้ย!”
“สำออยนักนะแกเนี่ย ทีตอนโดนอัดไม่ร้องสักนิด”
อ๊ะ....ฉันอยู่ไหนเนี่ย หันไปทางซ้ายก็เจอคนกำลังล็อกข้อมือฉันอยู่ ข้างขวาก็กำลังล็อกแขนฉันด้วยปลอกอะไรไม่รู้ ข้างล่างตัวเองก็กำลังล็อกขาด้วยปลอกอะไรไม่รู้ด้วยเหมือนกัน
ฉันพยายามจะขยับตัวหนีแต่.....
แจ๊ส : (เจ็บบริเวณแขนซ้ายและขาคล้ายๆ ถูกของแหลมแทง) “โอ้ย.......พะ...พวกแก....จะทำอะไร...น่ะ”
“แค่เสียงยังแทบจะไม่มีไม่ต้องสอดพูด! เปลืองขี้ฟัน”
เขามีแต่น้ำลายไม่ใช่เหรอ เอ๊ะ หรือว่าแกลอบด่าฉันเพราะฉันไม่ได้เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเลย หน็อย........ปล่อยฉันนะ! ฉันจะไดไปเฉือนคอไอ้หมอนี่ไปให้ฉลามมันเคี้ยวเล่น
“ตอนอยู่ในคุกไม่เห็นซ่าแบบนี้นี่หว่า หิวจนคลั่งหรือไง 55555 ไอ้กระทิงตกมัน”
ไอ้อ้วนเถื่อนพูดพร้อมกับยืนขึ้น
ขอบใจที่เปรียบเทียบให้เห็นภาพนะ......... สงสัยว่าชื่อที่ฉันให้ไปมันจะน้อยไปว่ะ คิดให้ใหม่ก็ได้...
แจ๊ส : “ฉันไม่ได้หิวซักหน่อย”
ฉันพูดพร้อมกับภาวนาให้ท้องไม่ร้องเพื่อที่จะได้ไม่เสียฟอร์ม
“ปากแข็งดีจริ๊ง... 5555 ท่านพี่ต้องชอบแน่ๆ 5555555..”
จ๊อกกก~~~~
ขอบคุณพระเจ้า......เสียงท้องฉันร้องตอนมันหัวเราะพอดี
“พวกแกเสร็จกันยังเนี่ย ชักช้าๆ แขนเป็นไงมั่ง”
ไอ้อ้วนเถื่อนค่อยๆ เดินสำรวจรอบๆ สิ่งที่กำลังล็อกฉันไว้อยู่
ดะ.....เดี๋ยวก่อน นี่มันไม้กางเขนไม่ใช่รึ ไม่นะ พวกแกคงไม่ได้คิดจะเอาตะปูมาตอกตรึงฉันไว้กับไม้กางเขนนี่เหมือนพระเยซูหรอกนะ (คิดเวอร์ไปแล้ว!) คงไม่มั้ง......... อ้ากกกกก สติฉันเตลิดไปไกลแล้ว ต้องเอามันกลับมา.....หายใจเข้า .......ออก (ดีมาก มีสติเอาตัวรอดเป็นยอดดี)
“หึ........พูดไม่ออกเลยสิ”
ไอ้อ้วนเถื่อนยิ้มเย้ยฉัน ไอ้..............ไอ้หมูป่าผสมช้างตกมัน แกเงียบไปเลยนะก่อนที่ฉันจะคิดชื่อแปลกๆ ให้แกเพิ่ม
แจ๊ส : (ตอบเรียบๆ) “เปล่า.......แค่อยากรู้ว่าพวกแกจะเสร็จเมื่อไหร่ ฉันเริ่มเมื่อยแล้ว....”
“ไอ้ปากเหล็ก! เมื่อกี้ยังดิ้นทุรนทุรายอยู่เลยไม่ใช่เหรอ”
เออ แข็งเข้าไป แต่ก็ยังไม่แข็งถึงที่สุด
แจ๊ส : “แค่ตอบตามตัวเองคิด ผิดตรงไหนเล่า!”
“เสร็จแล้วเหรอ! ดี!! ตั้งขึ้นเลย”
..........ไร้เสียงตอบรับจากเสียงที่คุณเพิ่งตะโกนไป กรุณาแหกปากอีกรอบเพื่อรับเสียงตอบรับ...............
แต่ก็ดีแล้วล่ะ ฉันกลัวโดนลูกหลงอะไรตามมา
และแล้วไม้กางเขนที่ล็อกฉันไว้ก็ค่อยๆ ถูกตั้งขึ้น ฉันเพิ่งเห็นทิวทัศน์รอบๆ ตัวเป็นครั้งแรกที่ได้ออกมา ข้างหน้าคือหาดทราย ทางขวาคือพื้นน้ำทะเล และทางซ้ายคือหุบเขาที่มี่อุโมงค์ทางเข้าไกลจากจุดนี้ไม่มาก
เมื่อตั้งไม้กางเขนได้ แรงดึงดูดของโลกก็ดึงฉันให้ลงมาจากจุดที่โดนล็อกเล็กน้อย ความรู้สึกเจ็บจี้ดคล้ายของมีคมจิ้มก็แผ่ซ่านตั้งแต่แขนไปจนถึงขา
แจ๊ส : “พวกแก....เอาอะไรใส่ไว้ในปลอกนี้เนี่ย”
“เรื่องอะไรจะบอกให้โง่ล่ะ ฉลาดนักไม่ใช่เหรอ คิดเอาเองสิ”
หนึ่งในกลุ่มนั้นพูด เป็นผู้ชายตัวเล็กๆ หุ่นกำลังน่าจับมาอัดแล้วเอาหน้าไปขูดหวยเล่น (ซาดิสม์ละ)
แจ๊ส : (พูดเสียงแผ่ว) “ไม่บอกก็ไม่เป็นไร” (ทิ้งน้ำหนักตัวลง) “.....” (ขบฟันแน่นเพราะความเจ็บปวด)
“รอเวลาน้ำขึ้นแล้วค่อยมาเก็บศพมันดีกว่าเนาะพวกเรา”
‘น้ำขึ้นขนาดนั้นฐานทัพแกคงเละไปตั้งแต่ชาติไหนๆ แล้ว ไม่ต้องมาหลอกฉันให้ยากหรอก’
“ไม่สิ ตอนนี้ยังเหลืออะไรให้ทำอีกเยอะ”
ฉันได้ยินเสียงเท้าที่เดินตามหาดทรายเบาๆ ที่เริ่มดังขึ้น สิ้นเสียงก็เห็นว่ามีคนเดินมาหยุดตรงหน้า
“ก่อนอื่น..........ฉันขออัดแกอีกรอบ ข้อหากวนเมื่อกี้”
แจ๊ส : “........”
แกคงไปเป็นตำรวจไม่รอดแน่ ถ้าตั้งข้อหามั่วๆ แบบนี้
เสียงทั้งเตะทั้งอัดปนเปกันไปหมดจนบรรยายเป็นคำพูดแทบไม่ถูก
สุดท้ายฉันก็ตกอยู่ในสภาพอันน่าอนาถอีกครั้ง รู้สึกว่าเนื้อทั้งข้อมือหายไปหมดแล้ว
“มีใครอยากอัดยัยนี่มั้ย”
ไอ้เถื่อนตกมันหันไปถามพวกข้างหลัง เอาเข้าไป.......ถ้าทำได้ตอนนี้คงฆ่าล้างตระกูลมันไปแล้วววววว คนหนักแผ่นดินแบบนี้มันไม่น่าปล่อยให้ลอยนวล
ไอ้พวกข้างหลังไม่ได้มีท่าทีลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ค่อยๆ ก้าวขึ้นมาทีละสองคนและ.......อัดฉันอีกรอบ
------------------------------------------------
สมองที่รวนอยู่แล้วของฉันยิ่งรวนเข้าไปอีก
สายตาที่ยิ่งพร่ามัว ตอนนี้เห็นแค่ว่าพอเดาออกว่าคนนั้นรูปร่างเป็นยังไงแบบมั่วๆ เพราไม่เห็นแม้กระทั่งหน้าตาหรือสัญลักษณ์ใหญ่ๆ ตามตัว
รอบข้อมือที่เป็นแผลก็มีเลือดหยดลงพื้นหยดแล้วหยดเล่า
แขนขาที่ไม่มีแรงพยุงก็กำลังโดนเหล็กที่อยู่ในปลอกเหล็กเสียบแทง
เหลือแค่คอกับลำตัวที่ไม่โดนล็อกแต่อย่างใด
หูเริ่มบอดไปทีละนิด
ปากที่แตกและไม่มีแม้แต่แรงจะคายเลือดออกมา
ลทหายใจเข้า-ออกที่แรงโดยอัตโนมัติ
แสงแดดเริ่มสาดและร้อนแรงขึ้น เหงื่อทั้งตัวฉันผุดขึ้นมาตามธรรมชาติและเริ่มไหลและหยดลงพื้น....
“ท่านพี่มีอะไรจะทำอีกงั้นเหรอ”
“หึๆๆๆๆ มีอีกอย่างนึง”
พวกมันพูดอะไรกันน่ะ ฉันได้ยินแค่เสียงอื้อๆ อ้อๆ แว่วเข้ามาในหู ระดับสายตาฉันสังเกตเห็นชายร่างใหญ่เดินเข้ามาหา ..........รูปร่างไม่คุ้นเลย ดูบิดเบี้ยวไปหมด..........
“บอกให้นะ ถึงแกจะอยู่ในสภาพไหนมันก็ช่วยฉันไม่ได้หรอก เพราะยิ่งฉันเห็นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอยากทรมานแกมากขึ้น!”
สิ้นประโยค ฉันถูกชายคนข้างหน้าจับหัวและงัดขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉันความจะเห็นหน้าหมอนี่ แต่ตาไม่เป็นใจเลย เมื่อสักครู่มันยังพอเห็นรูปร่าง แต่ตอนนี้ ฉันเห็นแค่สีที่รายเรียงไปมาเป็นรูปร่าง สีมันครบหมด......ยกเว้นสีดำและขาว
“จากตอนนั้นที่ฉันอยากเห็นหน้าแกอีกซีกแต่แกขัดขืน แต่โอกาสทองฉันมาถึงแล้ว หึๆๆๆๆ ดีใจจังที่ยังมีวันนี้.............ฉันขอดูหน้าแกหน่อยนะ”
ประโยคที่เพิ่งจบไป...........ฉันกลับได้ยินมันชัดเจน........ชัดเจนยิ่งกว่าตอนโดนจับมาวันแรกเสียอีก
ไม่นะ..........ใบหน้าซีกขวาของฉันจะถูกเปิดเผยงั้นเหรอ.........
เรี่ยวแรงตอนนี้ก็มีค่าแค่ทำให้สมองฉันสั่งการประสาทสัมผัสให้ทำงาน ไม่ได้มีค่าถึงขนาดให้อวัยวะทำงานย่างสมบูรณ์ พลังที่มีในตอนนี้แม้หายใจยังลำบาก........!
‘แล้วฉัน..............ควรทำยังไงดี................ถ้าผมฉันถูกเลิกขึ้น................ฉันก็แทบจะไม่มีค่าที่จะอยู่ต่อ.............’
สมองฉันพูดคำนี้ออกมา ชายคนที่อยู่ข้างหน้าฉันกำลังเชิดคางฉันขึ้นแล้ว....
.........ฉันได้แต่กรีดร้องในจิตใจว่า ไม่...............
ไม่ได้ตั้งใจให้ยาวเล้ย(เหรอ?).........แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็ เฮ้ย! กะจะตัดบทตอนนั้นไม่ใช่เหรอ
แต่ก็ช่างมันเถอะ ไหนๆ มันก็ออกมาละ
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
อ่ะ เงียบเหงาจังเลย เรียนซัมเมอร์กันล่ะสิ(โปรดอย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน)
สิ่งที่เก็บไว้.........................ความกล้า..........................การรอคอย
- Spoiler:
- ‘ฮ่ะๆ ก็แค่นั้นแหละ’เสียงของแอนทีรอสดังขึ้นมา
คิจัง : (เงยหน้ามอง) ท่านแอนทีรอส !!!หมายความว่า…………….ฮานะจัง!!!!(ประคองตัวลิโระขึ้นมาจากเตียง) ฝี้นสิฮานะจัง(เขย่าตัวลิโนะ) ฟื้นสิฮานะจัง(ลูบผมที่ปรกลงมาบนใบหน้าลิโนะ) ฮานะจังกลับมาหาผมนะ…………………..
คิจังพูดพลางประคองตัวลิโนะขึ้นมากอดแน่น
ลิโนะ : อ่ะ……………อืม ยูโตะคุง
คิจัง : (ตกใจพร้อมคลายกอดลิโนะ) ฮานะจังคุณกลับมาแล้ว!!!คุณกลับมาแล้ว!!!
ลิโนะ : (ยิ้ม) อืม…………ฉันกลับมากวนนายอีกแล้วนะ
คิจัง : ดีเลยครับผมกำลังเหงาอยู่พอดี…………….อยากหาคนมากวน
ลิโนะ : ฮ่ะๆเหรอ…………………ว่าแต่นายปล่อยให้ฉันรอนานเลยนะ
คิจัง : รอ? คุณรออะไรเหรอครับ
ลิโนะ : ก็รอที่จะได้คุยอย่างนี้กับนายอีกครั้งหนึ่งไง รอที่จะได้จับมือของนาย รอที่จะได้กอดนายอีกครั้ง
หญิงสาวพูดพร้อมกับมีน้ำใสใสรื้นอยู่ในดวงตาของเธอ
คิจัง: (รั้งตัวลิโนะเข้ามากอด) ถ้ารู้ว่าพูดอย่างนั้นแล้วคุณจะอยู่กับผม……………ผมคงจะพูดอย่างนั้นไปนานแล้ว(กระชับกอดแน่นขึ้น) ผมจะพูดมันบ่อยๆเลย ผมรักคุณ ผมรักคุณ ผมรักคุณ!!!
ลิโนะ : (เอานิ้วแตะริมฝีปากคิจัง) ฉันก็รักนาย……………….เพียงแต่………………………คำนั้นน่ะ คำนั้น นายไม่ควรพูดออกมาบ่อยๆนะ
คิจัง : ครับผมจะเก็บมันไว้ให้คุณ…………………….ให้คุณคนเดียว
ลิโนะ : นาย………………รีบพูดเกินไปหรือเปล่า
คิจัง : ที่จริง………………..ช้าไปด้วยซ้ำผมน่าจะบอกคุณตั้งแต่ 9 ปีที่แล้ว
ลิโนะ : นี่นาย……………………..(ประกบปากอย่างอ่อนโยนกับคิจัง) ขอบคุณนะ คิโด ยูโตะ
คิจัง : ไม่เป็นไรหรอกครับ มันเป็นสิ่งที่ผมควรจะบอกกับคุณอยู่แล้วล่ะครับ…………………ถึงมันจะเกือบที่จะสายเกินไป(จับผมลิโนะทัดหูให้) แต่ผมก็ได้พูดกับคุณไปแล้วและจะไม่พูดคำนี้กับใครอีก คำๆนี้จะเป็นของคุณคนเดียวนะครับ ฮาจิมะ ฮานะ
ลิโนะ : (กอดคิจังแน่น) ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ
คิจัง : ต่อไปนี้คุณจะไม่อยู่ตามลำพังอีกแล้ว……………………..คุณจะไม่ต้องทนหนาว ไม่ต้องทนเจ็บอีก ผมจะอยู่ข้างๆคุณเองคอยปกป้องคุณเอง
ลิโนะ : จริงเหรอ…
คิจัง : ครับ!!!......................ฮานะจัง
ลิโนะ : อะไรเหรอ
คิจัง : เป็นแฟนกับผมนะ
ลิโนะ : (ตกใจ) อะ……………….อะไรนะ
คิจัง : ผมบอกว่าเป็นแฟนกับผมนะ
ลิโนะ : เอ่อคือ………………………….
คิจัง : ผม……………..ไม่ได้ให้คุณปฏิเศษนะครับ
ลิโนะ :จะบ้าเหรอ………………….ฉันจะปฏิเศษคนอย่างนายได้ไงล่ะ……………………………..ก็คนอย่างนายน่ะ คนนอย่างนาย…………………………….บ้าที่สุด
ลิโนะพูดพลางโผเข้ากอดคิจัง
คิจัง : ขอบคุณครับที่ไม่ปฏิเศษผม
---------------------------------------------------
เย็นวันนั้นคิจังเดินจูงลิโนะลงมาที่ห้องทานข้าว
เอนโด : (สังเกตุเห็นลิโนะเป็นคนแรก) อ้าว นี่!!! ลิโนะจังฟื้นแล้วแหละพวกเรา!!!
ทุกคนที่อยูในห้องชะงักและหันมามองลิโนะเป็นตาเดียว
ลิโนะ : อ่ะ…………………อย่ามองฉันอย่างนั้นสิ
เพื่อนนักเตะที่อยู่ในห้องต่างก็เข้ามารุมล้อมลิโนะเพื่อถามอาการ………………ฟุโดวซึ่งยืนมองอยู่ห่างๆ กระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจ……………….เธอปรายตาไปมองที่ฟุโดวพลางพูดขึ้น
ลิโนะ : ขอบคุณนะฟุโดว
ฟุโดว : อ…………..อะไรเล่า ฉันไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย
ฟุโดวพูดพลางสะบัดหน้าหนีมองไปนอกหน้าต่าง
ลิโนะ : เหรอ…………….อย่านึกนะว่าฉันจะไม่ได้ยินที่นายพูกกันฉัน
ทุกคนมองฟุโดวและลิโนะสลับกันไปมา
ฟุโดว : (หน้าแดง) ชิ!!!!ใครว่าฉันพูดกับเธอ สำคัญตัวผิดไปแล้วล่ะ
ลิโนะ : อ้อ……………..เหรอ
ฟุโดว : ก็ใช่น่ะสิ!!!
ลิโนะ : ^^
คิจังหันมามองหน้าลิโนะอย่างไม่เข้าใจ
ลิโนะ : (ยิ้มตอบ) ความลับจ๊ะ……………………..ไม่มีอะไรมากหรอก
คิจัง : (กระซิบที่ข้างหูลิโนะ) เดี๋ยวนี้กล้ามีความลับกับผมเหรอ
ลิโนะ : (กระซิบตอบ) กล้าสิ แล้วอีกอย่างนะ อย่างนายจะมาทำอะไรฉันได้
คิจัง: (กระซิบ) งั้นก็คอยดูแล้วกัน
ลิโนะ: (กระซิบ) อย่าให้คอยนานนักล่ะ เก่งไม่กลัวแต่กลัวช้า
คิจัง : ห๊ะ ว่าไงนะ!!!
ลิโนะ : เสียใจพูดได้ครั้งเดียว!!!
หญิงสาวพูดพลางอมยิ้ม
อากิ : เอ่ละวันนี้ ทุกคนก็เหนื่อยกันมามากแล้ว และก็ถือเป็นรางวัลให้ทุกคนฉันเลยขอโค้ชว่า………………..วันนี้เราจะมีปาร์ตี้กันดีไหม!!!!
ทุกคน : โย่ว!!!
อากิพูดจบพลางเดินเข้าไปลากมือลิโนะ
อากิ : แล้วเธอ ต้องช่วยฉันเตรียมอาหารด้วย!!!
ลิโนะ : (ตกใจ) อ่ะ เอ๋……………เดี๋ยวสิ
ลิโนะพยายามรั้งอากิไว้เพราะตัวเองก็ยังตั้งตัวไม่ทัน……….เธอได้แต่มองหน้าคิโดอย่างงงๆ
--------------------------------------------
เย็นวันนั้น ที่ชายหาดสถานที่ตรงนั้นได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นงานเลี้ยงบาบีคิวขนาดย่อมสำหรับทีมอินนะสุมะ เจแปน
เอนโด : (น้ำเสียงร่าเริง)อา…………….นี่อร่อนที่สุดดดดดดดดดดดด
เอนโดพูดพลางกัดปลาไปคำโต
เอนโด : ปลาเผาสดๆนี่มันหวานจริงๆ
สึนามิ : อ่ะ แน่นอนนี่แหลของขวัญจากท้องทะเล
ทั้งคู่พูดคุยกันพร้อมกับมือที่คีบบาบีคิวกันอย่างสนุกสนาน
โทระมารุ : ลองจิ้มน้ำจิ้มนี่สิครับ อร่อยจะแทบบินได้
เอนโด : (ลองเอาเนื้อปลาจิ้มน้ำจิ้ม) อื้ม อร่อยแฮะใครทำอ่ะ อากิเราะ
ทะจิมุไก : ใครว่าล่ะฮะ โน่นต่างหาก
ทะจิมุไกชี้นิ้วไปทางลิโนะ ที่ยังคงยืนประจันหน้ากับคิจังแต่ไม่ได้พูดคุยกันซักคำ……………ทั้งคู่กลับเอาแต่ทำหน้าแดงใส่กันเพียงเท่านั้น
สิ่งที่เก็บไว้.........................ความกล้า..........................การรอคอย
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ขอโทษอีกรอบค่ะที่สูญหายไปพร้อมๆ กับตารางเรียนซัมเมอร์ (คิดมุกไม่ออกมากกว่า)
จากการปรับตารางเวลาตัวเองไป ตอนนี้เริ่มลงตัวแล้ว เลยมาต่อได้ ฟู่ว์
จากการปรับตารางเวลาตัวเองไป ตอนนี้เริ่มลงตัวแล้ว เลยมาต่อได้ ฟู่ว์
- Spoiler:
- ...........ไม่.......ไม่......
ผมฉันค่อยๆถูกเปิดขึ้นราวกับภาพสโลว์โมชันตรงหน้า สติฉันเริ่มหลุดลอยไปทีละนิดแม้จะพยายามรั้งมันไว้ แต่จู่ๆ ก็เกิดแสงอาทิตย์วาบขึ้นด้านหลังตัวเองอย่างแรง ภาพฉากสุดท้ายที่ฉันเห็นก่อนหมดแรงฟุบไปดูเหมือนหน้าตอนฉันเด็กๆ เลย.......
--------------------------------------------------------------------
“.......เป็นอะไรมากไหมเนี่ย อย่าบอกนะว่าโดนลูกหลงไปน่ะ เฮ่อ ไม่ไหวเลย”
(ชายผู้หนึ่งปรากฏตัวหน้าหญิงสาวผมดำที่ถูกขึงไว้กับไม้กางเขน เขาหันมองดูรอบๆ จนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่นอกเหนือจากตรงนี้แล้วและเดินไปที่ไม้กางเขน)
“เงียบขนาดนี้..........แสดงว่า เจ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยสินะ”
(เขาพึมพำกับตัวเองอีกครั้ง จะว่าไป เขาก็ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว ต้องไปดูหน่อยแล้ว
เมื่อคิดเช่นนั้น เขาก็เดินดุ่มๆ ไปตามชายหาด และหวังเล็กๆ ว่าถ้ากลับมาถึงที่นี่อีกทีแจ๊สก็คงจะฟื้นพอดี)
. . . . . . . . . . . . . . . .
(ชั่วโมงครึ่งผ่านไปเหมือนอ่านหนังสือได้แค่สองหน้า ชายผมสีแสดก็เดินกลับมาถึงที่เดิมแต่ไม่มีแม้แต่วี่แววว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไป)
“เฮ้ หมดแรงแค่นี้เจ้ายังไม่ฟื้นอีกเหรอ สงสัยข้าคงคิดผิดไปมากเลยแห่ะ”
(ร่างที่อยู่บนไม้กางเขนไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมเลยสักนิด นอกจากผมที่ปลิวไปตามลมเบาๆ ถ้าดูเผินๆ อาจคิดว่าเธอตายไปแล้วก็ได้ นอกเสียจากว่า....จะเห็นเหงื่อที่ค่อยๆ หยดจากคางลงพื้นหยดแล้วหยดเล่า)
“รู้นะว่าเจ้าหมดแรง แต่งานข้ามันสำคัญกว่า ช่วยตื้นไวๆหน่อยได้ไหม!!!!!!!”
(ชายผมสีแสดเริ่มโวย โดยที่เขาไม่รู้ว่า เขาควรจะทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว)
------------------------------------------------------------
‘เสียงใครมาโหยหวนแถวเน้!!!!!!คนกำลังหลับดีๆ รบกวนเหลือเกิ๊น!’
ถึงในใจจะคิดแบบนี้ แต่สภาพปัจจุบัน ฉันต้องค่อยๆ เปิดเปลือกตาตัวเองขึ้น แถมปวดยิ่งกว่าเดิมอีก ออย.....
“โธ่... ถ้าทำแบบนี้แล้วฟื้นตั้งแต่แรกคงทำไปแล้ว - ^ -”
ใครอ่า เสียงมันออกคุ้นๆ แต่ก็ไม่คุ้นนะ
คอฉันดันเอาหัวขึ้นอย่างอัตโนมัติ ภาพที่เห็นมีแต่สีส้มแสดๆ กับส้มอ่อนๆ เท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ฉันก็มองเห็นบุคคลที่ยู่ตรงหน้า...
แจ๊ส : “ O_O ท่านโยคะ!”
“ใช่......ข้าเอง เฮ้ย ไม่ใช่แล่ว”
ซวยแล้ว.........ดันเผลอพูดตามความเคยชินไป
แจ๊ส : “อ่า........ขอโทษค่ะท่าน.......นากิโยโคมะ”
โยโคะ : “พอๆ ไม่ต้องเรียกทั้งชื่อเต็ม ชื่อจริง ชื่อเล่นน่ะแหละ โยนมันทิ้งไปเลย”
ชื่อจริง.....ข้าพูดเมื่อไหร่เหรอ ส่วนไอ้ ‘โยนมันทิ้งไปเลย’ นี่....เขามีแต่มุกว่า ‘กองไว้ตรงนั้นแหละ’ ไม่ใช่หรอกเหรอ หรือว่าท่านโยคะคิดมุกใหม่ออกอีกแล้ว โฮ่ นึกว่าจะยึดปรัชญาตัวเองต่อซะอีก (นอกเรื่องๆ)
แจ๊ส : “ท่านมาหาข้ามีอะไรเหรอ”
ฉันพูดไปตามปกติ แต่ท่านโยคะทำหน้าเหมือนฉันลืมอะไรบางอย่างไป ทำให้สมองฉันรีเรื่องราวที่ผ่านมาเองอย่างรวดเร็ว อ๋อ!
แจ๊ส : “เอ่อ......เรื่องเมื่อสักครู่ท่านช่วยข้าไว้ใช่ไหม ขอบคุณท่านมากๆ เลยนะ”
โยโคะ : “อืม ก็แค่ผ่านๆ มาน่ะ เลยว่าจะแวะมาหา”
แจ๊ส : ‘จริ๊ง! ปกติเคยแต่หาข่าวไปวันๆ แถมรู้ข่าวเร็วกว่าชาวบ้านเป็นไหนๆ -_- จะมาแค่ผ่านๆ มันก็แปลกนา’
โยโคะ : “ตอนแรกว่าจะไม่มาหรอก แต่ข้ามันขี้สงสาร ถ้าปล่อยไว้เจ้าคงตายแหง”
แจ๊ส : ‘ค่าๆ ท่านผู้มีพระคุณ เมื่อไหร่จะเลิกสรรเสริญตัวเองแบบขมปนหวานสักทีเนี่ย’ “มันก็จริงนะ แต่ท่านรู้ได้ยังไงเหรอว่าข้าอยู่ที่นี่ แถมใกล้ตายด้วย”
โยโคะ : (ตากระตุก) “ง่ายจะตาย ทำไมข้าจะไม่รู้ล่ะว่าเจ้าใกล้ตาย ข่าวมันลือกันไปทั่วเมืองเลยนะขอบอก”
แจ๊ส : ‘ข้าละงงกับท่านจริงๆ เข้าใจนะว่าตากระตุกเป็นสัญญาณว่าท่านโดนแทงใจดำ แต่เหมือนท่านเปลี่ยนไปมากเลย เมื่อก่อนยอมรับผิดง่ายกว่านี้ไม่ใช่เหรอ’
โยโคะ : (จามอย่างแรง) “ฮัด!!! เจ้าแช่งข้าเรอะ”
แจ๊ส : (ส่ายหน้าปฏิเสธ) “ -__- “ ใครจะไปกล้าล่ะ”
โยโคะ : “อย่าคิดนะว่าข้าไม่รู้ เจ้าอย่าปิดบังข้าเลย บอกมาซะ!”
แจ๊ส : ‘เท่าที่จำได้.........ครั้งล่าสุดที่ข้าเจอท่าน ท่านดูมีสาระกว่านี้มิใช่รึ’ (พูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น) “แล้วถ้าข้าบอกว่าไม่ได้แช่งท่านล่ะ” ‘ว่าแต่ คำว่าใครแช่งนี่คุ้นๆ เหมือนกันนะ’
โยโคะ : “แน่?!”
แจ๊ส : “อื้อ” ‘เพราะข้านินทาต่างหาก’
โยโคะ : (เกาจมูกตัวเอง) “อย่าให้รู้นะว่าใคร เดี๋ยวจะเอาพายุโซนร้อนไปถล่มให้”
แจ๊ส : “ช่างเป็นความคิดที่ชั่วและได้ใจข้ามาก”
โยโคะ : “เฮ้ๆ ข้าพูดเล่น เจ้าอย่าเอาไปทำล่ะ”
แจ๊ส : (ถอนหายใจ) “สรุป............เราจะคุยอะไรกันแน่”
โยโคะ : “เจ้าชวนข้าคุยนี่นา”
แจ๊ส : “แต่ปกติข้าเห็นท่านยุ่งตลอดจนแทบจะไม่มีเวลาหายใจเลยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาอยู่คุยกับข้าแบบนี้ได้ล่ะ”
โยโคะ : “ก็....เพราะวันนี้ข้าว่างไงล่ะ ถามได้”
แจ๊ส : “อุตส่าห์ว่างทั้งที ทำไมไม่หยุดอยู่บ้านท่านล่ะ”
โยโคะ : “ก็จริง แต่หลังจากที่ข้าได้ยินว่าเจ้าโดนลักพาตัวไป ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก แต่ไปๆ มาๆ ทุกคนก็วุ่นวายกันไปหมดไม่รู้เรื่องอะไร เพราะพ่อเจ้าบอกว่าห้ามข้ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของท่านเป็นอันขาดเดี๋ยวจะ เสียงาน และก็ให้ข้าเอาแต่ติดตามเรื่องของเจ้า”
แจ๊ส : “ข้าเข้าใจละ แต่.....มันไม่มากไปหรือไง ข้าไม่ต้องการคนเป็นห่วงมากหรอก”
โยโคะ : “นั่นมันก็ดีไปนะ แต่มันก็มีข้อเสียเหมือนกัน”
แจ๊ส : “ยังไงหรือท่าน”
โยโคะ : (ทำท่าคิด) “อือ..........ไม่รู้สิ เหมือนเคยได้ยินใครสักคนพูดนะว่า ‘ทุกสิ่งในโลกนี่ย่อมเป็นดาบสองคมกันทั้งนั้น’ ”
แจ๊ส : (พูดทวนคำช้าๆ) “ทุกสิ่งในโลก.............ย่อมเป็นดาบสองคม..........กันทั้งนั้น”
โยโคะ : (เหมือนจะโดนอะไรสะกิด) “เอ้อ.....ข้าจำได้ละว่าตอนนี้ต้องไปทำอะไร ขอตัวนะ” (หายตัวไปอย่างรวดเร็ว)
‘ทุกสิ่งในโลก.............ย่อมเป็นดาบสองคม..........กันทั้งนั้น’
‘ทุกสิ่งในโลก.............ย่อมเป็นดาบสองคม..........กันทั้งนั้น’
‘ทุกสิ่งในโลก.............ดาบสองคม..........’
มันคุ้น..........คุ้นอีกแล้ว ทั้งภาพๆ นั้น คำพูดประโยคนี้
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ต่อๆ หลังจากเลทไปอย่างยาว
- Spoiler:
- ”เดี๋ยวก่อนสิ!”
อะไรอีกมากมายเนี่ย
ท่านโยคะโผล่มาที่หน้าฉันหลังจากผ่านไปได้ไม่กี่วินาทีพร้อมกับความร้อนวาบๆ ที่หน้าฉัน พอแล้ว! อากาศยิ่งร้อนอยู่
แจ๊ส : “อะไรอีกเหรอท่าน”
โยโคะ : “ข้าลืมถามเจ้าว่า.............ทำไมเจ้าไม่ใช้พลังช่วยตัวเองล่ะ”
เอ่อ ก็จริงอยู่นะที่ว่าใช้ตอนแรกๆ ก็ได้
แจ๊ส : “ไม่รู้สิ มันเหมือนกับว่า เราไม่ได้ช่วยตัวเองมั้ง และก็......มันอาจจะผิดกฎด้วย”
โยโคะ : “อื้ม........” (กอดอกพร้อมกับใช้นิ้วเคาะแขนเป็นจังหวะ)
แจ๊ส : “ =....= ” (รู้สึกแปลกๆ กับอาการของชายตรงหน้า)
โยโคะ : “เจ้านี่ยังเหมือนเดิมเลยนะ ฮ่ะๆ” (ลูบหัวเด็กผู้หญิงเล่น)
แจ๊ส : (เอียงหัวจนมือที่จับอยู่หล่นลง) “ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
โยโคะ : “ยังไงเจ้าก็ยังเป็นเด็กในสายตาทุกคนอยู่วันยังค่ำนั้นแหละ”
…..….‘ยังไงซะ หนูก็เป็นเด็กในสายตาผู้ใหญ่ทุกคนนั่นแหละ ไม่ว่าจะโตแค่ไหนก็ตาม’……….
ฉันรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนพูดซ้อนขึ้นมาและเริ่มปวดตุบๆ ที่หัว
โยโคะ : “ ^ ^ ” (ยิ้มอย่างอ่อนโยน)
แจ๊ส : “ยิ้มแบบนี้เป็นกับเขาด้วยเหรอ ไม่ยักรู้”
โยโคะ : “เพิ่งเป็นนั่นแหละ! อย่าพูดขัดได้ไหม อารมณ์เสีย”
แจ๊ส : ‘ผิดบทรึเปล่า’ (ทำหน้าเซ็งๆ)
โยโคะ : “เจ้านี่....ยังเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ แค่หน้าเปลี่ยน.....”
แจ๊ส : (พูดขัดจนคนที่อยู่ข้างหน้าไม่ทันได้ตั้งตัว) “ท่านช่วยเล่าเรื่องตอนข้าเด็กๆ ได้ไหม ถ้ารู้น่ะ”
โยโคะ : (ตกใจกับคำพูดเล็กน้อยแต่ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกไป) “คงไม่ได้หรอก”
แจ๊ส : “ทำไมล่ะ”
โยโคะ : (ส่ายหน้าแทนคำพูด)
แจ๊ส : “ในเมื่อท่านรู้...” (พูดเสียงเบาลง)
โยโคะ : (ตัดสินใจและพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง) “เพราะเจ้าเป็นคนบอกว่าไม่อยากพูดถึงเองนี่”
แจ๊ส : “ข้าเนี่ยนะ...พูดแบบนั้น”
โยโคะ : (พยักหน้าเป็นการยืนยัน)
แจ๊ส : (แคลงใจไม่น้อยแต่สุดท้ายก็พูดออกไป) “ทำไมล่ะ”
โยโคะ : “เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้ด้วยเหมือนกัน ตอนนั้นเจ้าพูดไว้แค่นั้นหนิ”
แจ๊ส : ‘ฉันเนี่ยนะพูดไว้อย่างงั้นจริงๆ ไม่เชื่อหรอก เป็นไปไม่ได้’ “....ข้าพูดไว้แค่นั้นจริงๆ เหรอ”
โยโคะ : (พยักหน้าช้าๆ พร้อมกับพูด) “ข้าพูดความจริงเสมอ”
แจ๊ส : (ถอนหายใจเบาๆ) “ในเมื่อท่านยืนยัน......ข้าเชื่อก็ได้”
โยโคะ : “ข้าหมดธุระกับเจ้าแล้วล่ะ”
แจ๊ส : (พูดอัตโนมัติ) “แน่ใจเหรอ ไม่ใช่ว่ากลับมาอีกนะ ข้าร้อนหน้า”
โยโคะ : (โวยทันที) “ไอ้เด็กขี้ร้อน! ข้าไม่มาหาแล่ว!”
แจ๊ส : “ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะให้ย้ำอีกสักกี่รอบ! อีกอย่าง ข้าไม่เชื่อหรอกว่าท่านจะไม่มาหาข้าอีก”
โยโคะ : “เถียงได้เถียงดีนะเจ้าเนี่ย”
แจ๊ส : “เฮอะ แปลกตรงไหน”
โยโคะ : (ทำท่าคิด) “แปลกตรงที่ว่า....... เอ่อ....”
แจ๊ส : “ท่านรู้เหรอ”
โยโคะ : “เอ่อ.....ไม่อ่ะ ข้าไปละดีกว่า เสียเวลามากเกินไปละ”
โธ่ นึกว่าจะได้ผลแล้วเชียว ชักเริ่มเป็นผู้ต้องสงสัยอีกคนแล้วสิ ถึงปากบอกเชื่อไป แต่ความสงสัยก็ยังเต็มข้างในอยู่ดี เพิ่งรู้นะว่าตัวเองเป็นคนเงียบๆ มาตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าเงียบขนาดนั้นละก็..... ทำไมท่านโยโคะดูเหมือนรู้เรื่องของเรามากมายเลยล่ะ
-------------------------------------------------------------
(........ด้านหนึ่งของมุมมืดใกล้ๆ ชายทะเล ชายผมสีแสดทรงพระอาทิตย์ลู่ลมกำลังพึมพัมกับตัวเองอยู่)
โยโคะ : “ขอโทษนะ.........แต่เพื่อทำตามหน้าที่..ถ้าถึงเวลาแล้วเจ้าคงจะรู้เอง เจ้าไม่ควรได้ยินจากปากของคนอื่น สิ่งที่ข้ายังแปลกใจน่ะหรือ... ก็แม้ว่าเจ้าจะลืมอะไรไป หรือถูกสร้างขึ้นมาใหม่ นิสัยเจ้าก็ยังคงเหมือนอย่างเดิม...ไม่มีเปลี่ยนเลยน่ะสิ”
(เสียงนี้เบามาก ต่างจากปกติ เพราะชายคนนี้จะเอาแต่พูดเสียงดัง ถึงเขาจะอยากให้แจ๊สได้รู้ไว้ แต่นั่นคงทำไม่ได้)
-----------------------------------------------------------
จากที่ฉันได้หลับและตื่นอีกหนึ่งครั้ง ก็คิดว่าร่างกายคงกลับสู่สภาพปกติตามเคยแล้ว อาการตัวช้าก็ค่อยๆ จางไป ความเจ็บปวดก็ชักเริ่มเข้ามาแทนที่ ถึงขาจะมีไม่มาก แต่รู้สึกเหมือนมีอะไรไหลไปไหลมาตามแขนเลย
จากแสงแดดจากตื่นรอบแรกแปรเปลี่ยนมาเป็นแสงจันทร์ในตอนค่ำ ฉันหลับไปนานใช้ได้เลย
อากาศเย็นๆ แบบนี้ทำเอาเคลิ้มๆ ได้เลย แต่มันติดอยู่ที่ว่าเพิ่งตื่นนี่สิจะไปทำอะไรได้ ตาใสขนาดนี้
เลยได้แต่หันหน้าไปนู่นไปนี่ ดูโน่นดูนี่ไปพลางๆ รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้วซะงั้น
ได้ยินเสียงคนเดินมาด้วย หันไปดูก็เจอคนมากันแค่สองคน ดะ....เดี๋ยวนะ ผู้หญิงคนนั้น ใครกันน่ะ
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ต่อน๊าาาาาาาาาาาาาาา
งานเลี้ยง........................ความเข้าใจ..........................ดวามห่วงใย
- Spoiler:
- ลิโนะ : อ่ะ……………อา
ลิโนะเบี่ยงตัวหลบคิจังพลางจะเดินไปทางซ้ายแต่คิจักก็เก้ๆกังๆมาขวางไว้เมื่อลิโนะจะเดินไปทางขวาคิจังก็เข้ามาขวางไว้ด้วท่าทางเกๆกังๆ
ลิโนะ : นี่ยูโตะคุงมาขวางฉันทำไม
คิจัง : ก็…….คุณจะไปไหนล่ะครับ
ลิโนะ : (มองหน้าคิจัง) ถือจานมาอย่างนี้ ไปเตะบอลมั๊ง นายหัวหลอด!!!
หญิงสาวพูดพลางเบี่ยงตัวหนีชายในชุดผ้าคลุมแดงเพื่อไปเอาบาบีคิวมาทาน
คาเซมารุ : (เดินมาหาคิโด) จะอึ้งอะไรอยู่ล่ะตามลิโนะไปสิ
คิจัง : ห๊ะ……………..หา อ………….อืม (อึ้งนิ้ดนึงก่อนที่จะตั้งสติได้แล้วเดินตามลิโนะ) ด………………..เดี๋ยวสิครับ รอผมด้วย
หญิงสาวไม่ฟังเสียงเธอมุ่งหน้าไปยังเตาย่างเพื่อไปตักอาหาร
คิจัง : ผมช่วยนะ
ลิโนะ : นายรู้เหรอว่าฉันชอบทานอะไร
คิจัง : (เริ่มท้าทาย) ลองดูไหมล่ะ
ลิโนะ : ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู
หญิงสาวพูดพลางยื่นคีมตืบอาหารให้ชายหนุ่มพลางเดินไปนั่งดูอยู่ห่างที่ขอนไม้ที่วางอยู่………………………เวลาผ่านไปครู่ใหญ่
‘นายนั่นรู้จริงๆหรือเปล่าเนี๊ยะว่าฉันชอบทานอะไร ปล่อยให้รออยู่ได้ หิวจะตายอยู่แล้ว’
คิจัง :หิวใช่ไหมล่ะ นั่งหน้ามุ่ยเชียว
ชายหนุ่มพูดพลางยื่นจานที่เต็มไปด้วยอาหารมาหน้าหญิงสาว
ลิโนะ : ก็……………..ไปตักอาหารตั้งนานฉันยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อกลางวันนะ ลืมแล้วเหรอ
คิจัง : ไม่ลืมหรอกคร้าบบบบบบบดูสิผมตักมาให้คุณตั้งเยอะแหนะ
ลิโนะ :ไหนดูซิ
ลิโนะใช้ส้อมตักอาหารขึ้นมาทาน………………ชายหนุ่มจ้องมองอาการของหญิงสาวตรงหน้าแล้วยิ้มให้บางๆ
ลิโนะ : (เงยหน้ามามอง) ยิ้มอะไร
คิจัง : (สะดุ้ง) อ๊ะ ป่ะ………….เปล่าครับ งั้นเดี๋ยวผมไปเอาน้ำให้แล้วกัน
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกเดินออกไปเพื่อไปหยิบเครื่องดื่มมาให้
ลิโนะ : (มองคิจังที่เดินออกไปและหันมาคลี่ยิ้มบางๆใส่จานอาหาร) นายยังจำได้อยู่อีกเหรอเนี๊ยะว่าอาหารทะเลที่ฉันชอบตือปูนึ่ง
ลิโนะหยิบปูออกจากจานเพื่อแกะกระดองออก
คิจัง : (ยื่นเครื่องดื่มมาตรงหน้าลิโนะ) ชอบใช่ม๊า…………….
ลิโนะ : (ใช้มือทั้งสองรับแก้วน้ำมาดื่ม) ขอบคุณนะ…………..ว่าแต่นายยังจำได้อยู่อีกเหรอว่าฉันชอบทานอะไร
คิจัง : (นั่งลงข้างๆลิโนะ) ผมจำได้………………ทุกอย่างที่เป็นคุณ
ชายหนุ่มพูดพลางไล้หลังมือไปตามแก้มของลิโนะ
ลิโนะ : (ก้มหน้าลง) งั้นหรอกเหรอ
หญิงสาวพูดพลางใช้ส้อมขูดกระดองปูแก้เก้อ
คิจัง : อะไรกัน อายเหรอ
ลิโนะ : แหง๋ล่ะ หรือว่านายไม่อายล่ะ คนตั้งเยอะแยะ
คิจัง : ที่จริงก็นิดหน่อยนะ แต่เรื่องเมื่อกลางวันทำให้ผมได้บทเรืยนอย่างหนึ่ง
ลิโนะ : อะไรเหรอ
หญิงสาวถามอย่างใคร่รู้
คิจัง : ก็………………สอนให้รู้ว่าถ้าจะทำอะระดีดีให้ใครก็……………
ชายหนุ่นในชุดผ้าคลุมหยืบก้ามปูในจานของหญิงสาวขึ้นมาพลางใช้ส้อมกระเทาะเปลือกเหลือแต่เนื้อปูสีขาวสะอาด…………….เขาวางมันลงในจานของหญิงสาว
คิจัง : รีบๆทำซะก่อนที่มันจะสายไป
ลิโนะ : (มองจานแล้วคลี่ยิ้มบางๆ) อย่างนั้นเหรอ……………
คิจัง : ครับ
ลิโนะ : (พยายามเปลี่ยนเรื่อง) นายก็………………มัวแต่แกะเนื้อปูอยู่นั่นแหละมากินด้วยกันสิ
คิจัง : (ทำหน้างง) อ่ะ ผม………………ผมเหรอครับ
ลิโนะ : อืม ก็มีฉันกับนายอยู่สองคนตรงนี้จะให้ฉันเรียกใครล่ะ
คิจัง : อ่ะ…………….ครับ
ลิโนะ : ฮ่ะๆ
คิจัง : หัวเราะอะไรเหรอครับ
ลิโนะ : ก็หัวเราะนายไง (เอียงคอน้อยๆ) ที่จริงนายก็ดูเป็นคนซื่อๆดีเหมือนกันนะ
คิจัง : เอ๋ ผมน่ะเหรอ
ทันใดนั้นลิโระก็ได้ยินเสียงเอะอะดังขึ้นจากอีกด้านของหาดเธอจึงมองหน้ากับคิจังพลางลุกเดินไปที่ต้นเสียง
“บอกมาสิคุณฮานะจังเป็นอะไร!!!”
อากิ . (เหงื่อตก)ลิโนะจังไม่เป็นอะไรหรอกจ๊ะ
“ถ้าอย่างนั้นคุณฮานะอยูไหนล่ะ”
“ดี………ดีเลยจ๊ะ ฉันก็รั้งยัยนี่ไว้จนกล้ามจะขึ้นอยู่แล้ว”อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น ลิโนะเดินผ่านเพื่อนๆเข้าไปดูเหตุการณ์ด้านใน
ลิโนะ : อ้าว อาซึสะจัง ไอจัง!!!มาได้ยังไง
หญิงสาวเรียกชื่อของหญิงสาวผู้ที่เป็นต้นเหตุและเพื่อนอย่างสนิทสนม
อาซึสะ : คุณฮานะไม่เป็นไรดีจังเลย!!!!
ไอ : เธอมาก็ดีแล้วฉันรั้งยัยนี่ไว้จะไม่ไหวอยู่แล้ว
ไอจังเห็นลิโนะเดินมาเลยรึบปล่อยมือที่รั้งอาซึสะจังออก
ลิโนะ : ฉันทำไมเหรอไอจัง
ลิโนะหันไปถามเพื่อนสาวผมแดง
ไอ : ก็วันนี้น่ะสิตอนเราขับรถเล่นผ่านที่แคมป์ของทีมชาติอังกฤษและบังเอิญได้ยินเรื่องที่เธอโดนบอลอัดจนกระอักเลือดน่ะ
อาซึสะ : คุณฮานะ ไหนๆใครเป็นคนทำคุณฮานะ
ชายหนุ่มเดินมาสบทบกับลิโนะพร้อมกับถือแก้วน้ำมาเพื่อแจกจ่ายกับทุกคน
อาซึสะ : คุณคิโดทำไมไม่ดูแลคุณฮานะให้ดีดี
ไอ : ด……เดี๋ยวดิดิโดเขาอาจะมีเหตุผลของเขาก็ได้
ลิโนะ : ดะ…………..เดี๋ยวสิฉันยไม่ได้เป็นอะไรมาก และ อีกอย่างตอนนั้นน้องสาวของยูโตะคุงก็โดนจับไป
อาซึสะ : (สงบลง) อ้อ ………………อย่างนั้นเองเหรอคะ
ลิโนะ : อืมมมมมมก็แค่นั้นน่ะสิ
ไอ : เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าไม่มีอะไร
งานเลี้ยง........................ความเข้าใจ..........................ดวามห่วงใย
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
อาซึสะ:ให้อาซึสะไปช่วยไหมคะ เดี๋ยวจะสับให้เละเลย
กาเซล:ตัวแค่นี้จะไปทำอะไรได้
อาซึสะ:หนวกหูจริง!!!!!!!!เดี๋ยวก็เชือดซะหรอก!!!!!!
กาเซล:ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปล.จากนั้นเป็นยังต่อเหรอ เล่าให้ฟังหน่อยจินะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กาเซล:ตัวแค่นี้จะไปทำอะไรได้
อาซึสะ:หนวกหูจริง!!!!!!!!เดี๋ยวก็เชือดซะหรอก!!!!!!
กาเซล:ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปล.จากนั้นเป็นยังต่อเหรอ เล่าให้ฟังหน่อยจินะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
shiotari atsusa- จำนวนข้อความ : 43
Join date : 11/11/2010
Age : 26
ที่อยู่ : อยู่กับกาเซล
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
รีบมาต่อหลังจากไปรับเกรด เมื่อวานโดนไล่ให้ไปนอนซะเช้าเลย (ทั้งๆ ที่นอนห้าทุ่มแล้วตื่นแปดโมงก็ยังทัน T T)
- Spoiler:
- เหมือนอะไรสักอย่างบอกฉันว่า.....ถ้าไม่ทำอะไรละก็ ไม่รอดแน่
รู้อยู่แล้วน่า อย่าซ้ำเติมได้หมาย
ระยะทางจากตรงนั้นสู่ตรงนี้เริ่มแคบลงเรื่อยๆ สองคนนั่นเริ่มใกล้ฉันขึ้นทุกทีแล้ว ถึงตอนนี้ฉันจะทำท่าห้อยหัวอย่างเดิมก็เถอะ
แล้วก็มีความคิดหนึ่งอย่างโผล่ขึ้นมาในหัว.....
แกล้งหลับ ใช่! แกล้งหลับ
ถึงมันจะดูทุเรศๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไร
และแล้ว....เสียงเดินก็หยุด เห็นแค่เงาตะคุ่มๆ ข้างหน้าตัวเองก็รู้สึกเสียวแปลกๆ แล้ว
เงียบ....ไร้ซึ่งประโยคสนทนา แต่พอคิดได้แบบนั้นแล้ว.....
หมับ!
ฉันโดนจับผมและกระชากให้หน้าเงยขึ้นทันที ว้าก แสบตา
“อืม...”
เสียงผู้หญิงคนนั้นพูด เสียงออกแนวห้าวสุดๆ เหมือนมาเฟียเด๊ะเลย
“จะเอายังไงกับยัยนี่ดีครับ”
!! อะ...อะไรนะ...
“ปล่อยมันไว้อย่างงั้นแหละ ฉันไม่ชอบทำร้ายคนกำลังหลับ”
หัวฉันถูกปล่อยลงอย่างแรง อ่อก....เจ็บตั้งแต่ต้นคอยันไหปลาร้า
“มันไม่รู้ใช่ไหมว่าพวกเราเป็นใคร”
“ครับ”
“ดีแล้ว”
“แต่สุดท้ายมันก็ต้องรู้อยู่ดีไม่ใช่หรือครับ”
“ระหว่างนั้นเราก็ไม่ควรประมาทยัยนี่เหมือนกัน ยิ่งเป็นพวกดื้อเงียบยิ่งต้องระวัง”
แกรู้ได้ไงว่าฉันเป็นพวกดื้อเงียบ แกรู้จักฉันมาก่อนเรอะ
“ครับ!”
“.....”
“ท่านพี่เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ ไปพักก่อนดีไหม”
“....”
แล้วเงาดำๆ ก็ค่อยๆ ขยับไปทางขวามือฉัน ฉันแอบเหลือบมองจนสองคนนั้นลับสายตาไป
ที่แท้ผู้หญิงคนนั้นก็คือพี่ใหญ่ที่สุดงั้นสิ เพิ่งเดินทางมาถึงด้วย คงจะมีฐานะอยู่มาก แต่มันก็ไม่แน่เสมอไปไม่ใช่เหรอ อ๊ะ…..
จู่ๆ ลมก็พัดแรงขึ้น จากทะเลเข้าสู่ฝั่ง อย่าบอกนะว่า.....
ครืน..... ซ่า!!!
สึนามิขนาดย่อมหรือไง คลื่นลูกเบ้อเร่อซัดเข้าหัวฉันเต็มๆ น้ำทะเลค่อยๆ ไหลจากหัวจรดถึงเท้า.....
อ้าก แสบจี๊ดทันทีที่แขน อย่าบอกนะว่าฉันมีแผลอีกแล้ว (แหงสิ)
ลมยังพัดแรงไม่หยุด แต่ก็ลดความแรงลงไปค่อนข้างมากเหมือนกัน สงสัยว่าไม้กางเขนอันนี้คงปักลึกพอควรเลย เพราะโดนคลื่นซัดตั้งหลายครั้งแล้วยังไม่ยักล้ม
กว่าจะผ่านมรสุมลมแรงไปได้ก็นานเหมือนกัน แถมตามมาด้วยแดดจ้าอีก จะละลายอยู่แล้ว..... วันนี้มันวันซวยหรือไงกันเนี่ย
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
กลิ้งๆๆ=w=~
มาปรากฎตัวให้เห็นแบบแปลกๆหลังจากที่ไม่ได้มาเหยียบกระทู้นี้มานานพอสมควร=w='''(ข้ามปีเลยไม่ใช่เรอะ!!)
เริ่มงง+ตามไม่ทัน!? นั่งวาดโดแล้วลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลยอ่ะ=w=''
(หลังงานแคปใครไปกินชูชิกะเค้าบ้าง~~*w*)
มาปรากฎตัวให้เห็นแบบแปลกๆหลังจากที่ไม่ได้มาเหยียบกระทู้นี้มานานพอสมควร=w='''(ข้ามปีเลยไม่ใช่เรอะ!!)
เริ่มงง+ตามไม่ทัน!? นั่งวาดโดแล้วลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลยอ่ะ=w=''
(หลังงานแคปใครไปกินชูชิกะเค้าบ้าง~~*w*)
Mashiro-Hiro- จำนวนข้อความ : 930
Join date : 29/07/2010
Age : 26
ที่อยู่ : 炎の選手のどちら。
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
炎の天使。 พิมพ์ว่า:กลิ้งๆๆ=w=~
มาปรากฎตัวให้เห็นแบบแปลกๆหลังจากที่ไม่ได้มาเหยียบกระทู้นี้มานานพอสมควร=w='''(ข้ามปีเลยไม่ใช่เรอะ!!)
เริ่มงง+ตามไม่ทัน!? นั่งวาดโดแล้วลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลยอ่ะ=w=''
(หลังงานแคปใครไปกินชูชิกะเค้าบ้าง~~*w*)
เราไม่ได้ไปอ่า อุตส่าห์ขอแม่แล้วน้า แต่ดันติดเชงเม้งอ่า
ใจจริงเราอยากไปมากๆเลยอ่ะ
พลาดงานแคปมา2ครั้งแล้ว กร๊าซซซซซซ /// พ่นไฟ
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
อ่ะ .................ก็ชวนกัปตันไปดิ炎の天使。 พิมพ์ว่า:กลิ้งๆๆ=w=~
มาปรากฎตัวให้เห็นแบบแปลกๆหลังจากที่ไม่ได้มาเหยียบกระทู้นี้มานานพอสมควร=w='''(ข้ามปีเลยไม่ใช่เรอะ!!)
เริ่มงง+ตามไม่ทัน!? นั่งวาดโดแล้วลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลยอ่ะ=w=''
(หลังงานแคปใครไปกินชูชิกะเค้าบ้าง~~*w*)
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
พรวดพราดมาต่อก่อนนอน
- Spoiler:
- ท่านโยคะแอบแกล้งฉันรึเปล่าเนี่ย เฮ่อ ถึงไม่ได้เจอกันนานก็ไม่เห็นต้องแกล้งกันเพราะเห็นแค่ฉันเป็นเด็กเลยนี่ ไม่เข้าใจเล้ย ทำไมเห็นฉันเป็นเด็กกันไปหมด ฉันโตพอที่จะคนเดียวได้แล้วนะ เลิกเป็นห่วงแล้วก็คิดมากกันได้แล้ว มันน่าเบื่อที่จะต้องมานั่งห่วงกลับนะ ฉันละเกลียดกับการที่จะต้องมานั่งคิดว่ามีใครห่วงฉันบ้างนี่แหละ และถ้าฉันไม่ห่วงกลับละก็ คนพวกนั้นก็จะพาลหาว่าฉันมันเป็นพวกจิตใจเย็นชา ไม่เคยแคร์ใครเลยอีก เฮอะ ฉันเลยทั้งเกลียดทั้งไม่อยากยุ่งกับมันตั้งแต่ได้รู้จักน่ะสิ
เอ๊ะ นี่ฉันบ่นอะไรอยู่คนเดียวเนี่ย ไม่เข้าใจตัวเองเลยด้วยเหมือนกัน ยิ่งนับวันชักยิ่งเป็นอะไรไม่รู้หลังจากที่ได้มาอยู่ที่นี่เนี่ย จะว่าไป........ประโยคที่ท่านพ่อพูดไว้ตอนนั้น....
‘เจ้าก็เป็นคนของโลกนี้แหละ เพียงแต่มีความเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความเป็นจริงมากกว่าเท่านั้นเอง ไม่ต้องห่วงหรอกว่าจะเป็นอะไรไป ข้าเชื่อว่าเจ้าสองคนอยู่ได้แน่ จากการฝึกที่ผ่านพ้นมาข้ารู้ได้เลยว่าเจ้าอยู่ได้แน่’
.....ฉันยังแคลงใจอยู่เลยกับคำว่า ‘มีความเกี่ยวของกับโลกแห่งความเป็นจริงมากกว่า’ เท่านี้เองเหรอคือเหตุผลที่ส่งให้ฉันมาอยู่โลกนี้ มันน่าจะมีอะไรมากกว่าที่พูดมาสิ นอกเสียจากว่าอยู่โลกเดิมแล้วมันเกิดอะไรไม่ดีไม่ร้ายขึ้น แต่มันก็ไม่น่าจะเกี่ยวเลยนี่ ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงๆ ก็คงจะบอกกันตรงๆ ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะอะไรกัน
ครืน........ เปรี้ยง! ซ่า!!
ฝนตกลงมาแล้ว ช่วยให้ความร้อนที่สะสมอยู่ในตัวฉันมลายออกไปช้าๆ แต่ความร้อนในจิตใจยังคงร้อนอยู่กับคำถามที่ต้องการคำตอบของตัวฉันเอง
--------------------------------------------------------------
ตั้งแต่ฝนเริ่มโปรยปรายมาอย่างหนักจนมันค่อยๆ หยุดไป ความมืดจากเมฆค่อยๆ แปรไปเป็นความสว่างจากแสงดาว แต่คำถามในความคิดฉันยังคงเหมือนเดิม…..
....ก็ในเมื่อประโยคที่ท่านพ่อพูดก่อนฉันจะมาอยู่โลกนี้มันเน้นมาที่ฉันคนเดียวน่ะสิ ถึงท่านพ่อจะหันหน้าในแนวที่เห็นเราสองคนได้ แต่ฉันรู้ได้เลยว่าสายตานั่นกำลังสื่อถึงฉัน เป็นเพราะอะไรฉันก็ไม่รู้หรอก นอกจากจะเดาได้ว่าฉันอาจจะยังไม่รู้อะไรบางอย่าง......บางอย่างที่สำคัญมาก เพราะอะไรถึงไม่รู้ล่ะ อ้าก อยากรู้!!
ฉันใจไม่เย็นพอที่จะทนอยู่กับไม้กางเขนนี่ไม่ไหว ฉันเริ่มพยายามอย่างบ้าคลั่งอีกรอบ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือบาดแผลตามตัวทั้งนั้น เชอะ!! ถ้าแขนกับสันหลังใช้งานไม่ได้ละก็ ใช้เท้าแทนก็ได้
ฉันเริ่มใช้เท้าดันพื้นให้ไม้กางเขนค่อยๆ ขยับ แต่ทรายนี่กลับดูดติดไม่ซะงั้น โธ่ แขนก็ไม่ช่วยอะไรเลย ไม่นี่มันทำจากเหล็กเนื้อดีหรือยังไง ตะไคร่น้ำไม่มีสักนิด
โอย.......ฉันขยับจนเหล็กที่เอาแต่เสียบแขนข้างในมันกำลังจะตัดแขนฉันขาดอยู่แล้ว ทำไมฉันถึงทำอะไรไร้สติแบบนี้เนี่ย เอาล่ะๆ ตั้งสมาธิดีๆ สติ........สติ.........สติ๊! ว้าก ทำไมทำไม่ได้
งั้น....นับเลข 1......2.......3........4.......5....... โอเค เย็นไว้ๆ
‘แต่......ทำไมต้อง.....’
อ้าก นี่ฉันเป็นอะไรไปอีกเนี่ย!
ฉันไม่รู้........ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไร ทำไมถึงคลั่งได้แบบนี้ คราบความเงียบหายไปไหนหมด!
จู่ๆ สมองฉันก็สั่งคำพูดออกมาประชดตัวฉันเอง ในขณะที่หัวใจมันเหมือนถามตัวเองอยู่ ว่าทำไมไม่สงบสักที
น่าแปลกที่มันทำให้ฉันสงบลงจากอาการเดือดร้อนตะกี้นี้ได้ แต่...
........ทำไมต้องรู้สึกเหมือนอยากร้องไห้ล่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย แล้วฉันก็.......ร้องไห้ไม่ได้ด้วย
ทำไมถึงร้องไห้ไม่ได้ ถ้าร้องไห้ไม่ได้คงไม่ใช่คนแล้วล่ะ ที่ผ่านมาเห็นแต่น้ำตาคนอื่น ไม่เคยแม้จะเห็นน้ำตาตัวเอง.....หรือว่าเคย......ไม่ๆๆ ยังไม่เคยรู้สึกสักครั้ง
ฉันแหงนหน้ามองท้องฟ้า.........ด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย
ส่วนหนึ่งมันบอกว่า........เศร้า
ส่วนหนึ่งมัน.........ติดอยู่กับความคิดเดิมๆ
ส่วนหนึ่งยัง............งมงายกับการอยากร้องไห้
ส่วนหนึ่งไม่เคย.............อยากจะรู้สึกแบบนี้
ส่วนหนึ่งกำลัง..........อยากจะหนี
แต่สุดท้าย ทุกส่วนมันก็ยังคงทำให้ฉันรู้สึกนิ่งๆ อยู่ ไม่ได้หมายถึงว่าทำให้ฉันสงบสติอารมณ์ได้นะ แต่มันทำให้ฉันได้หยุดคิดถึงตัวเองต่างหาก
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
มาต่อกันดีกว่า
- Spoiler:
- อาซึสะ : จริงเหรอคะคุณฮานะ
หญิงสาวผมดำเดินเข้าไปใกล้ลิโนะพลางสำรวจทั่วตัวลิโนะ
ลิโนะ : (ยิ้ม) ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่เป็นไร
คิจัง : ฮ่ะๆ ก็ อาซึสะจังเขาเป็นห่วงคุณนี่
อาซึสะ : (จ้องหน้าคิจัง) ก็เพราะคุณนั่นแหละ ทำไมคุณถึงไม่ยอมดูแลคุณฮานะจังให้ดีดี
ลิโนะ : เอาน่าอาซึสะจัง ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วหนิ
อาซึสะ : จริงนะคะคุณฮานะ
ลิโนะ : อืมจริงซิ
คิจัง : เอาล่ะในเมื่อไม่มีอะไรแล้วเราก็เข้าไปหาอะไรทานขางในกันดีกว่า ฮานะจัง!!!ไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เที่ยงไม่ใช่เหรอ
ลิโนะ : อ่ะ อืม………………ไปกันเถอะ
แล้วชายในชุดผ้าคลุมก็เดินจูมือลิโนะกลับเข้าไปในงานท่ามกลางเสียงฮือฮารอบกาย
ลิโนะ : (กระซิบ) ย……………..ยูโตะคุง ฉันว่าปะ…………….ปล่อบมือกได้มั๊ง
คิจัง : (กระซิบตอบ) ไม่ได้ดิเดี๋ยวหลงไปล่ะแย่เลย
ลิโนะ : ก็ฉันเดินอยู่ข้างๆนายนี่แหละไม่ได้ไปไหน
คิจัง : ก็นั่นแหละครับ เดี๋ยวคุณหลงไปเดินตามคนอื่นผมก็แย่นะสิ
ลิโนะ : จะบ้าเหรอ อย่างฉันนี่นะจะไปตามใคร บ้าแล้ว
คิจัง : ก็แค่อยากให้แน่ใจ
ลิโนะ : ซึ่งนั่นก็หมายความว่านายไม่ไว้ใจฉัน
ลิโนะทำแก้มป่องอย่างไม่พอใจแล้วจึงเดินไปนั่งที่ขอนไม้ใกล้ๆ
ไอ : หว๋า……………..คิโดคุงทำให้ลิโนะจังงอนอีกแล้ว
อาซึสะ : (รุนหลังคิโดให้เข้าไปหาลิโนะ) ไปง้อคุณฮานะสิคะ
ไอ : อื้อ……………..เร็วๆสิ!!!
คิจัง : ฮ………..ฮานะจัง อย่าโกรธผมเลยนะ
ลิโนะ : ใครบอกว่าฉันโกรธนาย
คิจัง : ก……………….ก็……………………….ก็คุณ……………………..
ลิโนะ : (ย้ำทุกคำ) ใครบอกว่าฉันงอนนาย
คิจัง : อ่ะ …………………เอ่อ ไม่มี ไม่มีครับ
ลิโนะ : ไม่มีแล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันโกรธนาย
คิจัง : เอ่อ…………….ผม…………………….คือว่า……………….เอ่อ
ลิโนะ : (ค่อยหลับตาลง) มานั่งนี่ข้างๆฉัน
คิตัง : (ตกใจ) อ่ะ ค……………….ครับ
คิจังรับปากพลางเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆลิโนะ…………เมื่อเห็นชายหนุ่มทำตามที่ตนบอกหญิงสาวจึงเอียงคอลงมาซบไหล่กว้างชองคิจัง
ลิโนะ : นี่ยูโตะคุงนายรู้ไหม………………………………………ฉันน่ะ………………………ฉัน…………………….
คิจัง : ถ้าไม่รู้จะพูดยังไงก็ไม่ต้องพูดก็ได้ครับ……………………..ผมเข้าใจ
ติจังพูดพลางลูบผมของลิโนะเบาๆ…………………….
ลิโนะ : (หน้าแดงพลางนั่งตรงๆ) อ่ะ…………………………….
คิจัง : (งง) ปะ……………..เป็นอะไรไปเหรอครับ
ลิโนะ : ป่ะ………………………เปล่านี่……………….คะ………………แค่รู้สึก…………………………..หิวน่ะ
คิจัง : ฮ่ะๆ เหรอครับ งั้น เดี๋ยวผมไปตักอะไรมาให้ทานนะ
ลิโนะ : อ……………อืม
หญิงสาวพยักหน้ารับคำ………….. แล้วชายหนุ่มก็เดินออกไป เธอเหลือบมอกเขาด้วยรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้า
ไอ : (เดินมานั่งข้างๆ) แหนะๆยิ้มอะไรจ๊ะ
อาซึสะ : (เดินมานั่งอีกข้าง) ใช่ๆคุณฮานะ ยิ้มอะไร แน่……….เห็นเขาเอาใจอย่างนี้ ชอบใช่ม๊า………………
ลิโนะ : (หน้าแดง) พวกเธอสองคนพูดอะไรก็ไม่รู้
หญิงสาวผมเทาทำแก้มป่อง
ไอ : แหนะๆ ทำเป็นไม่สนแต่ที่จริงแล้วก็ชอบใช่ม๊า…………………..
อาซึสะ : (ยังแซวไม่เลิก) น่ะๆๆๆ คุณฮานะหน้าแดงเลย
ลิโนะ : ก็………………..อย่างหมอนั่นน่ะนะ
ไอ: (โพล่งขึ้นมา) น่ารักที่สุดเลยใช่ไหม
ลิโนะ : ก็…………………ไอจังน่ะ
ไอ : ทำไมเหรอ……………พูดแทงใจดำเลยใช่ไหม
ลิโนะ : ฉัน!!!!..............ไม่รู้ไม่ชี้ด้วยแล้ว!!!!
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
เมื่อวานยอมรับค่ะว่าโดด ด้วยเหตุที่ว่าหลังเรียนคาบสังคมเสร็จ ไม่มีอะไรเข้าสมองไปเลย แถมเหมือนสมองมันฝ่อๆ ด้วย เลยไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย
แต่วันนี้หายเป็นปกติแล้ว... ต่อนะ
แต่วันนี้หายเป็นปกติแล้ว... ต่อนะ
- Spoiler:
- หลังจากหลับไปได้หนึ่งงีบ ตื่นขึ้นมาพระอาทิตย์ก็ตั้งอยู่เกือบๆ กลางหัวแล้ว ท้องเริ่มร้องนิดหน่อย เมื่อวานน่าจะกินน้ำฝนรองท้องมานะ แต่ให้ทำไงล่ะ ในเมื่อมันคือเมื่อวานไม่ใช่วันนี้ T T
ฉันรู้สึกแสบร้อนๆ รอบๆ ข้อมือแปลกๆ จำได้แค่ว่าก่อนโดนมัดกับไม้กางเขนมันก็แทบจะไม่มีเนื้อหนังคาดไว้เลยนี้นา ตอนนี้มันก็.....โดนเหล็กกดด้วย เพราะฉันเห็นรอยสีแดงจางๆ ตรงโซ่ที่ล่ามข้อมือฉันไว้
ฉันจ้องข้อมือได้ค่อนข้างนานอยู่ จู่ๆ ก็มีเลือดไหลหยดลงมาซะงั้น ไม่นะ ฉันยังไม่ได้ส่งพลังจิตนะ ไหงเป็นงี้...... TOT
เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนสิ ลืมว่าตอนนี้อากาศชักอบอ้าว โธ่! ที่แท้ก็โดนฤทธิ์อากาศ คิดมากไปได้ ถ้าไม่ถูกจับขึงอยู่ฉันคงตบหน้าตัวเองซักสองสามทีนะเนี่ย
ซักพักไม่นาน เสียงรองเท้าเหยียบทรายก็ดังขึ้นเบาๆ แต่มันก็ดังพอให้ฉันได้ยิน หันไปก็ไปเจอะกับบุคคลสองคนเมื่อวาน แต่ไม่เหมือนเมื่อวานที่ว่า วันนี้ฉันกลับรู้สึกเฉยๆ ใส่
“ไม่ได้เจอกันนานนะ”
ไอ้อ่วนเถื่อนทัก
แจ๊ส : “นานเหรอ”
“ตั้งวันนึงแน่ะ”
แจ๊ส : “....” (ลดระดับหน้าลงมองทราย) “ฉันว่าออกจะแป๊ปเดียว”
“สำหรับแกคงไม่นานหรอก แกเอาแต่หลับตลอดเลยไม่ใช่เหรอ”
แจ๊ส : “แล้วแกรู้ได้ไงว่าฉันหลับ”
สองคนนั้นเดินมาถึงหน้าฉันแล้ว คำถามนี้ฉันก็ถามไปงั้นๆ แหละ แค่คันปากอยากพูดเท่านั้นเอง
“ก็เพราะฉันเห็นไง ถามอะไรโง่ๆ”
แจ๊ส : “แล้วยัยนี่เป็นใครล่ะ”
ฉันพูดพร้อมกับเน้นปากไปที่ผู้หญิงตรงหน้า ยัยนี่ออกอาการขุ่นๆ เคืองๆ นิดๆ
แจ๊ส : “อ๊ะ โทษที พอดีว่าชอบคุยแบบชาวบ้านไปหน่อย”
“ไม่เป็นไร”
ยัยนี่พูดว่างั้น แล้วก็เริ่มขยับมาใกล้ๆ ฉัน
“แกนี่.....ปากจัดอย่างที่พวกน้องๆ ฉันบอกไว้จริงๆ แฮะ”
น้ำเสียงออกแนวเย็นชาแต่ไม่มีทีเก๊ก (จ้า...ไอ้คนรู้มาก) คางฉันถูกจับให้เชิดหน้าขึ้นช้าๆ
“แก้มก็ด้านด้วย สงสัยว่าด้านทั้งหน้าเลยใช่ไหม”
แจ๊ส : (พูดเย็นๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น) “ด้านแบบธรรมชาติไง”
“งั้นก็ลองดูสิว่าแกจะด้านไปได้ขนาดไหน”
จบประโยค ยัยเสียงน้ำแข็งนี่ก็เริ่มใช้เล็บจิกที่แก้มฉันแรงขึ้นเรื่อยๆ
แจ๊ส : “นี่เล็บหรือขนเม่นเนี่ย จะไว้แหลมไปถึงไหน”
“เรื่องของฉัน”
แจ๊ส : “แต่มันก็เรื่องจริง ถ้าแกเป็นพวกคนชอบต่อสู้จริงๆ ก็น่าจะรู้ว่ามันก็เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของตัวเอง”
“ไม่ต้องมาเสล่อสอน!!”
เล็บที่จิกฉันแน่นอยู่แล้วก็ยิ่งแน่นเข้าไปหลายสิบเท่า นี่ถ้าฉันขยับตัวได้หรือหัวยัยนี่อยู่ไกล้กว่านี้ละก็ มันคงไม่เหลือซากศพดีๆ ไว้ให้พวกน้องๆ มันบูชาแน่
แจ๊ส : “เล็บแกนี่...แข็งดีเนาะ”
“หึๆ ฉันไม่ขำด้วยนะ”
แล้วอยู่ดีๆ คนที่ออกแนวเย็นยะเยือกตรงหน้าฉันก็เหมือนจะมีรังสีความอัมหิตแผ่ซ่านจนคนที่อยู่ข้างหลังต้องถอยไปด้วยท่าทีหวาดๆ
แต่โทษทีนะ มันไม่มีผลต่อฉันหรอก
แจ๊ส : “แกทำอะไรของแกน่ะ”
“อย่าพล่าม เสียงแกมันก็ไม่ต่างจากเสียงท่อไอเสียรถหรอก”
แจ๊ส : (เริ่มพูดไม่ชัด) “ฉันไม่เห็นภาพแฮะ”
“.....”
ตอนนี้ฉันชักจะขยับกรามได้ไม่ค่อยดีซะแล้ว เจ็บจี๊ดไปทั่วใบหน้าส่วนล่าง
น้ำสีแดงเข้มค่อยๆ ไหลออกจากบริเวณที่ถูกกดด้วยเล็บ
“ยี้! ฉันเกลียดเลือดของคนปากแข็งที่สุด”
ถึงยัยปากน้ำแข็งจะพูดอย่างนั้นออกมา แต่มันก็ทำท่าทางเหมือนสะใจฉันสุดๆ ก่อนจะปล่อยมือออกไป
พลั่ว!
โดนของแถมเต็มๆ ด้วยสันเท้า ความชาแผ่ซ่านไปจนถึงคอหอย
“หึ....มันยังไม่จบแค่นี้แน่”
แจ๊ส : “ฉันก็น่าจะพูดคำนั้นด้วยนะ”
พลั่วๆ!!
ทั้งศอกทั้งหมัดเลย
โธ่ สุดท้ายก็แกล้งกันเบาอย่างเดิม ถ้าแค้นกันนักก็ปล่อยออกมาให้หมดๆ สิ
แต่ยังไม่ทันที่ความคิดฉันจะได้แล่นต่อ ผมกลางหัวฉันก็ถูกจับดึงให้หน้าเชิดขึ้นอีกรอบ
ยัยนี่เพยิบยิ้มนิดๆ เนื่องจากหน้ากากของมันปิดแค่ตา หน้าผาก และจมูก
“แต่แกมีข้อดีให้ฉันอย่างนึงนะ.......”
ยัยนี่ลากเสียงยาวก่อนจะทุ่มหัวฉันลงเหมือนหัวเสีย
“.........ถึงแม้ฉันแทบจะฆ่าแกไปต้มไปแกง แต่แกก็ยังคงแสดงสีหน้าเดิมๆ อยู่”
พูดจบไม่กี่เสี้ยววินาทีก็เกิดเสียงเท้าดังขึ้นเล็กน้อย แต่......
“หิวน้ำก็ไม่บอก!”
ตึ้ก!!!! ฟุ่บ! ซ่า....
ว้ากกกกกกก แสบสุดๆๆๆๆ
“5555”
“5555”
อีกนานไหมพวกแกจะเลิกเล่นโอเปราประสามเสียงเนี่ย
จากประโยคประชดเมื่อกี้ ไม่กางเขนที่มัดฉันติดไว้ก็ถูกยัยปากน้ำแข็งเตะจนล้ม แต่ก็ยังโชคดีที่ปลายด้านหนึ่งไปปักกับทราย ฉันจะได้ไม่ต้องลุ้นว่าหน้าจะคว่ำหรือหงาย แต่มันก็มีโชคร้ายใจขณะเดียวกัน.....
ทั้งข้อมือกับแขนซ้ายอีกครึ่งหนึ่งของฉันจมหายไปกับผิวน้ำ น้ำเกลือจากทะเลก็ค่อยๆ กัดกร่อนแผลฉันเรื่อยๆ แถมถูกคลื่นซัดด้วย น้ำใสๆ บริเวณนี้เริ่มกลายเป็นสีแดงอ่อนๆ เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ในที่สุดก็ได้กลับมาต่อลงบอร์ดนี้อีกครั้ง
ช่างเป็นวันที่ดีสุดๆๆ (เวอร์)
พอจะต่อคอมก็ไม่ว่าง พอมีงานคอมดันว่าง ดีใจจอร์จเลยที่วันนี้ว่างทุกอย่าง (เล่นซูโดกุหมดไปเป็นสิบตารางเพื่อรอคอมว่างเลย กระซิกๆ)
ลงโลด
(/me กลับไปเล่นซูโดกุต่อ /โดนเตะกระจุย /ช่วงนี้เหมือนจะโดนสิ่งนี้กินแทนการบ้าน )
ช่างเป็นวันที่ดีสุดๆๆ (เวอร์)
พอจะต่อคอมก็ไม่ว่าง พอมีงานคอมดันว่าง ดีใจจอร์จเลยที่วันนี้ว่างทุกอย่าง (เล่นซูโดกุหมดไปเป็นสิบตารางเพื่อรอคอมว่างเลย กระซิกๆ)
ลงโลด
- Spoiler:
- ผ่านตอนเย็นที่มีแสงแดดอุ่นๆ ไปเจอกับกลางคืนที่ดูยังไงก็เหมือนเดิมแต่มันไม่เหมือนเดิม
ตอนนี้น้ำทะเลแทบจะทะลักเข้าจมูกฉันอย่างไม่หยุด จะหายใจไม่ออกแล้วนะ เรี่ยวแรงหายไปหมดเพราะฤทธิ์อากาศที่ร้อนๆ หนาวๆ ลมหนาวพัดผ่านครึ่งร่างของฉันเบาๆ แต่มันทำให้ทั้งร่างฉันเย็นยะเยือกเพราะโดนน้ำทะเลด้วย ตาฉันพร่ามัวและแสบไปหมดเช่นกัน อยากจะหลับตาให้ตัวเองหลับไปซะ แต่ลมมันก็ยังพัดอยู่ทำให้ฉันหลับไม่ลง ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย นี่มัน....ลมอะไรกัน
......สายลมที่ทั้งหนาว.....และทำให้รู้สึกอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จะว่ากลัวก็ไม่ใช่ กล้าหาญก็ไม่เชิง แต่มันอาจมีอะไรมากกว่านั้น มากกว่าเสียงที่สายลมพวกนี้บอก
-------------------------------------------------
เมื่อคืนฉันต้องรออีกหลายชั่วโมงกว่าน้ำจะลดให้พออยู่ในสภาพดีๆ และหลับลงได้
ตื่นขึ้นมาเปลือกตาก็แทบเปิดไม่ขึ้น เหมือนมีอะไรเกาะอยู่ เป็นเม็ดเล็กๆ ฉันไม่สามารถปัดมันออกไปได้ เลยได้แต่รอให้น้ำขึ้น
แต่ทว่า พอน้ำขึ้นมันกลับไม่เป็นอย่างที่ฉันคิดน่ะสิ ถึงฉันจะพยายามล้างมันออกไปหมดแล้ว พยายามเช็ดหน้าแล้วแต่มันก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันช็อกจนเรียกได้ว่าสติหลุดออกไปได้เลย
“ไหนดูซิ”
ไม่ใช่เรื่องที่พวกมันมาหรอกนะ
“หึๆๆๆๆ”
ไอ้อ้วนเถื่อนก้มลงดูฉัน ตามด้วยรอยยิ้มที่แสนจะพอใจของยัยปากน้ำแข็ง
กึกๆๆ ฉึก!
ไม้กางเขนถูกทำให้อยู่ในสภาพตั้งฉากกับพื้นอีกครั้ง และมีหยดน้ำเกาะอยู่ทั่วร่างฉัน
นี่ไงล่ะ สิ่งที่ทำให้ฉันเปลี่ยนสีหน้าไป .......ผมที่ป้ายปิดหน้าฉันอยู่ มันโดนน้ำจนเกาะกันเป็นกลุ่มๆ.......และฉันไม่รู้ว่ามันยังปิดหน้าซีกขวาฉันอยู่หรือไม่......
สายลมเงียบไป มีเพียงแค่เสียงคลื่นทะเลที่พัดเข้าฝั่ง และเสียงคนสองคนหัวเราะเย้ย
“จะเอามันไปเมื่อไหร่ครับ”
“เดี๋ยวสิ.....ใจร้อนไปทำไม”
เหมือนเวลาผ่านไปเร็วมาก ณ ตอนนี้ดวงอาทิตย์อยู่ในแนวประมาณ 45 องศา
“...The fate will design by itself that what will we do…” (โชคชะตาจะกำหนดด้วยตัวมันเองว่าจะให้เราทำอะไร)
เสียงหญิงผมเขียวน้ำทะเลพูดด้วยภาษาอังกฤษ อ้อ พวกแกชอบเล่นคำและเชื่อแบบนี้สินะ
“และฉันก็อยากรู้เหมือนกัน.......ว่าแก จะซ่าได้อีกสักแค่ไหน”
ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับเดินเข้ามาจับหน้าฉันให้เงยขึ้นแรงๆ และจ้องด้วยความรู้สึกพอใจสุดๆ
จู่ๆ ฉันก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรวูบๆ วาบๆ ตามร่างกายยังไงไม่รู้ หญิงตรงหน้าฉันมีท่าทีสงสัยเล็กน้อย แต่ไม่ช้าก็เปลี่ยนสีหน้าและจิกเล็บลงไปที่แก้มฉัน ซึ่งมันตรงกับรอยเก่าที่เธอทำไว้
“มันจริงไหมล่ะ คนอย่างแกตอนนี้จะไปทำอะไรฉันได้ 5555”
ฉันไม่ได้ยินเสียงหัวเราะนั่น หูเริ่มบอดลงเล็กน้อย ตาเริ่มพร่าๆ แต่มันก็กลับมาเป็นปกติแค่เพียงเสี้ยววินาทีและ...
ฉันรู้สึกเหมือนร่างกายพยายามจะต่อต้านอะไรสักอย่าง แต่เมื่อโดนเล็บจิกแรงขึ้นเรื่อยๆ มันก็เงียบไป
“หึ...แกยังมีประโยชน์กับฉันอีกเยอะ”
หน้าฉันถูกผลักและตีด้วยสันมือ
“ในตอนนี้ แกมันก็เป็นหนึ่งในพวกคนที่สร้างความแค้นให้ฉัน”
มือเรียวๆ ค่อยๆ ยื่นมาจับที่กระดูกขากรรไกรล่างและเลื่อนลงไปเกือบถึงคอ
แจ๊ส : “งั้นแสดงว่าแกคงมีความแค้นกับใครไว้เยอะสินะ”
เล็บคมๆ ถูกบังคับให้ปักลงไปในเนื้อบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ฉันไอออกมาโดยอัตโนมัติ
“สอดรู้มากนะแก....”
คอฉันถูกดันติดไม้ข้างหลังด้วยแรงดันที่แทบจะไม่ต้องเค้นมันออกมา
“แต่นี่ใช่ไหม คือสิ่งที่ติดตัวแกมาตั้งแต่เกิดน่ะฮะ!”
แจ๊ส : “คงงั้นมั้ง”
เสียงฉันที่แทบจะเปล่งออกมาไม่ได้ ไหลออกมาจากริมฝีปากก็เป็นแค่เสียงแห้งๆ ที่เกิดขึ้นเท่านั้น
ฉันรู้สึกเหมือนจะเห็นอะไรจากใต้หน้ากากนั่นด้วย
.....แววตา.....แววตาที่แสดงให้เห็นถึงความเคียดแค้นอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่ามันจะแค้นอะไรนักหนา ฉันไปทำให้พ่อแม่พวกแกเสียหรือไงมิทราบ
“จะขัดขืนเหรอ ช้าไปแล้ว...”
แม้สติจะกลับมาครบ แต่ตอนนี้ มันคงช่วยอะไรฉันไม่ได้แล้วล่ะ
แต่มือที่คอฉันกลับปล่อยช้าๆ และเปลี่ยนท่าทางเป็นยิ้มๆ แทนอารมณ์เมื่อครู่
“...ยังเหลือเวลาอีกตั้งมากมายที่ฉันจะได้ทรมานแก...”
รอยยิ้มและเสียงที่เยือกเย็นถูกสื่อออกมา แต่ฉันกลับทำเพียงจ้องหน้าด้วยสายตาไร้ความรู้สึก
เพี๊ยะ!
“จะแสดงสีหน้าก็ทำให้มันดีๆ หน่อยเซ่”
แจ๊ส : “ตบคนก็เป็นด้วยเหรอ” (หันหน้ากลับ) “หน้าฉันมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แกจะให้ฉันทำอะไรอีกล่ะ!!”
“งั้นเหรอ”
แจ๊ส : “หึ.....ใครว่าฉันพูดเล่นล่ะ” (จ้องหน้า)
“......”
ยัยปากน้ำแข็งเสมองไปทางอื่น และฉันก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกอะไรกับท่านั้นเลย
“ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงละก็...”
ใบหน้านั้หันมาพร้อมกับปากที่ลากเสียง
“.......สายตาแกกับหน้าแกคงตายด้านไปแล้วล่ะนะ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะทิ้งท้ายและหญิงคนนั้นก็สะบัดผมพร้อมกับหันหลังกลับ
“ดีใจจริ๊ง.....ฉันจะได้ฆ่าคนไม่มีความรู้สึก”
ชายหญิงสองคนเดินจากไปด้วยท่าทางค่อนข้างระรื่น
ใบหน้า......ตายด้าน
สายตา..........ตายด้าน
อารมณ์..........ตายด้าน........งั้นหรือ
เหมือนเคยได้ยินที่ไหน............อาจจะ..........เคยพูดออกมาด้วยซ้ำ
ที่ไหนกัน...
ตอนไหนกัน....
และใครกัน.....ที่พูด
ถ้าไม่ใช่ฉันก็คงเป็นคนใกล้ตัวฉันนี้แหละ......คิดให้ออกสิ
ถ้าอารมณ์ฉันมันตายด้านละก็ ทำไมฉันต้องกลัวล่ะ ทำไมต้องห่วงคนอื่นล่ะ และอีกมากมายที่อยากถามว่าทำไม.....
สายตาฉันทอดออกไปบนผืนทรายที่ว่างเปล่าตรงหน้า
หรือนี่เป็นจุดจบจริงๆ............ของคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างฉัน..............ของคนที่ขาดทางเดินของตัวเองตั้งแต่แรก.........
(/me กลับไปเล่นซูโดกุต่อ /โดนเตะกระจุย /ช่วงนี้เหมือนจะโดนสิ่งนี้กินแทนการบ้าน )
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ต่อๆๆๆ
- Spoiler:
- ฉันมีชีวิตอยู่มาได้ยังไงกัน......กับการทนกับเส้นทางนี่.....เส้นทางที่ไร้การร่างนี่......
อ๋อ........เพราะไม่มีความรู้สึกสินะ ถึงทนอยู่มาได้..........
......น่าสมเพศ........จริงๆ........
......หยิ่งอยู่ได้..........ทั้งที่ไม่มีศักดิ์ศรีเลยสักนิด.........
......เย็นชาไปวันๆ..........แต่ถ้าตัดขาดกับอะไรไปเราคงดูเหมือนเป็นคนไร้ค่าในทันที........
....ไม่รู้เหมือนกัน....ว่าทำไมถึงรู้สึกเหมือว่ามีค่าเวลาอยู่กับบลูและพวกนักเตะ......ไม่เหมือนอยู่กับตัวเอง.....
ที่ทำให้รู้สึกเฉยๆ อยู่ตลอดเวลา.......
ถ้าอยู่กับเพื่อน.......สมองฉันยังได้สั่งงาน.....
แต่อยู่ตัวคนเดียว.......เหมือนสมองฉันมันกำลังปั่นป่วน....
จะเอายังไงล่ะ..........ระหว่างเพื่อน....กับตัวคนเดียว....ตอบมาเซ่!
....................
..........
....
.
ใจหนึ่งบอกเพื่อน..........ใจหนึ่งบอกตัวคนเดียว
ฉันไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลยสักนิด!!!!
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ฉันส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่ายตัวเอง แม้แต่ความรู้สึกตัวเองฉันยังไม่เข้าใจ ฉันจะไปเข้าใจอะไรได้มากกว่านี้อีกเล่า!!........
-----------------------------------------------------------
แดดยามบ่ายทำเอาฉันอยากปลงตัวเองจริงๆ เหมือนไม่มีอะไรดีเลย.....ในตัวฉัน ทั้งชอบอยากทำตามคนอื่น ชอบทำตัวเป็นทำอะไรเป็นแทบจะทุกอย่าง และอีกหลายๆ อย่างที่มันไม่ดี
เหมือนเกลียดตัวเองอยู่ลึกๆ แต่ขึ้นมาอีกหน่อย.....มันไม่ใช่ แต่ความรู้สึกเกลียดก็ไม่ได้หายไปไหน
ถึงลมจะเย็นและแรงก็ไม่สามารถพัดพาความวุ่นวายและร้อนรุ่มในใจของฉันไปได้
ฉันยังคงคิด...คิด....และคิด
ไม่เป็นอะไร ความคิดแต่ละความคิดก็ทั้งเข้าข้างตัวเองและดูถูกตัวเอง
ฟิ้ววววว~~~~~
อยู่ดีๆ ลมก็พัดแรงขึ้น เศษทรายปลิวเข้าตาฉันไม่หยุดจนฉันต้องหลับตา แต่ในตามันก็ยังเจ็บอยู่ดี
ค่อนข้างนานกว่าลมจะหมดไป แต่ฉันก็ยังแสบตาไม่หาย โอย.....เช็ดตาก็ไม่ได้ด้วย
เหมือนโดนโชคชะตาแกล้งอีกครั้ง........แสงแดดร้อนขึ้นและเหงื่ออันเริ่มผุดขึ้นมาทีละเม็ดสองเม็ด
ไม่ใช่แค่นั้น เหงื่อมันไหลเข้าตาฉัน! โอ้ย แสบขึ้นเป็นสิบเท่าเลย TT^TT
กว่าจะลืมตาได้ก็แทบระบม ยังเจ็บๆ แสบๆ แปล๊บๆ อยู่นิดหน่อย
แดดนี่ก็ร้อนเหลือเกิน ตัวฉันจะไหม้อยู่แล้ว
ซ่า!!!!
ใครสาดน้ำเนี่ยยยยยยย!!!
“เย็นมะ”
แจ๊ส : “นายนั่นเอง”
“อืม เห็นเหงื่อโชคเลยหาน้ำมาให้”
แจ๊ส : “นายเอาน้ำอะไรมาสาดฉันเนี่ย”
“น้ำประปาไง คิดว่าฉันมันชั่วขนาดนั้นเลยหรือไง”
แจ๊ส : “..... ก็อาจจะ เพราะศัตรูที่มาทำดีด้วยน่าสงสัยที่สุด”
“ฮ่ะๆๆๆ แหงล่ะ ประโยคนี้เขาก็เชื่อกันไปทั่ว”
แจ๊ส : “...”
“แต่ไม่ต้องห่วงหรอก.... ยังไงซะ สุดท้ายฉันก็คงกลายเป็นศัตรูของทุกฝ่ายอยู่ดี.....”
แจ๊ส : “นายหมายความว่าไง”
ฉันถามไป แต่มันกลับไม่ได้รั้งให้นายนั่นตอบฉันเลยสักนิด เขาทำท่าเหมือนถอดหน้ากากออก ฉันเห็นแต่แผ่นหลังและมือที่ถือหน้ากากสีเหลืองอ่อนเดินจากไปช้าๆ
หมายความว่ายังไง “ศัตรูของทุกฝ่าย”
--------------------------------------------------
ตกเย็นแล้ว ทำไมเดี๋ยวนี้เหมือนเวลามันผ่านไปเร็วจัง แป๊ปๆ เช้า สักพักก็เที่ยง ไม่นานก็บ่าย
แต่ตอนเย็นนี้แปลกหน่อยๆ อากาศออกแนวร้อนอบอ้าวนิดๆ
ฟุ่บ...
เสียงเท้าเหยียบทรายดังมาจากทางด้านขวา ....ชะตาฉันจะขาดวันนี้ไหมเนี่ย....
“ไง...”
ไอ้อ้วนเถื่อนทักฉันเป็นคนแรกตามเคย และพวกที่เหลือก็ค่อยๆ ทยอยกันมายืนตรงหน้า แต่ฉันไม่เห็นนายคนที่ผมยาวๆ สีเหลืองอ่อนที่ใส่หน้ากากสีเหมือนผมตัวเองแฮะ
“เดี๋ยวนี้เห็นเงียบไป ฉันละเดาความคิดแกไม่ถูกจริงๆ ว่ะ”
เออ งั้นก็ไม่ต้องเดาสิ
“เฮ้ยๆ พูดอะไรหน่อยก็ได้นะ”
ไอ้อ้วนเถื่อนพูดพร้อมกับเดินเข้ามาเชยคางฉันขึ้น
แจ๊ส : “ฉันไม่พูดแล้วมันผิดกฎหมายข้อไหนเหรอ”
“ฮึ!!! ทำเป็นอวดดีนะแกเนี่ย”
หน้าฉันถูกเหวี่ยงลง 45 องศาในทันที
“แต่แกคงอวดดีได้ไม่นานหรอก.......น่าจะไม่เกินคืนนี้ด้วยซ้ำ”
แจ๊ส : “แกเป็นหมอผีหรือไง”
“ฉันถือว่าแกชมละกัน”
แล้วฉันก็โดนมันเขกหัวหนึ่งทีก่อนเดินจากไป เห็นฉันเป็นเด็กนักหรอไง ถ้าหนีออกไปได้ละก็ ฉันฆ่าพวกแกยกแก๊งแน่
“หึๆๆๆ ซ่าอีกสิ”
ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มพูดด้วยเสียงที่เย็นยะเยือก
แจ๊ส : “.....” (ทิ้งน้ำหนักลงหัวตัวเอง)
“แต่ฉันคิดว่ามันยังไม่หนำใจพอสำหรับแกนะ”
ผมฉันถูกจับและดึงขึ้นอีกครั้ง จะอะไรกันนักกันหนากันผมฉันเนี่ย
แจ๊ส : “แล้วทำไมล่ะ”
“ก็แค่....”
หญิงเสียงเย็นยักไหล่เล็กน้อย
“......อยากให้แกทำก่อนที่จะไม่ได้ทำเท่านั้นเอง”
แจ๊ส : “งั้นเหรอ....” (ขบริมฝีปากตัวเองเพื่อข่มความเจ็บปวดไว้)
“หึๆๆ”
ครืด....
เล็บที่จิกลงบนคางฉันถูกชักลงอย่างแรงทำให้ขูดเนื้อด้านล่างบริเวณที่ถูกจิกด้วย ช่างคิดสรรหาวิธีทรมานกันจริงๆ
แจ๊ส : “มีอะไรอีกไหมที่แกจะทรมานฉัน”
เพราะตอนนี้ฉันปลงตัวเองแล้วล่ะ ถ้ารอดวันนี้ไปได้คง............ไม่รู้สิ
“จะใจร้อนไปไหนกัน.....เห......นี่ผิวแกขาวขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
ฉันมองตามสายตาของยัยเสียงน้ำแข็ง ยัยนี่กำลังมองแขนฉัน ซึ่งฉันก็เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่ามันซีดขนาดนี้
แจ๊ส : “แล้วทำไมล่ะ”
“ฉันจะถามแกว่า แกไปทำอะไรมาถึงได้ขาวขนาดนี้”
แจ๊ส : “ก็แค่.....กรีดเอาเลือดออกเยอะๆ แค่นั้นเอง”
เพี๊ยะ!!
“แกตอบได้ถูกใจฉันมาก เอาไปเลย....หนึ่งแต้ม”
หนึ่งแต้ม.....น่าจะเบากว่านี้นะ
แล้วยัยเสียงน้ำแข็งก็เล่นแบบนี้กับฉันไปเรื่อยๆ มันไม่ปัญญาอ่อนไปเหรอ ในเมื่อทุกคำตอบฉันก็โดนหมด ทีละเพี๊ยะสองเพี๊ยะ
เวลาตอนนี้คงหกโมงกว่าๆ แล้วล่ะ และแก้มซ้ายฉันทั้งแก้มก็ชาแบบสุดๆ เลย
“เฮ่อ....เบื่อแล้วล่ะ พวกเรา...ขนมันไปได้เลย”
“ครับ!”
แล้วพวกที่เหลือทั้งหลายแหล่ก็พากันมาล้อมฉัน และเริ่มแกะจากปลอกแขนและปลอกขาก่อน
เป๊าะ!
หลังเปิดปลอกแขนออก สีตรงหน้าที่ฉันเห็นคือสีดำ แต่ไม่นาน เมื่อแสงดาวเริ่มส่งสว่างขึ้น ฉันแทบจะไม่สงสัยอะไรเลย เพราะมันคือ.......
“ล้างเลือดโสโครกพวกนี้ออกซะ ฉันกลัวมันจะมาติดและแพร่เชื้อให้กับฉัน”
ยัยเสียงน้ำแข็งสั่งลูกน้อง
ใช่แล้ว....เลือดฉันเอง ทั่วทั้งแขนและขาฉันเต็มไปด้วยเลือดสีเข้ม
ผ่านไปไม่นานฉันก็ถูกพวกมันจับขึ้นแปลหามอย่างง่ายดาย พยายามจะขัดขืนเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล เพราะเรี่ยวแรงฉันไม่มีเลยสักนิด
ฉันสังเกตเห็นรูเล็กๆ ตามแขนและขาด้วย สงสัยคงจริงอย่างที่ฉันรู้สึกแหละว่าโดนอะไรเล็กๆ ทิ่ม
พลั่ก!! ขลุกๆๆๆๆ
อยู่ดีๆ พวกนั้นก็หยุดและฉันก็ถูกเตะให้ลงไปนอนกลิ้งกับพื้นเฉยเลย ฉันพยายามจะพยุงตัวเองลุกขึ้น แต่แรงกลับหมดลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ภาพที่เห็นเริ่มพร่ามัวลงอีกแล้ว
“ทีอย่างงี้อยากมีชีวิตอยู่นะ”
ยัยเสียงน้ำแข็งพูดพร้อมกับเดินมานั่งยองๆ ดูฉันด้วยท่าทางเย็นชา
แจ๊ส ; (พูดเสียงแหบ) “เรื่องของฉัน......”
ผมฉันโดนจับและดึงขึ้นก่อนจะได้สนทนาอะไรต่อ
“หยิ่งตอนนี้.....สายไปไหม”
ปึ่ก!
หัวฉันถูกเขวี้ยงลงตามเคย
“... ตามสบาย”
ยัยเสียงน้ำแข็งพยักหน้าเหมือนให้สัญญาณอะไรสักอย่าง แล้วพวกที่เหลือก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ........
----------------------------------------------------
ขลุกๆๆๆๆๆ ตุ้บ!!
(.......จู่ๆ ก็เหมือนมีได้ยินเสียงอะไรสักอย่างกลิ้งตกลงแถวๆ นั้น เด็กชายคนหนึ่งที่เดินผ่านแถวนั้นได้ยินเสียงจึงหันไปมองตามต้นเสียงที่ตนได้ยิน)
(แต่เขากลับเห็นแต่เงาดำๆ เท่านั้น)
(เขาไม่ได้คิดจะสนใจอะไรอีก......และเดินจากไป)
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ต่อๆๆๆๆ
- Spoiler:
- ลิโนะสะบัดหน้าหนีเพื่อนสาวพลางทำแก้มป่องอย่างงอนๆ
ไอ : อ๋า……………ลิโนะงอนซะแล้ว………….ฉันไม่เก่งเรื่องง้อคนด้วย
อาซึสะ : ทำไงดีล่ะ คุณคิโดคุงก็ไม่อยู่ซะด้วยสิ
ลิโนะ : อะไรกันเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับหมอนั่นซักหน่อย
ไอ : (ทำเสียงล้อเลียน) เหรอ…………..
ลิโนะ : ก็จริงนะสิ
“มาแล้วๆ”คิจังพูดขึ้นพลางถือถาดใส่อาหารใบโตเดินเข้ามา
คิจัง : กำลังพูดถึงผมอยู่หรือเปล่า
ลิโนะ : เปล่าซักหน่อย ใครจะไปพูดถึงนายกัน คนหลงตัวเอง
คิจัง : เปล่าซักหน่อยผมไม่ได้หลงตัวเองนะ
ไอ : ที่ไหนล่ะ ลิโนะจังพูดถึงนายตลอดเลยนะ
ลิโนะ : (ทำเสียงดุ) ฉันไปพูดถึงยูโตะคุงเขาตอนไหน
อาซึสะ : แหนะๆ อย่าโกหกเลยค่ะ ไม่สำเร็จหรอก
คิจัง : (มองหน้าลิโนะ) คิดถึงผมล่ะสิ
ลิโนะ : (มองหน้าคิจัง) ไม่ใช่ซักหน่อย
คิจัง : (หอมแก้มลิโนะฟอดใหญ่ก่อนทิ้งตัวนั่งข้างๆ) แต่ผมคิดนี่
ลิโนะ : (หน้าแดง) คิดของนายไปคนเดียวแล้วกัน
คิจัง : (หยิบปูนึ่งมาง้อลิโนะ) นะครับอย่างอนผมเลย
ลิโนะ : (จับปูมาถือไว้) แล้วใครว่าฉันงอนล่ะ
คิจัง : (หยิบปูมาจากมือลิโนะ) มาผมแกะให้
ไอ : (โพล่งออกมา) เอ่อ………………ขอโทษนะคะถ้าจะสวีทกันกรุณา เห็นใจคนโสดสองคนนี้ด้วยนะคะ
อาซึสะ : ใช่ๆ
ลิโนะ : เหรอ………………แล้วกับกาเซลคุงล่ะเขาเรียกว่าอะไร
ไอ : (เปลี่ยนเป้าหมายทันทีหันมามองอาซึสะ) นั่นสิ!!เธอสองคนมันยังไงๆอยู่น๊า…………….
ลิโนะ : อืมมมมมมนั่นสิ!!!
หญิงสาวผมเทาได้ทีเปลี่ยนประเด็นพูดคุยเธอจึงรีบเสริมคำพูดของไอทันทีก่อนที่ทั้งคู่จะวกมาพูดเรื่องเธออีก
อาซึสะ : (หน้าแดง) ไม่ใช่นะ!!! ไม่ใช่ฉันกับเจ้าบ้ากวางน้ำแข็งนั่น ไม่มีอะไรกันซักหน่อย
คิจัง : (กระซิบกับลิโนะ) แผนสูงจังนะเบี่ยงเบนความสนใจ
ลิโนะ : (กระซิบตอบ) ก็จำมาจากนายนั่นแหละคนเจ้าแผนการณ์
คิจัง : ผมเข้าแผนการณ์ตรงไหน ผมน่ะ ออกจะใสซื่อและอีกอย่าง(หันไปแกะปูต่อ)คุณก็บอกเองว่าผมเป็นคนซื่อๆ
ลิโนะ : (กระซิบข้างหูคิจัง) ใช่ บางทีนายก็ซื่อจนน่าโมโห ดูอย่างเมื่อกลางวันสิกว่านายจะรู้ว่าทำยังไงฉันถึงฟื้น ฉันต้องรอนายตั้งนานแหนะ
คิจัง : แต่ผมก็พูดมันออกมาจนคุณฟื้นนี่
ลิโนะ : ก็ใช่ แต่ถ้านายรู้ตัวช้ากว่านี้ฉันไม่ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราตลอดไปเลยเหรอ
คิจัง: โธ่…………….ยังไงผมก็ต้องหาทางทำให้คุณฟื้นได้นั่นแหละน่า
ลิโนะ : แปลกๆแฮะพูดเหมือนไม่ใส่ใจ
คิจัง : (หันมามองลิโนะ) ใส่ใจสิคร้าบบบบบบบบบบบบ ถ้าผมไม่ใส่ใจคุณแล้วจะไปใส่ใจใคร แต่เอ…………เพิ่งรู้นะว่าคุณก็ขี้งอนเหมือนกันนะ
ลิโนะ : ก็ใช่น่ะสิฉันก็เป็นผู้หญิงนะ
ไอ : ขอโทษนะ ขอขัดจังหวะนิด นี่สองคนนี้(ชี้ไปที่คิจังและลิโนะ) จะโลกส่วนตัวกันเกินไปหรือเปล่า
ลิโนะ : (คกใจ) โลกส่วนตัวอะไรกัน!!!ไม่ใช่ซักหน่อย
ฮาซึสะ : (ได้ทีรีบสำทับ) คุณฮานะอย่าปฏิเศษเลยค่ะ ก็หน้าคุณฮานะมันฟ้องนี่
ลิโนะ : (หน้าแดง) ไม่ใช่ซักหน่อย ฉะนแค่คุยธรรมดากับยูโตะคุงเอง
ไอ : แน่เหรอ…………..
ลิโนะ : แน่สิ
ไอ : เชื่อได้!!
ลิโนะ : เชื่อได้สิ……….
สาวผมแดงจ้องหน้าเพื่อนหญิงที่ต่อปากต่อคำกับเธออย่างหาความหมาย
ไอ : ฉันไม่เชื่อ อ ย่างเธอนี่นะ กับคิโดคุง ไม่มีอะไรกัน ใครเชื่อก็ออกลูกเป็นไข่แล้ว ออกจะสวีทวี๊ดวิ้วกันขนาดนั้น
ลิโนะ : งั้นก็เตรียมตัวออกลูกเป็นไข่ได้เลยเพราะฉันกับยูโตะคุงไม่มีอะไรกัน
คิจัง : (เอียงตัวมากระซิบข้างหูลิโนะ) เป็นแฟนกับผมแล้วนี่นะไม่มีอะไร
ลิโนะ : (หน้าแดง) นายจะมาพูดอะไรตอนนี้
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
หน้า 3 จาก 8 • 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8
หน้า 3 จาก 8
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|