มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
+12
Fliz flamme
myeleven
Mashiro-Hiro
ピエロココ
凶死郎 ナット
Bakunetsu Japan
shiotari atsusa
jass-blue2020
lovlyprao
羽島 花
kagura ai
fujiwara
16 posters
หน้า 2 จาก 8
หน้า 2 จาก 8 • 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
หวานกันอีกแล้วคู่นี้-..-น่ารัก
แต่ "วาเลนไทน์" <<<เขียนงี้ไม่ใช่เหรอ-..-
แต่ "วาเลนไทน์" <<<เขียนงี้ไม่ใช่เหรอ-..-
凶死郎 ナット- จำนวนข้อความ : 48
Join date : 23/11/2010
Age : 30
ที่อยู่ : フィディオのそばにいる
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
หืม....เหรอ ขอโทษทีๆเขียนผิดเองน่ะแหละ凶死郎 ナット พิมพ์ว่า:หวานกันอีกแล้วคู่นี้-..-น่ารัก
แต่ "วาเลนไทน์" <<<เขียนงี้ไม่ใช่เหรอ-..-
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
เข้าสู่โหมดปกติซะที
- Spoiler:
- วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เหล่านักเตะและสตาฟฟ์ของทีมอินะสุมะเจแปนทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วฮารุนะก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาลิโนะ
ฮารุนะ : (หอบ) พี่ฮานะจังคะ โค้ชเรียกพบด่วนค่ะ
ลิโนะ: เอ๋...............มีอะไรหรือเปล่านะ
ฮารุนะ : หนูไม่รู้ค่ะพี่ พี่ต้องลองไปดู
ลิโนะ : (แตะบ่าฮารุนะ) อืม.......เดี๋ยวพี่ไปดูเอง ขอบใจเรามากนะ
ลิโนะพูดพลางเดินออกไปเธอมุ่งหน้าสู่ห้องทำงานของโค้ชคุโด เมื่อเธอมาถึงหน้าห้องของโค้ชคุโดเธอก็รู้สึกคิดถึงโซซุยขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ลิโนะ : ฮานะค่ะ !!! ขออนุญาตเข้าไปนะคะ
โค้ชคุโด : (ตอบผ่านประตูออกมา) ลิโนะเหรอ.............เข้ามาสิ ไม่ต้องทางการมากก็ได้ฉันไม่ใช่โซซุยของเธอนะ
ลิโนะ : (สะดุ้ง) อ่ะ........อ้อค่ะ...............ขอโทษค่ะหนูคง............ลืมตัวไปหน่อย...................ว่าแต่โค้ชมีอะไรเหรอคะ
โค้ชคุโด : เอ่อ...........คือ.......................เรื่องนั้น..........................คือที่สถานีตำรวจโทรมาน่ะ
ลิโนะ : (งง) แล้วทางนั้น................เอ่อ........ว่ายังไงบ้างคะ
โค้ชคุโด : คือเขาสงสัยเรื่องเกี่ยวกับการตายของคาเงยาม่าน่ะ
ลิโนะ : โซซุย.....................
โค้ชคุโด :อืม..............................ฉันไม่แน่ใจในรายละเอียดมากเท่าไหร่หรอกนะอันนี้เธอต้องไปคุยกับเขาเอง เพื่อนเธอจะรอเธออยู่ที่หน้าค่ายนะ
ลิโนะ : เดี๋ยวนี้เลยเหรอคะ
โค้ชคุโด : อืมเดียวนี้เลย ตอนนี้ฝนตกอยู่คงซ้อมอะไรไม่ได้หรอก............ไปเถอะ
ลิโนะ : ค่ะโค้ช!!!
ลิโนะรับคำพลางเดินอย่างกังวลออกไปที่ด้านนอกเพื่อพบกับเอริกและแคล.........................เพื่อเดินทางไปยังสถานีตำรวจของเกาะ.....................เมื่อทั้งหมดมาถึงหน้าสถานีแล้วทั้งสามจึงรีบรุดเข้าไปด้านในของสถานี
................ในสถานี.....................................
เอริก: (เปิดประตูเข้าไปในห้อง)ผมพาฮาร์ทมาแล้วครับ!!!
“อืมดีมาก.................”ชายผู้ที่นั่บนเก้าอี้กล่าวสบายๆ
“เชิญนั่งครับคุณ ลิโนะ”ฃายคนนั้นกล่าวเชิญ
ลิโนะ : ขอบคุณค่ะท่าน...............อา สารวัตร
ลิโนะกล่าวชื่อตำแหน่งที่เธอสังเกตได้จากป้ายบนโต๊ะ
สารวัตร : คือ..................ไม่กล่าวอ้อมค้อมล่ะนะ
ลิโนะ : ค่ะ
สารวัตร : คือเราสงสัยเรื่องการตายของคาเงยาม่าว่ามันจะเป็นการจัดฉากฆาตกรรม
ลิโนะ : โซซุย................ถูกฆาตกรรม...............งั้นเหรอ
สารวัตร : ใช่.............ทางเราเลยอยากจะขอความร่วมมือจากคุณ...............พอดีสายสืบเราทำงานกันล้นมือ ไม่ว่างเราเลยเรียกตัวคุณมาที่นี่
ลิโนะ : (ตกใจ) อ่า เข้าใจแล้วค่ะ
หลังจากนั้นลิโนะก็ได้คุยรายละเอียดของเนื้องานกับผู้ที่เธอเรียกว่าสารวัตรอยู่ครู่ใหญ่.................หลังจากนั้นเธอจึงเปิดประตูออกมาเพื่อพบกับเพื่อนทั้งสองที่หน้าห้อง
เอริก : เป็นไงสารวัตรว่าไงบ้าง
ลิโนะ :ก็ไม่ยังไงหรอกเขาให้ฉันแฝงตัวไปสืบเรื่องการตายของโซซุย
แคล : ที่ไหนเหรอ
ลิโนะ : ที่ค่ายของเดอะคิงดอม
เอริก+แคล : เดอะคิงดอมงั้นเหรอ...................
ลิโนะ : อืม มีอะไรเหรอ
เอริก : อ้อ......ป่ะ.........เปล่า ก็ไม่มีอะไรมากนักหรอก แค่เราคิดว่าทีมนี้มันแปลกๆน่ะ
ลิโนะ : แปลยังไง?
เอริก : เออคือ.................ดูมันเป็นระบบเกินไป
ลิโนะ : อืมม.............ฉันก็ว่าอยู่ดูจากผลการแข่งขัน.............รูปแบบการเล่น มันแหม่งๆอยู่ เล่นได้ เป๊ะเกิน!!!
แคล : นั่นสิเราก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ
ลิโนะ : เฮ้อ............เอาล่ะงั้นฉันกลับค่ายก่อนนะถ้สยังไงก็เจอกับตอนออนงานนะ
เอริก+แคล : อืม
เอริก : แน่ใจนะว่าไม่ให้ไปส่งนะ
ลิโนะ : อืม..........ไม่เป็นไรหรอกฉันกลับคนเดียวได้
เอริก : งั้นกลับดีดีนะ
******************หลังจากนั้นเมื่อลินะกลับทาถึงยังบ้านพัก***********************
ลิโนะ : ยูโตะคุง~~~~ขอคุยด้วยหน่อยสิ
หญิงสาวเอ่ยปากเรียกชายหนุ่มในชึดผ้าคลุมที่กำลังค้นอะไรบางอย่างในตู้เย็น
คิจัง : เดี๋ยวก่อนนะฮานะจังพอดีผมยังไม่ว่างน่ะ
ลิโนะ : (หรี่ตาลง ) ไม่เป็นไรหรอก มันก็ไม่สำคัญอะไรมากมาย
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
มาต่อก่อนนะ
- Spoiler:
- คิจัง :งั้นหรอกเหรอ^^
คิจังหันมายิ้มให้ลิโนะก่อนที่จะหันไปหาอะไรบางอย่างในตู้เย็น
ลิโนะ : (ยิ้มให้คิจังก่อนที่จะพูดเสียงแผ่ว) ไม่มีอะไรหรอกทำธุระของนายไปก่อนเถอะ
หญิงสาวพูดก่อนที่จะหันหลังเดินออกไปอย่างเศร้าๆ...............เธอเดินมุ่งหน้ากลับเข้าห้องแต่ระหว่างทาง
“ไงหงอยๆนะวันนี้”น้ำเสียงยียวนกวนประสาทที่เธอคุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง เธอไม่จำเป็นต้องหันไปมองเธอก็รู้ว่าใคร
ลิโนะ : อ้อฟุโดวคุงเองเหรอ................ก็ไม่มีอะไรซักหน่อนนี่
ฟุโดว : น้อยใจคิโดคุงอีกแล้วล่ะสิ.........ทำไมคิโดคุงชอบทำคุณเสียใจจังนะ
ลิโนะ : แล้วมันเกี่ยวกับนายยังไงไม่ทราบ
ฟุโดว : เกี่ยวสิเกี่ยวมากๆด้วย...........ฉันไม่อยากเห็นเธอต้องมานั่งเสียใจเพราะหมอนั่น.............กับผู้ชายอย่างนั้นอีก
ลิโนะ : (ฉุน) ทำไมเหรอ!!!ยูโตะคุงทำไม
ฟุโดว : ก็หมอนั่นชอบทำให้เธอเสียใจอยู่เรื่อย(สะบัดหน้าหนี)ฉันไม่ชอบ
ลิโนะ : นาย.......ไม่ชอบก็เรื่องของนายสิ
หญิงสาวเดินหนีออกไปจากเด็กหนุ่มตรงหน้า
ฟุโดว : ด..........เดี๋ยวก่อนสิ
ฟุโดวพูดอย่างรวดเร็วพร้อมกับคว้าข้อมือของร่างบางเอาไว้
ลิโนะ : (ตกใจ) อ่ะ...........อะไรของนาย
เด็กหนุ่มคว้าข้อมือของลิโนะไว้พลางดันเธอไปจนติดกำแพง
ลิโนะ : (ดิ้น) นี่นาย!!!จะทำอะไร!!! ปล่อยฉันนะ!!!
ฟุโดว : (ยกมือปิดปากลิโนะ)อย่าดิ้นสิ ฉันจะเปิดปากเธอ แต่เธอห้ามร้องนะห้ามดิ้นด้วย ฉันแค่อยากให้เราคุยกันดีดีเท่านั้น
หญิงสาวไม่รู้จะทำอย่างไรเธอได้แต่พยักหน้าเข้าใจแต่ในหัวสมองของเธอกลับคิดหาแผนการเพื่อช่วยตนเองให้รอดพ้นจากสถานการณ์ตรงหน้าอย่างหนัก......จนกระทั่งเด็กหนุ่มค่อยๆปล่อยมือที่ปิดปากของหญิงสาวออก.........หญิงสาวจึงรีบเตะเท้าออกไปที่หว่างขาของชายตรงหน้า..........เด็กชายทรุดตัวลงสีหน้าแสดงความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด
ลิโนะ : (วิ่งหนีออกไปแล้วหันไปมองชายหุนุ่มที่กองลงที่พื้น) ที่หลังอย่ามาทำอย่างนี้กับฉันอีก
ฟุโดว : รังเกียจฉันนักหรือไง..............ใช่สิฉันไม่ได้อ่อนโยน สุภาพ แสนดีเหมือนหมอนั่นหนิ เธอเลยมองข้ามฉัน
ลิโนะ : (ข่มอารมณ์) ฉันไม่ได้รังเกียจนาย..............ฉันแค่เห็นว่านายเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น................แต่ถ้านายยังทำอย่างเมื่อกี้อีกฉันจะไม่แค่รังเกียจนายแต่ฉันยังจะขยะแขยงนายอีกด้วย
ฟุโดว : (ตกใจ) ฉ........ฉัน.......ขอโทษนะ
ลิโนะ : ฉันจะถือว่าเหตุการณ์เมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน
หญิงสาวสะบัดหน้าแล้วเดินออกไป.............เธอเดินตรงไปยังห้องนอนของเธอเอง ระหว่างทางเธอได้เจอกับฮิโระจังเธอจึงยิ้มเพื่อทักทาย...........ฮิโระยิ้มตอบพลางเดินผ่านเธอไป...............
ฮิโระ : เฮ้...ชิกะจัง ว่าไง อุ๊ยใส่สร้อยที่ฟุบุกิคุงให้ด้วย!!!
หญิงสาวมองตาม ฮิโระจังคงไม่ได้สังเกตเห็นตัวเธอด้วยซ้ำ................นี่เธอเป็นตัวอะไรไปแล้ว.......เธอเดินเข้าห้องอย่างหงอยๆเธอปิดประตูห้องเบาๆก่อนที่จะเดินไปนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้องอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
ลิโนะ : นี่ฉันเป็นอะไรไปนี่.............ใครๆก็มองข้าม ทั้งๆที่ฉัน..........ทั้งๆที่ฉันพยายาม..............พยายามที่จะเข้ากับทุกคนให้ได้
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น หญิงสาวจึงเงียบเพื่อเงี่ยหูฟังว่าใครมาเคาะประตูห้องเธอ
“ลิโนะจัง................นี่ฉันเองนะฟุโดวไง.............ขอคุยด้วยหน่อยสิ”เสียงเด็กหนุ่มผมทรงโมฮอวก์ดังเข้ามา
ลิโนะ : (เดินไปเปิดประตู) เดี๋ยวก่อนนะ!!! เดี๋ยวฉันจะออกไปคุยกับนาย
ฟุโดว : ฉัน.........เข้าไปไม่ได้เหรอ............
ลิโนะ : ฉันว่าเราไปคุยกันที่ห้องรับแขกกันดีกว่านะ ห้องฉันมันเอ่อ.............ค่อนข้างร้อนน่ะ
ฟุโดว : อ้อ........เหรอนึกว่าไม่อยากให้ฉันเข้าไปซะอีก
ลิโนะ : (เปิดประตู) ฮ่ะๆ...................ไปกัน
หญิงสาวเปิดประตูออกมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มพลางยิ้มให้แล้วเดินนำหน้าลงไปยังห้องรับแขก.....................ที่ห้องหญิงสาวทิ้งตัวนั่งลงตรงข้าเด็กหนุ่มที่เดินมาด้วย
ลิโนะ : มีอะไรว่ามา
ฟุโดว : คือ........ถ้าไม่มีอะไร.........จะคุยกับเธอไม่ได้เหรอ............................
ลิโนะ : (ยิ้ม)ได้สิก็เราเป็นเพื่อนกันหนิ
ฟุโดว : เพื่อนเหรอ.................
ลิโนะ : อืม...............เพื่อน!!!
ฟุโดว : วันนี้ฉันเห็นเธอดูหงอยๆไปก็เลยอยากมาถามว่าเป็นอะไรไหม
ลิโนะ : อ่ะ...................เอ่อ.........................มะ..................ไม่มีอะไรหรอก
ฟุโดว : ต้องเป็นสิ เธอไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน
ลิโนะ : (จ้องหน้าฟุโดว) นาย............สังเกตเห็นด้วยเหรอ!!!
ฟุโดว : อืม.......ทำไมเหรอ
ลิโนะ : (ยิ้ม) ฮ่ะๆ นายเป็นคนแรกของวันเลยนะเนี๊ยะที่พูดอย่างนี้กับฉัน
ฟุโดว : นี่คิโดคุงเขาไม่ได้ถามเธอเลยเหรอ
ลิโนะ : (ส่ายหน้า) เขาดูยุ่งๆน่ะฉันก็เลยไม่อยากไปกวน
ฟุโดว : นี่ขอถามอะไรหน่อยสิ
ลิโนะ : ว่ามาสิ
ฟุโดว : ทำไมฉันถึงได้แคร์เขาได้มากขนาดนั้น
ลิโนะ : ฉันไม่รู้หรอก(ส่ายหน้า)..........ฉันไม่รู้
ฟุโดว : ไม่รู้หรือว่าไม่บอก
ลิโนะ : ก็นายอย่าถามสิ่งที่ฉันตอบไม่ได้สิ
ฟุโดวจ้องหน้าลิโนะพลางเคลื่อนหน้าเข้าใกล้เรื่อยๆ.........หญิงสาวตกใจอย่างมากเธอใช้มือดันหน้าอกของเด็กหนุ่มจนเขาผงะออกไปด้านหลัง
ลิโนะ : อย่าทำอย่างนิ้อีกนะ
ฟุโดว : แต่.............
ลิโนะ : เพื่อกันเขาไม่ทำกันอย่างนี้หรอก
ฟุโดว : ตอนนี้ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ
ลิโนะ : ขอโทษด้วยจริงๆฉันนายได้แค่นั้น (เดินออกไป)
ฟุโดว : (คว้าข้อมือลิโนะไว้) อยากรู้เหตุผลไหม...................
ลิโนะ : เหตุผล...............เหตุผลอะไร
ฟุโดว : 1.ฉันรู้สึกอิจฉาทุกทีที่เธออยู่กับคิโด 2.คือไม่ชอบให้เธออยู่ห่าง 3. อยากเห็นหน้าเธอตลอดเวลา เพื่อนกันเขาเป็นแบบนี้เหรอ
ลิโนะ : ไม่รู้สิ.....................ฉันไม่รู้
หญิงสาวสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของฟุโดวพลางวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนของตนเอง..........................แต่สิ่งที่ลิโนะไม่รู้คือทุกๆการกระทำของเธอนั้นอยู่ในสายตาของชายหนุ่มในชุดผ้าคลุมสีแดง
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
รู้สึกกระทู้เงียบเหงาแฮะม๊ะมีใครมาต่อเลย ว่าแล้วก็แปะ
- Spoiler:
- ลิโนะวิ่งออกไปจากที่ตรงนั้นด้วยอาการที่สับสนเธอวิ่งไปที่ชายหาดพลางเหม่อมองออกไปที่ผืนน้ำ
‘ทำไมนะ................ทำไม.............ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้เลย..............................................ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้..........................ขอโทษนะฟุโดวฉันไม่ได้คิดกับนายแบบนั้น ฉันให้นายได้แค่...............คำว่าเพื่อนเท่านั้น.............เท่านั้นจริงๆฉันให้นายได้แค่นั้น’ เธอทิ้งกายนั่งลงบนพื้นทรายที่เปียกชื้นเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อเช้านี้
ลิโนะ : (ตะโกน) ทำไมล่ะผู้หญิง อย่างฉันมันดีกว่าคนอื่นตรงไหน................เป็นตัวยุ่งวุ่นวายก็เท่านั้น....................ชอบกวนใจ...............เป็นแค่วัชพืชที่คนอื่นเขามองข้าม
“แต่คนคนนั้นคงไม่ใช่ผม”
เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังของลิโนะเธอจึงรีบหันกลับไปมอง
ลิโนะ : ยุโตะคุง!! ...............นายมาทำอะไรที่นี่
คิจัง : ก็มาเดินเล่น..............เหมือนคุณไง
หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาที่รื่นไปด้วยน้ำตา.......................ก่อนที่จะเบี่ยงตัวเพื่อเดินเข้าบ้านพัก...........................ทันใดนั้นชายหนุ่มในชุดผ้าคลุมสีแดงก็มายืนขวางทางเธอเพื่อไม่ให้หนีเข้าบ้าน
ลิโนะ : น......นายจะมาขวางฉันทำไม
คิจัง : ก็ผมอยากคุยกับคุณนี่
ลิโนะ : เรื่องอะไรล่ะ
คิจัง : ก็เรื่องอะไรดีล่ะ.....................
ลิโนะ : ก็นายเป็นคนอยากคุยเองนี่แล้วมาถามฉันทำไม
คิจัง : ผมก็แค่อยากคุยกับคุณ...........เท่านั้น
ลิโนะ : อยากคุย...........กับฉันนี่นะ
คิจัง : (พยักหน้า) ครับ.............กับคุณ.......................
ลิโนะ : กับฉัน............เรื่องอะไร
คิจัง : นั่นสินะเรื่องอะไร.......................เอาเป็นว่าคุณอยากจะพูดอะไรก็พูดมาเลยผมจะรับฟัง
ลิโนะ : ไม่ว่า.............จะเป็นเรื่องอะไร..............งั้นเหรอ
คิจัง : ค..........ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร
ลิโนะ : (โผเข้ากอดแล้วร้องไห้ออกมา) ยูโตะคุง~~~~
คิจัง : (ตกใจ) อ๊ะ..........อะไรครับคุณเป็นอะไรไป
ลิโนะ : (ส่ายหน้า)เปล่า.............เปล่า...............ไม่มีอะไร..............ไม่มีอะไรจริงๆ
คิจัง : มีสิต้องมี...............ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่เป็นอย่างนี้...............เรื่องฟุโดวคุงใช่ไหม
ลิโนะ : นี่นาย...............รู้ได้ยังไง!!!
คิจัง : รู้สิ ผมรู้...........................ผมคอยดูคุณอยู่ตลอดนั่นแหละ
ลิโนะ : ถ้านายรู้แล้วทำไม...........................
หญิงสาวพูดเสียงแผ่วพลางลากหางเสียง......................
คิจัง : ผมแค่อยากจะรู้ว่าคุณจะทำยังไง
ลิโนะ : แล้ว.......................ที่ฉันทำลงไปมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า
คิจัง : มันก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นคุณใช้อะไรคิดใช้สมองหรือว่าใช้หัวใจ
ลิโนะ : ใช้สมองหรือหัวใจ..........งั้นเหรอ
คิจัง : ครับ..............ที่คุณทำลงไปน่ะคุณทำตามเสียงของหัวใจคุณเองหรือทำไปเพราะความเหมาะสม
ลิโนะ : ฉัน...............ไม่รู้สิฉันทำไปเพราะความเคยชิน.........................เคยชินที่มีนายอยู่ใกล้ๆ..................ไม่อยากให้เป็นคนอื่น
คิจัง : (กอดลิโนะแน่นขึ้น) ผมก็ดีใจครับที่คุณคิดแบบนั้น................อย่างนี้ดีกว่าเยอะเลยใช่ไหม.........................ไม่ต้องทำในสิ่งที่ควรจะเป็น................แต่ทำในสิ่งที่เคยชิน
ลิโนะ : (พยักหน้าถี่ๆ)สิ่งเดียวที่ฉันเคยชินที่สุดคือการมีนาย..............................ไม่ว่าใคร................................ก็แทนที่นายไม่ได้ทั้งนั้น
คิจัง :ครับ ขอบคุณมากนะครับ...................................
ลิโนะ : มาขอบคุณฉันทำไม...........ฉันเสียอีกที่ต้องขอบคุณนาย.....................ก็นายอุตสาตห็เห็นค่าของฉันนี่
คิจัง : อ่ะ อา..........................................ต้องเห็นสิครับผมต้องเห็นยู่แล้ว
ชายหนุ่มกล่าวพลางลูบหัวหญิงสาวอย่างแผ่วเบา
ลิโนะ : ยูโตะคุง......อย่าพูดอย่างนั้น.................อย่าพูดเพื่อเอาใจฉัน
คิจัง : ผมไม่ได้พูดเพื่อที่จะเอใจหรือตามใจคุณหรอกนะครับ...................ผมรู้ว่าผู้หญิงอย่างคุณน่ะไม่ได้มีเอาไว้เพิ่อเอาใจหรือตามใจ แต่มีไว้เพื่อเข้าใจ
ลิโนะ : ขอบคุณนะยูโตะคุง...........ขอบคุณที่เข้าใจกัน
คิจัง : ไม่เป็นไรครับ...........ไม่เป็นไรจริงๆ สำหรับคุณ............ได้เสมอ
********************KIDOU ‘S PART****************************************************
20 นาทีก่อนหน้านี้
คิจังได้แอบฟังบทสนทนาระหว่างลิโนและเพื่อนร่วมทีมหนุ่มของเขาอยู่นอกห้วง จนกระทั้งทั้งสองเริ่มมีการขึ้นเสียงใส่กัน...............ชายหนุ่มในชุดผ้าคลุมกำหมัดแน่นเขาแทบจะพุ่งออกไปพาหญิงสาวที่กำลังมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมทีมของเขาอยู่ออกมาด้านนอก
ฟุโดว : วันนี้ฉันเห็นเธอดูหงอยๆไปก็เลยอยากมาถามว่าเป็นอะไรไหม
ลิโนะ : อ่ะ...................เอ่อ.........................มะ..................ไม่มีอะไรหรอก
ฟุโดว : ต้องเป็นสิ เธอไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน
ลิโนะ : (จ้องหน้าฟุโดว) นาย............สังเกตเห็นด้วยเหรอ!!!
ฟุโดว : อืม.......ทำไมเหรอ
ลิโนะ : (ยิ้ม) ฮ่ะๆ นายเป็นคนแรกของวันเลยนะเนี๊ยะที่พูดอย่างนี้กับฉัน
ฟุโดว : นี่คิโดคุงเขาไม่ได้ถามเธอเลยเหรอ
ลิโนะ : (ส่ายหน้า) เขาดูยุ่งๆน่ะฉันก็เลยไม่อยากไปกวน
ฟุโดว : นี่ขอถามอะไรหน่อยสิ
ลิโนะ : ว่ามาสิ
ฟุโดว : ทำไมฉันถึงได้แคร์เขาได้มากขนาดนั้น
ลิโนะ : ฉันไม่รู้หรอก(ส่ายหน้า)..........ฉันไม่รู้
ฟุโดว : ไม่รู้หรือว่าไม่บอก
ลิโนะ : ก็นายอย่าถามสิ่งที่ฉันตอบไม่ได้สิ
คิจัง : (ทำหน้าสลดแล้วพูดเสียงแผ่วกับตัวเอง) ขอโทษนะฮานะจัง.........................ขอโทษที่ผมไม่ได้ใสคุณ...............ทั้งๆที่คุณ...............ทั้งๆที่.......................
หลังจากนั้นชายหนุ่มเจ้าของผมทรงเดธร็อกที่รวบเป็นหางม้าขึ้นสูงก็ต้องตกใจอีกครั้งกับภาพที่เห็น........................ภาพนั้นคือฟุโดวจ้องหน้าลิโนะพลางเคลื่อนหน้าเข้าใกล้เรื่อยๆ.........หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีเทาแสดงท่าทีตกใจอย่างมากเธอใช้มือดันหน้าอกของฟุโดวจนเขาผงะออกไปด้านหลัง................ทำให้ชายหนุ่มที่แอบซ่อนกายอยู่หลังเสาลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
คิจัง : (พูดกับตัวเอาเบาๆ)เล่นเอาใจหายใจคว่ำเลยนะฮะนะจัง..............แต่ยังไงก็ขอบคุณนะที่เลือกผมแทนที่จะเป็นเจ้าหมอนั่น
ลิโนะ : อย่าทำอย่างนิ้อีกนะ
ฟุโดว : แต่.............
ลิโนะ : เพื่อกันเขาไม่ทำกันอย่างนี้หรอก
ฟุโดว : ตอนนี้ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ
ลิโนะ : ขอโทษด้วยจริงๆฉันนายได้แค่นั้น (เดินออกไป)
ฟุโดว : (คว้าข้อมือลิโนะไว้) อยากรู้เหตุผลไหม...................
ลิโนะ : เหตุผล...............เหตุผลอะไร
ฟุโดว : 1.ฉันรู้สึกอิจฉาทุกทีที่เธออยู่กับคิโด 2.คือไม่ชอบให้เธออยู่ห่าง 3. อยากเห็นหน้าเธอตลอดเวลา เพื่อนกันเขาเป็นแบบนี้เหรอ
ลิโนะ : ไม่รู้สิ.....................ฉันไม่รู้
คิจัง : (ตกใจ)นี่!!!!หมอนั่น!!!เห็นท่าทีอย่างนั้นไม่นึกว่า...................
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
กลับมาแล้วเจ้าข้าาาาาาาาาา Sorry จริงๆ ที่หายไปนานโดยมิได้บอกกล่าวซักนิสเลย (ใครเขามันจะไปอยากรู้กับแกล่ะ)
มีเหตุผลเดียวคือ สอบกลางภาค เลยโดนงดคอมสองสัปดาห์รวด (คลั่งมาก เฮอะๆ)
กลับมาแต่งอีกทีดันจำไม่ได้ว่าทำไปถึงไหน อะไร ยังไงแล้ว เพราะเอาสมองส่วนความจำไปจำแต่เรื่องที่จะสอบหมดเลย T T (พวกสังคม ประวัติศาสตร์ ไรงี้อ่า ครูให้เรียนเหมือนอยากส่งให้ไปอยู่กรมอุตุฯ เลย)
ต่อกัลลลล~~~
เหมือนสมองถูกรีเซ็ทใหม่เลย เหอๆ (เพราะงี้ถึงแต่งให้ตัวเองเป็ยแบบนี้ใช่มั้ย)
ช่วงนี้จะพยายามจัดการสมองตัวเองและต่อให้สม่ำเสมอนะจ๊ะ ^^
มีเหตุผลเดียวคือ สอบกลางภาค เลยโดนงดคอมสองสัปดาห์รวด (คลั่งมาก เฮอะๆ)
กลับมาแต่งอีกทีดันจำไม่ได้ว่าทำไปถึงไหน อะไร ยังไงแล้ว เพราะเอาสมองส่วนความจำไปจำแต่เรื่องที่จะสอบหมดเลย T T (พวกสังคม ประวัติศาสตร์ ไรงี้อ่า ครูให้เรียนเหมือนอยากส่งให้ไปอยู่กรมอุตุฯ เลย)
ต่อกัลลลล~~~
- Spoiler:
- คิดอะไรได้ไม่นานเท่าไหร่ฉันก็รู้สึกเหมือนมีใครมาอยู่ข้างหลัง แต่ยังไม่ทันจะหันไปก็เหมือนโดนอะไรฟาดเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรงจนสลบไปเลย
--------------------------------------------------------------
ติ๊ด...ติ๊ด....
เสียงอะไรดังมาจากความมืดน่ะ
กลิ่นนี่อับคล้ายกับห้องใต้ดินเลย
เสียงน้ำไหลเอื่อยๆ เหมือนไหลลงจากท่อน้ำทิ้ง
เปลือกตาฉันเปิดขึ้นได้นิดเดียวก็ต้องหรี่หลบไฟนีออนที่สว่างจ้าอยู่บนหัว
“โอ้ย!”
ความรู้สึกปวดที่ท้ายทอยมันจี๊ดซะจนทำให้ฉันร้องออกไปอย่างดัง
“ฟื้นแล้วงั้นเหรอ”
เสียงเหมือนชายห้าวๆ พูดกับฉันจากมุมด้านหน้า แต่ไอ้ไฟนีออนบ้านี่ก็ยังส่องตาฉันทำให้ฉันลืมตาขึ้นไม่ได้
แจ๊ส : “ได้ยินเสียงชัดขนาดนี้คงยังมั้ง”
“ยังเถียงเก่งไม่เปลี่ยนเลยนะ ^^ ”
แจ๊ส : “แกเป็นใคร...” (พยายามดิ้นมือให้หลุด) “....จับฉันมาที่นี่ทำไม”
“อย่าเพิ่งรู้เลยดีกว่า ^^ แต่ตอนนี้หน้าที่ฉันหมดเท่านี้แหละ”
แจ๊ส : “เฮ้ย! เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป!”
ปัง!!!
โอเค...ถ้าแกไม่อยากให้ฉันพูดอะไรมาก ฉันไม่พูดก็ได้
ตอนนี้ฉันกำลังพยายามดูสภาพตัวเอง แต่มันยากมากกับการที่โดนไฟส่องที่หัวอยู่ตลอดเวลาแถมคอก็ดันเคล็ดจนขยับไม่ได้อีก เห็นหลอดไฟตะเกียบติดกันตั้งเกือบ 7-8 หลอดมั้งนั้น รู้แค่ว่าตอนนี้ถูกมัดกับเก้าอี้ทั้งแขนขา และดูเหมือนว่าเก้าอี้นี้ใช้มาหลายชั่วอายุคนเหลือเกิน เพราะมีแต่ตะใคร่น้ำเกาะเต็มไปหมด
‘นี่เราจะทำอะไรได้บ้างล่ะเนี่ย....ถ้าแขนขาขยับไม่ได้ มันก็เหมือนกับว่า...ทักษะที่เราเรียนมามันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป แต่ถ้า...แค่ออกไปจากการพัฒนาการนี่ไม่ได้...มันก็เหมือนกับตายทั้งเป็น....ใช่ไหม? ’
ความคิดพวกนี้และอย่างอื่นวนไปมาในสมองรอบแล้วรอบเล่า เวลาผ่านไปไวแค่ไหนก็ไม่รู้ ตาที่เปิดไม่ได้มันยิ่งทำให้ฉันฟุ้งซ่านมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเท่าตัว
โครม!
ตื่นก็เพราะเสียงนี้แหละ ใครอีกล่ะที่เปิดประตูซะจนกลอนประตูชนกับฝาด้านข้าง แต่เสียงมันออกจะคล้ายๆ กับเอาเหล็กตีไม้อ่อนๆ เลยแฮะ
“กินซะ!”
เสียงไม่ใช่ผู้ชายคนเมื่อกี้นี่นา พวกเถื่อนกลุ่มนี้มันมีกี่คนกันเนี่ย
แจ๊ส : “ฉันขยับตัวไม่ได้ จะกินได้ไงล่ะ”
“ไม่ต้องห่วง นี่เป็นอาหารปั่น แค่ใส่หลอดแล้วดูดก็จบ”
เสียงมันพูดเหมือนเย้ยหยันฉันนิดๆ อะไรนะ! อาหารปั่นรึ ไม่! นี่ฉันอนาถจนถึงขั้นต้องกินอาหารปั่นเลยเรอะ
แจ๊ส : “ยิ่งอาหารน้ำๆ ฉันยิ่งไม่เชื่อใจพวกคนที่ทำมาให้ว่าแอบใส่ยาพิษลงไปรึเปล่า”
“ไม่มีแน่นอน เพราะเราต้องการตัวเธออยู่”
แจ๊ส : “พวกแกจะเอาตัวฉันไปทำไม”
“รู้ตอนนี้ก็ยังเร็วไปแสนปี พอถึงเวลาแล้วแกก็จะรู้เอง เอ้า รีบๆ กินซะ ฉันขยะแขยงที่นี่เหลือเกิน”
โห เปลี่ยนสรรพนามเรียกชื่อกันง่ายเนาะ
แจ๊ส : “ไม่...จนกว่าแกจะบอกฉัน ว่าต้องการฉันไปทำไม”
“ฉันบอกไปแล้วไง ว่าถ้าถึงเวลา แกจะรู้เอง อย่าทำให้ฉันรำคาญมากได้ไหม”
แจ๊ส : (พยายามส่ายหัวนิดหน่อย) “ไม่...แค่กๆ...”
“เงียบ! ก่อนที่ฉันจะได้ลงไม้ลงมือ”
แจ๊ส : (พูดท้า) “เอาซิ เมื่อกี้บอกว่าต้องการตัวฉันไปไม่ใช่เหรอ”
“...”
ฮะ ได้ผล ฉันเห็นเงาวูบๆ ลางๆ ผ่านหน้าไป สงสัยว่ามันคงลดมือลงแล้ว
“จะกินได้รึยังเนี่ย”
แจ๊ส : “เดี๋ยว ก่อนกิน ขอเทปหนาๆ สีดำปิดตาฉันก่อนได้ไหม”
“…ชิ! เรื่องมากจริง”
ไม่ต้องบ่นเลย เมื่อพวกแกจับฉันมาก็ต้องรับผิดชอบฉันซักนิดสิ ถ้าเซลล์ตาฉันตายไปครึ่งนึงจะว่ายังไง อย่างน้อยถ้าอยู่ในนี้แล้วลืมตาไม่ได้ก็ไม่ต้องเห็นอะไรเลยซะยังดีกว่า
หลังจากที่โดนบังคับให้กินอาหารปั่นสุดอนาถา ฉันก็ดันโดนล่ามโซ่ไว้ซะอย่างนั้น ฉันก็มนุษย์คนหนึ่งนะ ถึงจะใช้พลังวิเศษได้ แต่ถ้าใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงแบบนี้ พลังชีวิตฉันต้องลดลงเกือบครึ่งเลยนะ
คิดว่าผ่านไปได้ชั่วโมงกว่าๆ แล้วนะเนี่ย ฉันชักเริ่มรู้สึกตัวเบาแปลกๆ แล้ว เลือดคงหยุดเดินไปบางที่แล้วมั้งเนี่ย แต่ในนี้มีอากาศให้หายใจก็สุดๆ ขนาดไหนแล้ว ถึงออกซิเจนจะน้อยกว่าก๊าซอย่างอื่นก็เถอะ
----------------------------------------------------------------
ซ่า!
“ไปเอาน้ำมาอีก!”
“ครับ!”
“เดี๋ยวก่อนพี่ฮะ มันฟื้นแล้ว”
;;=…=;;
โอย ใครก็ได้ช่วยเอาพวงหลอดไฟนี่ไปทางอื่นที!
“หึ...หมดฤทธิ์แล้วล่ะสิ”
ชายคนหนึ่งตรงหน้าฉันพูดพร้อมกับจับคอเสื้อฉันแล้วดึงขึ้น ออย...เบาๆ ก็ได้ กระดูกเคล็ดดังกรึ้บๆๆ เลยนะเมื่อกี้
ภายในไม่ถึงหนึ่งนาทีฉันก็โดนผลักลงเก้าอี้ ท้ายทองกระทบกับสันนิดหน่อย ดีที่แค่ปวดๆ และยังได้ยินเสียงชายคนตะกี้เหมือนจะรังเกียดฉันเวอร์ด้วย เห็นทำเสียงชิชะๆ อยู่ตลอดเลย ถ้าจะแข่งกันหยิ่งน่ะ ช่วยเลือกสถานที่ๆ มันปลอดโปร่งมากกว่านี้ไหม
แจ๊ส : “นี่พวกแกต้องการอะไรจากฉันกันแน่เนี่ย”
...มีแต่เสียงหัวเราะตอบกลับ...
“กลัวตายขนาดนั้นเลยเหรอ”
แจ๊ส : “เปล่า ฉันแค่อยากรู้...”
“เฮอะ อยากรู้จริงว่าปากของเธอมันทำด้วยอะไรถึงได้แข็งขนาดนี้ ใช่ไหมพวกเรา”
เสียงยินดีตอบรับกันยกใหญ่เลย นี่แกคงจะเรตติ้งดีมากๆ ใช่ไหม
แจ๊ส : “ปากคนเราก็คล้ายๆ กันน่ะแหละ แตกต่างกันแค่ความคิดกับนิสัยเท่านั้น มันถึงไม่เหมือนกัน”
“ไม่ต้องมาทำเป็นสอนฉัน แกรู้ไหมว่าถ้าแกทำให้ฉันโมโหเมื่อไหร่ แกจะเป็นยังไง... กับคนแก่หรือเด็กฉันก็เคยเล่นงานมาแล้ว”
แจ๊ส : (โพล่งออกไปโดยไม่รู้ตัว) “ไอ้คนเถื่อน!”
พลั่ว!
หน้าและคอฉันหันไปตามแรงต่อยหลังไม่กี่เสี้ยววินาทีที่โพล่งออกไป
“บอกไว้ก่อน....ว่าฉันมันคนลงมือไม่เลือกหน้า”
แจ๊ส : (หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ดังขึ้น) “...เหมือนกันเลยนะ...ฉันก็พวกลงมือไม่เลือกหน้าเหมือนกัน...” (ยิ้มเย้ย)
พลั่ว! พลั่ว!
โดนทีได้ทั้งกำไรและดอกเลยแฮะ
แจ๊ส : “แค่กๆ” (ไอเบาๆ และคายเลือดที่อยู่ในปากทิ้ง)
“สภาพแกในตอนนี้...ดูไม่ได้เลยจริงๆ นะ ฮ่าๆๆ........... ทั้งตัวซีด ปากแตก คอหัก แล้วก็ยังโดนล่ามโซ่ด้วย 555555555”
...ขอบใจที่ประสานเสียงหัวเราะให้ฟัง....
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะพวกเรา พรุ่งนี้เรายังจัดหนักกับมันได้ วันนี้คงต้องขอให้มันได้พักซักหน่อย จริงไหม”
เสียงชายอีกคนพูดพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ๆ ฉัน เสียงดูอ่อนๆ ไม่เหมือนกับสองคนที่แล้วเลย
สิ้นสุดประโยค พวกคนเถื่อนทั้งหลายก็พากันเดินออกไปจากห้องขังนี่ ฉันรู้ ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพที่แย่ขนาดไหน และยัง....ทำอะไรได้ไม่มากด้วย บลูก็ไม่อยู่ โทรศัพท์ก็ถูกพวกนั้นยึดไป ฉันคงไม่เหลือที่พึ่งอะไรอีกแล้ว...นอกจาก....
เหมือนสมองถูกรีเซ็ทใหม่เลย เหอๆ (เพราะงี้ถึงแต่งให้ตัวเองเป็ยแบบนี้ใช่มั้ย)
ช่วงนี้จะพยายามจัดการสมองตัวเองและต่อให้สม่ำเสมอนะจ๊ะ ^^
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
( - -)
.
.
.
(- - )
คนหายซะงั้น
ต่อท่ามกลางคืนข้ามวัน (...แป้กมาก...)
กับบทเพลง...
.
.
.
(- - )
คนหายซะงั้น
ต่อท่ามกลางคืนข้ามวัน (...แป้กมาก...)
- Spoiler:
- ซ่า!!!
แจ๊ส : “แค่กๆ ทุ้ย!!”
โห น้ำจากท่อน้ำทิ้งเข้าปากฉันเต็มๆ เลยอ่ะ สงสัยท่อข้างบนหัวนี่คงเพิ่งแตก รู้สึกแสบๆ ตรงแขนขวานิดๆ ด้วย โดนเศษท่อบาดแหง แต่ก็เพิ่งมารู้สึกโล่งๆ แขนนี่สิ หรือว่า พวกนั้นมันดึงผ้าพันแผลที่พันไว้ออกไปด้วย เฮ่อ...จะเอาอะไรกับฉันมากน่ะ หวังว่าตัวเองคงไม่โดนมันทำอะไรแผลงๆ นะ
แต่ เดี๋ยวก่อนสิ...เมื่อตะกี้ฉันคิดอะไรไปเหรอ โธ่ เพราะท่อน้ำแตกแท้ๆ ถึงลืม
ช่างมันไปก่อนละกัน ตอนนี้คงต้องพักเอาแรงก่อน แล้วค่อยกลับไปคิดใหม่
---หารู้ไม่ว่า...ตัวเธอในตอนนี้อยู่ในสภาพภายนอกที่แย่ที่สุดเท่าที่เคย และเหตุการณ์ตอนนี้ยิ่งทำให้เธอรู้จักตัวเองน้อยลง.... ---
-------------------------------------------------------------------
How can you see into my eyes like open doors?
เธอมองลึกลงไปในดวงตาฉันและหยั่งรู้มันได้เหมือนเปิดประตูได้อย่างไรเหรอ
Leading you down into my core
ฉันจะพาเธอก้าวลงไปในแก่นกลางของฉัน
Where I’ve become so numb without a soul
ที่ๆ ซึ่งฉันกลายเป็นคนเย็นชา ปราศจากวิญญาณ
My spirit sleeping somewhere cold
จิตใจฉันหลับใหลอยู่ที่ไหนสักที่ๆ หนาวสั่น
Until you find it there and lead it back home
จนเธอได้พบมันที่นั่นและนำมันกลับมา
Wake me up inside
ปลุกฉันให้ตื่นจากข้างใน
Wake me up inside
ปลุกฉันจากในนี้
call my name and save me from the dark
เรียกชื่อฉันและช่วยฉันจากความมืดมนนี่
bid my blood to run
สั่งให้เลือดฉันสูบฉีด
before I come undone
ก่อนที่ฉันจะถูกลบล้าง
save me from the nothing I’ve become
ช่วยฉันจากสิ่งที่ว่างเปล่าที่ฉันเป็น
Now that I know what I’m without
ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันขาดหายอะไรไป
You can't just leave me
เธอไม่สามารถตัดขาดฉันไปได้หรอก
Breathe into me and make me real
หายใจให้ฉัน และให้ฉันได้กลับไปมีตัวตน
Bring me to life
ทำให้ฉันมีชีวิตขึ้น
Wake me up inside
ปลุกฉันจากข้างใน
Wake me up inside
ปลุกฉันให้ตื่น
call my name and save me from the dark
เรียกชื่อฉันและเอาฉันออกไปจากความมืดมัว
bid my blood to run
สั่งให้เลือดฉันไหลตามปกติ
before I come undone
ก่อนที่ฉันจะถูกลบไป
save me from the nothing I’ve become
ช่วยฉันจากสิ่งที่ว่างเปล่าที่ฉันเป็นหน่อย
Bring me to life
ให้ฉันได้มีชีวิต
Bring me to life
นำพาชีวิตมาให้ฉัน
frozen inside without your touch without your love darling only you are the life among the dead
เยือกแข็งอยู่ภายใน ไม่มีทั้งการสัมผัสและความรักจากใครเลย ที่รัก มีแต่เธอเท่านั้นที่มีชีวิต อยู่ท่ามกลางความตายทั้งสิ้น
Wake me up inside
ปลุกฉันให้ตื่น
Wake me up inside
ปลุกฉันจากข้างใน
call my name and save me from the dark
เรียกชื่อฉันและช่วยฉันให้ออกไปจากความมืดมิด
bid my blood to run
สั่งให้เลือดฉันไหลซ่าน
before I come undone
ก่อนที่ฉันจะถูกลบทิ้ง
save me from the nothing I’ve become
ช่วยให้ฉันออกจากสิ่งที่ไม่มีความหมายที่ฉันเป็น
Bring me to life
พาฉันกลับไปมีชีวิต
Bring me to life
ให้ฉันได้กลับไปมีตัวตน
……………………….
:==.==:
เหมือนได้ยินเสียงอะไรแผ่วๆ เลยแฮะ โอย ปวดหัวตุ้บๆ ด้วย
“กว่าจะตื่นได้นะ”
เสียงพูดนี่ทำให้ฉันสะดุ้งโหยง เสียงคุ้นๆ นะ เป็นคนที่ฉันพูดด้วยคนแรกรึเปล่า
แจ๊ส : “อยากให้ตื่นทำไมไม่เรียกล่ะ”
“ก็ไม่อยากรบกวนนี่”
ที่นี่มีคนดีอย่างนายด้วยเหรอ - -
แจ๊ส : “ไม่เห็นจะดูรบกวนเลย ฉันอยู่ในฐานะ เอ่อ...เหมือนนักโทษ คนคุมก็มีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้”
“หึๆ ^^ คนคุมมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ”
แจ๊ส : ‘คำพูดตะกี้จะพาความซวยมาให้ฉันรึเปล่าเนี่ย’ “ก็ถ้าตามปกติ...”
“ฮะๆ ไม่ต้องพูดหรอก ถือว่าฉันเข้าใจแล้วกัน”
เอ่อ...
“ฉันแค่จะเอาน้ำมาให้ตามเวรแค่นั้น แต่สภาพเธอเปียกแบบนี้คงไม่จำเป็นแล้วมั้ง”
แจ๊ส : “ไม่ต้องเอากลับหรอก”
“หืม...แล้วเธอจะกินยังไงล่ะ”
แจ๊ส : (คิดอย่างรวดเร็ว) “ราดหน้าฉันเลย”
“แน่นะ”
แจ๊ส : “อื้อ”
แล้วนายเสียงคุ้นไม่รู้ชื่อนี่ก็ราดน้ำใส่หน้าฉันอย่างที่ขอไป
“ไปนะ”
ปัง!!!
สั้นๆ ง่ายๆ ตามด้วยเสียงปิดประตูซะดังเลย ปิดเบาๆ ก็ได้นะ ฉันไม่ได้หูหนวกขนาดที่ไม่รู้ว่ามีคนเข้า-ออกประตู
ฟูว์ ค่อยหายใจสะดวกหน่อย ที่เพราะให้ราดน้ำใส่ก็คืออยากให้ช่วยล้างกลิ่นน้ำเน่านี่น่ะแหละ
กับบทเพลง...
- Spoiler:
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
มาต่ออีกสักนี้ดดดด
เฮ่อ จะได้ไปกรุงเทพซะงั้นอ่า ไม่อยากไปเล้ย อยากอยู่บ้านมากกว่า
แต่ทำไงได้ ได้ตั๋วมาแล้วแถมไม่ได้ไปนาน คงไม่ได้ต่ออีกนานเลยนะเนี่ย
- Spoiler:
- ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก...
ตอนนี้ห้องนี้เงียบจนฉันได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นชัดมาก น่าแปลกอยู่นะ เพราะปกตอจะได้ยินเสียงคนคุยกันค่อนข้างดัง เอ๊ะ หรือนี่เป็นตอนกลางคืนพวกนั้นเลยหลับกันไปหมด
อาจจะใช่ก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะมียามเฝ้าอยู่ด้วยหรือเปล่า
เรื่องนั้นช่างเถอะ ขอลองหาทางออกไปก่อนดีกว่า
ฉันค่อยๆ ขยับตัวเพื่อประเมินสภาพตัวเองว่าโดนมัดแบบไหน จนรู้ว่าโดนมัดแนบติดกับเก้าอี้เลย โห ถ้ามัดกันแบบนี้ไม่เอาดินมาพอกไว้ด้วยเลยล่ะ ยังสบายกว่าเยอะเลย
เฮ้ย นี้ไม่ใช่เวลามาไร้สาระนะ รู้สึกตอนนี้ฉันจะไม่มีอาวุธติดตัวเลย ห้องนี่ก็เย็นเฉียบ ถ้าใช้ความร้อนเผาเชือกคงไม่ได้ผลแน่ เอาไงดีล่ะ
กึก กึก กึกๆ ปึง!
ผีผลัก ช่วยด้วย!
อ่าว ไม่ใช่นี่หน่า ตอนแรกๆ ก็โยกเก้าอี้อยู่นะ แต่เหมือนมันวูบๆ เก้าอี้เลยล้มลงซะงั้น
ช่างมันก่อนละกัน ตอนนี้คงต้องคลานไป แต่จะไปยังไงล่ะ ลืมไปว่าตาฉันถูกเทปดำปิดอยู่
เพื่อเอาเทปดำออก ฉันเลยต้องถูหน้ากับพื้น พื้นนี่ก็สุดๆ เหมือนกัน ตะไคร่น้ำทั้งนั้น
สุดท้ายก็เอาเทปออกได้ข้างเดียว ก็ยังดีแหละ เหลือแค่เก้าอี้ ถ้าไม่เอาออกก็คงยืนไม่ไหว หันซ้ายหัวขวาก็เจอแต่ประตูบานเดียวกับกำแพง... ใช่แล้ว กำแพงไง
ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นยืนตามกำลังที่มี แล้วก็ทุ่มหลังใส่กำแพงไม่ยั้ง ถึงจะเสียงดังไปหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
กร็อบ... ป๊อก!
ฉันยังฟิตใช้ได้อยู่แฮะ เก้าอี้นี่เริ่มพังแล้ว ดีที่มันเป็นเก้าอี้ไม้นะเนี่ย ถ้าเป็นเหล็กละก็ ทุบให้ตายคงไม่หลุด
สุดท้ายเก้าอี้นี่ก็พังซะที เฮ่อ เหนื่อยใช้ได้
ฉันเอาเทปที่เหลือออกจากหน้าและกำลังจะก้าวท้าวไปหาประตู
หวืด~~
ยังไม่ทันก้าวก็ดันหน้ามืดนิดๆ ซะงั้น
‘ไม่ได้นะ ห้ามหยุดเด็จขาด’
แอ๊ด~~~
ประตูค่อบๆ เปิดตามแรงผลัก ฉันเริ่มเดินโงนเงนขึ้นทุกทีแล้วนะ ถึงทางจะดูสลัวๆ มันก็ยังไม่น่าเชื่อใจอยู่ดี
ฉันเดินเลี้ยวซ้ายทีขวาที บางครั้งก็ชนกำแพงบ้าง ลื่นล้มบ้าง ทำไมดูเหมือนจะหมดแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เนี่ย ทั้งที่เมื่อกี้ก็ยังดูดีๆ อยู่เลย
พรึ่บ!
อยู่ดีๆ ไฟข้างทางก็ดับซะงั้น ไม่นะ!
“จะหนีไปไหน”
พวกมันมากันแล้ว~~~~
---------------------------------------------
ปึก! “โอ้ย”
“ยังซ่าเหมือนสิบครั้งที่แล้วเลยนะ”
“ต่อไปแกโดนหนักกว่านี้แน่”
“ไปพวกเรา กลับไปนอนต่อ”
“เฮ่อ....”
ฉันแอบถอนหายใจเบาๆ หลังจากที่พวกมันไปกันหมดแล้ว
อยู่ดีๆ ก็มาจับตัวมาขังไว้แล้วก็ไปงั้นเหรอ จะเถื่อนกันไปถึงไหนอีกเนี่ย
ตอนนี้เริ่มปวดๆ ที่หลังแล้วหลังจากโดนกระแทกไปเต็มๆ เมื่อกี้ แล้วก็ไม่ได้โดนขังในห้องเดิมด้วย อย่าเรียกว่าห้องเลย คุกยังหรูกว่าด้วยซ้ำ ทั้งมอสตะไคร่น้ำจึ้นเต็มไปหมดเลย นี่มันมรดกตกทอดจากรุ่นบรรพบุรุษพวกแกเรอะ
ฉันไม่ได้โดนจับมันไว้กับอะไรหรือโดนปิดตาแต่อย่างใด นอกจากจะโดนโซ่ล่ามไว้กับขาสองข้าง ฉันจะหนีไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อตอนนี้แรงแทบไม่เหลือแล้ว
เดี๋ยวสิ ทำไมแรงฉันถึงหมดเร็วแบบนี้ล่ะ
เฮ่อ จะได้ไปกรุงเทพซะงั้นอ่า ไม่อยากไปเล้ย อยากอยู่บ้านมากกว่า
แต่ทำไงได้ ได้ตั๋วมาแล้วแถมไม่ได้ไปนาน คงไม่ได้ต่ออีกนานเลยนะเนี่ย
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ก็เห็นเงียบๆเลยเกิดอาการน้อยใจนิดหน่อย เอาน่ะเดี๋ยวหายแล้วจะต่อเอง
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
รักสามเศร้า คิโดลิโนะฟุโด อย่าแย่งกัน เอากันเองดีกว่า//me
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
หลังจากที่หายไปนาน
- Spoiler:
- ********************Hana’s PART*****************************
‘ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้กับฉันได้ยังไง...................................คนที่ฉันเคยคิดว่าเป็นเพื่อน.............แต่เขากลับ................เขากลับ....................
ทำไมนะ...................ทำไม เรื่องแย่ๆมันต้องถาโถมเข้ามาหาเราเสมอเลย..................ทั้งๆที่เรา................ทั้งๆที่พยายามทำตัวไม่ให้มีปัญหา.....................แต่ทำไม...............แต่ทำไม’ฉันวิ่งหนีเพื่อนคนนั้นออกมายังชายหาด
พร้อมกับเหม่อมองออกไปที่ผืนน้ำ
‘ทำไมนะ................ทำไม.............ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้เลย..............................................ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้..........................ขอโทษนะฟุโดวฉันไม่ได้คิดกับนายแบบนั้น ฉันให้นายได้แค่...............คำว่าเพื่อนเท่านั้น.............เท่านั้นจริงๆฉันให้นายได้แค่นั้น’ ฉันทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นทรายที่แฉะๆอย่างหมดอารัยตายอยาก ฉันไม่รู้ว่าทำไมขาของฉันถึงพารน่างกายของฉันเองมาที่นี่ ฉันได้แต่เหม่อมองท้องทะเลกว้างนั้นอย่าไร้จุดหมาย
‘ฉันรู้สึกสับสนเหลือเกิน สับสนในความรู้สึก ฉันคิดยังไงกับยูโตะคุงกันแน่ ความรู้สึกที่ไม่อยากให้เขาไปไหนไกลตา ความรู้สึกที่อบอุ่นเมื่อมีเขาอยู่เคียงข้าง อยากเห็นหน้าเขาตลอดเวลาแม้ว่าในบางครั้งการเจอหน้ากันจะเป็นการชวนทะเลาะก็ตาม แล้วความรู้สึกที่มีให้ฟุโดวล่ะ...........................เขาก็เหมือนกับฉัน ถูกเลี้ยงแบบทิ้งๆขว้างๆมาตั่งแต่เด็ก............ได้รับความรักแบบครึ่งๆกลางๆ...............ฉันสงสารเขา.........................นี่ฉันควรจะทำไงดี’ฉันตะโกนก้องอยู่ในใจพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่ขาดสาย
“ ทำไมล่ะผู้หญิง อย่างฉันมันดีกว่าคนอื่นตรงไหน................เป็นตัวยุ่งวุ่นวายก็เท่านั้น....................ชอบกวนใจ...............เป็นแค่วัชพืชที่คนอื่นเขามองข้าม” ฉันตะโกนลั่นทั้งน้ำตา
“แต่คนคนนั้นคงไม่ใช่ผม”
เสียงทุ้มนุ่มคุ้นหู................คุ้นมาก....มากเหลือเกิน มากเสียจนไม่ต้องหันไปมองฉันก็รู้สึกว่าเจ้าของเสียงมาอยู่ข้างๆแล้ว.......แต่ฉันก็อดหันไปตามเสียงนั้นไม่ได้ซักที
“ยูโตะคุง!! ...............นายมาทำอะไรที่นี่” ฉันถามอย่างชวนคุย
คิจัง : ก็มาเดินเล่น..............เหมือนคุณไง
ยูโตะคุงเขาพูดสบายๆทำเอาฉันสะอึกกับคำพูดของเขาอยู่เหมือนกัน
‘ฉันไม่ได้มาเดินเล่นหรอกยูโตะคุง.............................ฉันมาทบทวนตัวเองมากกว่าว่าฉันคิดยังไงกับนาย.........................กับฟุโดว.....................และคิดยังไงกับตัวเอง’ฉันคิดอยู่ในใจแต่ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาจากปากที่เม้มแน่นของฉันได้เลย ฉันเงยหน้ามองยูโตะคุงทั้งน้ำตา
‘นี่นายไม่เข้าใจฉันเลยใช่ไหม.........................ว่าฉันรู้สึกยังไง’ฉันตัดพ้อเขาในใจพร้อมกับเบี่ยงตัวเดินเขาบ้าน
แต่เขากลับเดินเข้ามาขวางฉันเพื่อไม่ให้เข้าไปในบ้าน
“น................นายจะมาขวางฉันทำไม”ฉันพูดพลางหลบสายตาของเขา
คิจัง : ก็ผมอยากคุยกับคุณนี่
“เรื่องอะไรล่ะ”ฉันถามเขาอย่างสงสัย
คิจัง : ก็เรื่องอะไรดีล่ะ.....................
นั่นกวนอีกแล้ว........................ฉันไม่มีอารมณ์มาเล่นกับนายหรอกนะ
“ก็นายเป็นคนอยากคุยเองนี่แล้วมาถามฉันทำไม”
คิจัง : ผมก็แค่อยากคุยกับคุณ...........เท่านั้น
‘ก็นายอยากจะคุย...........แต่ฉันไม่อยากนี่’ ฉันคิด
“อยากคุย...........กับฉันนี่นะ”ฉันถามเขาออกไป
คิจัง : (พยักหน้า) ครับ.............กับคุณ.......................
“กับฉัน............เรื่องอะไร”ฉันมองหน้าเขาอย่างสงสัย
คิจัง : นั่นสินะเรื่องอะไร.......................เอาเป็นว่าคุณอยากจะพูดอะไรก็พูดมาเลยผมจะรับฟัง
‘ยูโตะคุง ~~~นายไม่รู้...............ขนาดนายยังไม่รู้เลย แล้วฉันจะรู้เหรอ........................ฉันจะรู้ได้ยังไง’ฉันตะโกนก้องอยู่ในใจ
“ไม่ว่า.............จะเป็นเรื่องอะไร..............งั้นเหรอ” ฉันถามเขาไปอย่างไม่แน่ใจ
คิจัง : ค..........ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร
เขารับปากอย่างหนักแน่น.............ทำเอาก้อนสะอื้นของฉันมาจุกอยู่ที่ลำคอ
ฉันโผเข้ากอดเขาแน่นทั้งน้ำตา
“ยูโตะคุง~~~”
คิจัง : อ๊ะ..........อะไรครับคุณเป็นอะไรไป
น้ำเสียงของเขาแสดงอาการตกใจ
“เปล่า.............เปล่า...............ไม่มีอะไร..............ไม่มีอะไรจริงๆ” ฉันพูดให้เขาสบายใจ..........แต่ในใจของฉันมันกลับหนักอึ้งเสียเอง
คิจัง : มีสิต้องมี...............ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่เป็นอย่างนี้...............เรื่องฟุโดวคุงใช่ไหม
‘นี่เขารู้แล้วเหรอ.......................เขารู้แล้ว...................ฉันจะทำอย่างไรต่อไปดี.................เขาต้องโกรธฉันแน่ๆเลย.....................ไม่เอานะฉันยังไม่พร้อม.....................ฉันยังไม่พร้อมที่จะเสียเขาไป’
“นี่นาย...............รู้ได้ยังไง!!!” ฉันเงยหน้าพร้อมกับจ้องไปในดวงตาสีแดงอ่อนอย่างสงสัย.................เมื่อเขาเห็นฉันทำดังนั้นเขาจึงคลายอ้อมกอดจากฉัน.............นี่ฉันจะเสียเขาไปจริงๆน่ะเหรอ........................ไม่เอานะฉันยังไม่พร้อม
คิจัง : รู้สิ ผมรู้...........................ผมคอยดูคุณอยู่ตลอดนั่นแหละ
นี่เขาคอยดูฉันอยู่ตลอดเวลางั้นเหรอ.................ถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องรู้หมดแล้วสิว่า...................................
“ถ้านายรู้แล้วทำไม...........................”
ฉันพูดลากหากเสียงยาวเพราะเกิดความลังเลขึ้น
‘ยูโตะคุง.....................นายจะโกรธฉันไหมนะ’
คิจัง : ผมแค่อยากจะรู้ว่าคุณจะทำยังไง
เขาพูดอย่างอ่อนโยนแล้วลูบหัวฉันเบาๆฉันลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีใจที่เขาไมโกรธฉัน
“แล้ว.......................ที่ฉันทำลงไปมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า”ฉันยังถามเขาอย่างไม่แน่ใจ
คิจัง : มันก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นคุณใช้อะไรคิดใช้สมองหรือว่าใช้หัวใจ
เขาตอบอย่างขรึมๆ
“ใช้สมองหรือหัวใจ..........งั้นเหรอ”ฉันทวนคำ
คิจัง : ครับ..............ที่คุณทำลงไปน่ะคุณทำตามเสียงของหัวใจคุณเองหรือทำไปเพราะความเหมาะสม
เขาอธิบายให้ฉันเขาใจง่ายๆ
“ฉัน...............ไม่รู้สิฉันทำไปเพราะความเคยชิน.........................เคยชินที่มีนายอยู่ใกล้ๆ..................ไม่อยากให้เป็นคนอื่น”
เขาทำหน้าแปลกใจที่จันตอบไปอย่างนั้น.............มันทำให้ฉันเริ่มกังวลแล้วล่ะว่าเขาจะไม่พอใจในคำตอบของฉันและหายไปจากชีวิตของฉันเหมือนคนอื่นๆ...............แต่แล้วสีหน้าที่แปลกใจของเขากลับมีรอยยิ้มบางๆผุดขึ้นมา มันทำให้ฉันโล่งอกขึ้นเยอะ
คิจัง : ผมก็ดีใจครับที่คุณคิดแบบนั้น................อย่างนี้ดีกว่าเยอะเลยใช่ไหม.........................ไม่ต้องทำในสิ่งที่ควรจะเป็น................แต่ทำในสิ่งที่เคยชิน
เขากระชับกอดฉันแน่นขึ้น ฉันเลยซบหน้าลงบนอกกว้างของเขา
‘อบอุ่น..........อบอุ่นจริงๆ.................ความรู้สึกนี้นายอย่ามอบให้คนอื่นนะยูโตะคุง’
“สิ่งเดียวที่ฉันเคยชินที่สุดคือการมีนาย..............................ไม่ว่าใคร................................ก็แทนที่นายไม่ได้ทั้งนั้น”
ฉันพูด...................พร้อมกับพยักหน้าถี่ๆในอ้อมกอดของเขา............................สิ่งที่ฉันพูดฉันหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆความรู้สึกแบบนี้ฉันคงให้ใครไม่ได้อีกแล้ว
คิจัง :ครับ ขอบคุณมากนะครับ...................................
เขาตอบ
“มาขอบคุณฉันทำไม...........ฉันเสียอีกที่ต้องขอบคุณนาย.....................ก็นายอุตสาห์เห็นค่าของฉันนี่”
ฉันพูดเสียงอู้อี้ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา
คิจัง : อ่ะ อา..........................................ต้องเห็นสิครับผมต้องเห็นอยู่แล้ว
เขาพูดพลางกลัวหัวเราะแล้วก็ลูบหัวของฉันอย่างแผ่วเบาเหมือนเคย…....................จนฉันไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“ยูโตะคุง......อย่าพูดอย่างนั้น.................อย่าพูดเพื่อเอาใจฉัน”
อุ๊ย!!!ฉันพูดอะไรออกไปเนี๊ยะ
คิจัง : ผมไม่ได้พูดเพื่อที่จะเอาใจหรือตามใจคุณหรอกนะครับ...................ผมรู้ว่าผู้หญิงอย่างคุณน่ะไม่ได้มีเอาไว้เพื่อเอาใจหรือตามใจ แต่มีไว้เพื่อเข้าใจ
เขาตอบอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณนะยูโตะคุง...........ขอบคุณที่เข้าใจกัน”
น้ำตาเจ้ากรรมของฉันมันดันไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้..........ฉันนี่แย่จริงๆเลย ร้อยวันพันปีไม่เคยร้องไห้ คิดๆดูแล้วก็ตั่งแต่ย้ายมาอยู่ที่ไรมงนั่นแหละ............................อะไรนะทำให้คนเย็นชาอย่างฉันกลายเป็นคนเจ้าน้ำตาได้
คิจัง : ไม่เป็นไรครับ...........ไม่เป็นไรจริงๆ สำหรับคุณ............ได้เสมอ
เขาก้มลงมาหาฉัน
คิจัง : แล้วก็..........หยุดร้องซะนะครับคนเก่ง ผมไมอยากเห็นน้ำตาของคุณอีกแล้ว
เขาพูดพลางยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
เฮ ในที่สุดพี่ฟ็อกซ์ก็กลับมาแล้ว (รู้สึกว่าแกจะเหนื่อยน้อยกว่าใครเพื่อนเลยนะเฮ้ย)
วันนี้สุดๆ จริงๆ เพราะหลังจากไปถึงกรุงเทพแล้วก็ดันต้องเดินทางไปปากช่องตามผู้ใหญ่เขาอีก เฮ่อ ยังไม่พ้นวัยเด็กอยู่ดีเรานี่
แต่ก็ขอกราบขอบคุณที่นี่จริงๆ ที่ยังมีเน็ตให้ใช้ (แม้ว่าจะอืดสุดๆ ก็เหอะ)
จะพยายามว่างมาต่อให้นะคะ
=======================
อ้ากกก ลืมไปว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า
ฮือๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ต่ออยู่ดี ขอโต๊ดน้า
วันนี้สุดๆ จริงๆ เพราะหลังจากไปถึงกรุงเทพแล้วก็ดันต้องเดินทางไปปากช่องตามผู้ใหญ่เขาอีก เฮ่อ ยังไม่พ้นวัยเด็กอยู่ดีเรานี่
แต่ก็ขอกราบขอบคุณที่นี่จริงๆ ที่ยังมีเน็ตให้ใช้ (แม้ว่าจะอืดสุดๆ ก็เหอะ)
จะพยายามว่างมาต่อให้นะคะ
=======================
อ้ากกก ลืมไปว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า
ฮือๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ต่ออยู่ดี ขอโต๊ดน้า
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
หนีมาต่อ (หนีแบบไม่ได้หนีอ่ะดิ)
หน้ากาก
- Spoiler:
- หลังจากที่อะไรๆ ค่อยๆ สงบลงฉันก็ผลอยหลับไปด้วยความหมดแรง นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยนะเนี่ยที่ฉันผลอยหลับเพราะหมดแรง น่าสงสัยชะมัด
ตื่นมาก็เห็นมีจานอะไรไม่รู้วางห่างออกไปไม่มาก ขยับไปดูก็เห็นเหมือนเป็นข้าวอะไรซักอย่าง แต่สมองฉันมันเหนื่อยเกินกว่าจะแสกนมันได้ แต่ไม่นานฉันก็ต้องกลับไปหามันเพื่อกินอยู่ดีเพราะกระเพาะอาหารสั่ง ยิ่งกินก็ยิ่งรู้สึกไม่อยากกิน ถึงจะกินหมดมันก็ค่อนข้างทำให้ฉันเอื่อยลงๆ
"ก็กินหมดนี่"
เสียงชายค่อนข้างหนุ่มพูดจากมุมห้องข้างนอกทำเอาฉันสะดุ้งนิดๆ
"นึกว่าเอาของเหลือแปลกๆ มาให้แล้วจะกินไม่หมด"
ชายคนนั้นพูดพร้อมเดินเข้ามาเก็บจาน เขาใส่หน้ากากแปลกๆ ไว้ด้วย ฉันเลยไม่เห็นหน้าเขา
แจ๊ส : "ของ...อะไรนะ"
เสียงฉันเริ่มอ่อยลงทุกทีแล้ว
"เฮอะ! ยังจะถามอีก ไม่ได้ยินแล้วอย่ามาสอดได้มั้ย"
เหมือนไอ้คนเสียงแก่นั่นเป๊ะเลยแกอ่ะ
"เตือนไว้ก่อนนะว่าอย่ามาทำให้ฉันโมโห"
แคร้ง! แกร็ก!
ไม่ได้จะทำให้โมโหซักหน่อย ไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ ฉันไม่ได้รู้จักพวกแกมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ หนิเลยไม่รู้ว่าควรทำไงเวลาอยู่ต่อหน้า
แล้วฉันเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากด้วย เสียงเริ่มไม่ค่อยมีแล้ว
ฉันนั่งๆ นอนๆ ไปเรื่อยๆ เหมือนอาหารที่ฉันกินไปวันนี้ทำให้ฉันร้สึกมีแรงขึ้นมานิดหน่อย ไม่เหมือนกันอาหารปั่นอะไรพวกนั้นเลย
"เปิดกรงซิ"
ใครมาหน้าประตูน่ะ เป็นฝูงเลย
"เป็นไง สบายดีใช่ไหม"
ฉันไม่ตอบ แต่แกอย่ามาทำเป็นเอียงหน้าถามฉันนะ มันน่าเอาหัวโขกให้สลบไปซักปีสองปี
"เฮ้ย มันหยิ่งแฮะพวกเรา"
"เฮ!!!..."
ตลกตรงไหนกัน ฮะ!
"ไม่โกรธด้วย ใจดีจัง"
ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยใส่ได้มะ มันน่าเอามีดมาเฉือนคอแกทิ้งอ่ะ
"ฮึๆๆๆๆๆ หน้าตาแกนี่ดูดีกว่าที่ฉันคิดไว้นะ"
"แกหมายความว่าไง"
ฉันพูดห้วนๆ ใส่
"ก็หมายความถึงข้าวที่ฉันเพิ่งให้แกกินไปไง"
อะไร มันมีอะไรอยู่ในนั้นงั้นเหรอ
"แผนของนายถ้าจะได้ผลจริงๆ ว่ะ น้องสุดที่รัก"
มันหันไปพูดกับคนที่อยู่ข้างหลัง ไอ้คนนั้นก็พยักหน้าตอบ แล้วมันก็หันหน้ากลับมาหาฉันด้วยใบหน้าที่ดูสะใจสุดขีด
"อยากรู้ล่ะสิ"
ฉันได้แต่เบือนหน้าหนี
"ฉันก็แค่เอาข้าวที่พวกเราทั้งสอบคนกินเหลือมาเทรวมๆ กัน จากนั้นก็ใส่ยาชูกำลังให้ คนให้เข้ากัน แค่นี้เอง"
"..."
ฉันอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่พวกคนชั่วๆ รอบตัวจะพากันหัวเราะ
"แกนี่มันหลอกง่ายจริงๆ เลยนะ..."
พูดจบมันก็จับหน้าฉันหันไปหามัน
"...แต่ฉันยังสงสัยอยู่เลยว่า แกจะเอาผมปิดหน้าไว้ทำไม หน้าแกอีกข้างเป็นอะไรงั้นเหรอ"
แจ๊ส : "..."
"งั้น...ฉันขอดูหน่อยนะ"
จบประโยค มันก็กวักมือสั่งให้ลูกน้องมันเอาอะไรซักอย่างมา แล้วมันก็รวบผมหน้าม้าฉันขึ้น...
โป้ก!!
"โอ้ย! ทำแสบนักนะแก"
ฉันไม่ปล่อยให้แกเห็นหน้าฉันอีกซีกง่ายๆ หรอก ถึงมันจะไม่เกี่ยวกับศักดิ์ศรี แต่มันก็หมายถึงชีวิตทั้งชีวิตฉันเลยนะ
"ดูซิว่าแกจะทนไปได้อีกกี่น้ำ พวกเรา ล็อกมันไว้"
"ครับ!"
พวกนั้นเริ่มเดินเข้ามากันแล้ว ฮ่ะๆๆ เดี๋ยวก็รู้ว่าใครเป็นใคร
"นายสองคนล็อกขานะ ส่วนนายอีกสองคนล็อกแขน...."
ประชุมกันใหญ่เลย กลัวล่ะสิ หึ...แต่ฉันขี้เกียดฟังเว้ย จะทำอะไรกันก็รีบๆ ดิวะ
ไอ้คนตัวลีบๆ สองคนเดินเข้ามาจับที่ขาฉันแล้ว อีกสองคนก็ค่อยๆ เดินตามมา
"โอ้ย!"
"อั่ก!"
ฉันขัดขาสองคนที่ฉับขาฉันอยู่ด้วยโซ่ ทำเอาสองคนที่เหลือผงะไป
"พวกแกไม่ต้องออมมือแล้ว ลุยเลย"
แล้วพวกมันก็กรูเข้ามารุมกันที่มุมห้องอย่างรวดเร็ว
"อุก!"
"โอ้ย!"
พลั่ก!!
ผัวะ!
พลั่กๆๆ!!
"อึก!"
"...."
นานแฮะ การต่อสู้ครั้งนี้
แจ๊ส : "มีไม่ครบนี่ พวกแกน่ะ"
นับๆ ดูแล้ว มีประมาณเจ็ดแปดคนได้ถ้ารวมไอ้คนที่จับผมฉันด้วย
"หน็อยแก"
แจ๊ส : "ทำไม"
"ฝากไว้ก่อนเถอะ"
แจ๊ส : "พวกแกฝากฉันไว้หลายรอบแล้วนะ"
"พวกเรากลับ"
ฉันแค่พูดประโยคเมื่อกี้ออกไปเล่นๆ เองนะ ทำไมดูเหมือนมันคิดจริงจังกับประโยคนั้นมากเลย
หวืด~
ฉันถึงกับหน้ามืดทันทีที่พวกมันออกไป
เหมือนเมื่อกี้ฉันจะฝืนตัวเองมากไปหน่อย ก็ทำไปตามอารมณ์น่ะนะ แต่ผลสุดท้ายก็เหมือนฝืนตัวเองตลอด ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ไม่รู้ว่ามันเอาอะไรใส่ให้ฉันกินนะ ไม่ใช่ยาอะไรที่ดีๆ แน่ จริงสิ...ฉันมันหลอกง่าย ตายใจไปกับเขาซะทุกเรื่อง เลยตกเป็นเหยื่อให้ผู้ที่เหนือกว่าเสมอ
หน้ากาก
- Spoiler:
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ต่อยามว่าง
ช้วงนี้ไซนัสกำเริบแถมอากาศหนาวอย่างกะหิมะจะตก โฮ...เมื่อไหร่จะผ่านช่วงนี้ไปเนี่ย
ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ ขออย่าให้มีโรคร้ายๆ (ทั้งหนักและเบา) ตามรังควานเลย สา.....ธุ _ /l\ _
- Spoiler:
- "แค่กๆ"
ตอนนี้ฉันแทบจะพยายามไอออกมาให้ได้อย่างสุดชีวิต เพราะได้รู้ว่าตัวเองกินอะไรเข้าไปแล้วมัน... เฮ่อ ไม่อยากจะพูดถึง
หลังความสมเพชตัวเองหมดลง ความเย็นชาก็เริ่มเข้าแทรก ตอนนี้ชักปลงกับเรื่องที่ผ่านมาแล้วล่ะ
ฉันมองดูโน่นนี่ในกรงขังไปเรื่อย มีไฟแค่ตรงอิฐกั้นไว้ข้างๆ กรงขังแค่ดวงเดียวเลยเห็นอะไรไม่ค่อยชัดนัก แต่ฉันก็เริ่มคุ้นแล้วล่ะ
ข้อเท้าที่โดนโซ่เส้นโตล่ามไว้ก็เป็นรอยนิดๆ ตามธรรมชาติ มือไม้ก็ไม่ได้ซีดแต่อย่างใด สงสัยว่ายาที่พวกนั้นมันใส่ให้คงเป็นยาเกี่ยวกับอวัยวะภายในแน่เลย
จะเป็นยาอะไรก็ช่างเถอะ ถ้าออกไปจากนี่ได้จะสืบให้รู้เลยว่าพวกนี้มันเป็นใครมาจากไหน
แอ๊ด...
ประตูกรงขังค่อยๆ เปิดออกพร้อมกับใครซักคนตรงนั้น
"หิวมั้ย"
อ้อ นายนั่นที่พูดเพราะที่สุดนี้เอง
ฉันไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด
"เมื่อกี้เธอเอาแรงจากไหนมาน่ะ เล่นซะพวกพี่ๆ ฉันกระเด็นไปเป็นแถบเลย"
"..."
"ไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยเหรอ"
ฉันส่ายหน้านิดๆ
"หรือว่ายาเพิ่งออกฤทธิ์"
"อะไรนะ!!"
ฉันโพล่งออกไปอย่างดังจนตัวเองรู้สึกได้ว่ามันดังขนาดไหน
"ปะ...เปล่านี่ ไม่มีอะไร"
แจ๊ส : (ลดตัวลงนั่งอย่างเดิม) "มีสิ แต่ฉันไม่รู้เท่านั้นเอง"
"เออ..."
แจ๊ส : "ฉันถามอะไหรนายหน่อยนะ ไอ้อาหารปั่นที่พวกนายเอามาให้ฉันกินเนี่ย มันใส่อะไรไว้รึเปล่า"
"ก็..."
แจ๊ส : (พุ่งตัวขึ้นไปจับคอเสื้อ) "บอกมาซะ"
"บะ...บอกก็ได้"
แจ๊ส : (ยอมปล่อยคอเสื้อแล้วลดตัวลงนั่งเหมือนเดิม)
"ฉะ...ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันเป็นยาอะไร แต่ที่แน่ๆ คือเป็นยาที่ทำให้เราหมดแรงลงเรื่อยๆ แรงที่เธอมีตอนก่อนหนีทั้งหมดก็เป็นแรงที่เหลือจากวันก่อนๆ เธอเลยหนีออกมาจากห้องนั้นได้ แต่แรงมันก็มีแค่นั้นแหละ เธอเลยถูกจับง่าย"
แจ๊ส : (สะบัดหน้าหนี) "มีอะไรมากกว่านี้อีกมั้ย"
"เรื่องแบบนี้ฉันรู้มากไม่ได้หรอก"
แจ๊ส : "แล้วยาที่ใส่มากับของเหลือล่ะ นายบอกได้มั้ย"
"ฉันรู้มาแค่ว่า...จะมีผลข้างเคียงคล้ายๆ ยาเสพติดน่ะแหละนะ แต่น้อยกว่าหลายร้อยพันเท่า"
แจ๊ส : (เงียบไปพักใหญ่) "...นายมาที่นี่มีอะไรรึเปล่า"
"ฉันแค่มาดูตามที่พี่ฉันบอกเท่านั้นแหละ แต่ดันเผลอโพล่งอะไรออกไปซะเยอะเลย ฮ่ะๆ"
นายนี่เกาหัวแกร็กๆ พร้อมกับเดินออกไป
'ยาที่กินแล้วค่อยๆ หมดแรงงั้นเหรอ... ยาที่มีผลข้างเคียงคล้ายๆ ยาเสพติดงั้นเหรอ...'
ความคิดพวกนี้วนไปวนมาอยู่ในสมองฉัน
เพราะความอยากรู้ชั่วครู่ของฉันแท้ๆ เลยที่ทำให้ตัวเองต้องมาเครียด แต่ก็ดีอย่างที่ได้รู้ว่าพวกนั้นคิดจะทำอะไรกันแน่
รู้อย่างนี้แล้ว ไม่กล้ากินอะไรต่อไปเลยอ่ะ แต่ไม่กินคงอยู่ไม่รอด เอาไงดีล่ะ...
แต่ชีวิตมันมีทางเลือกไม่มาก...เราก็คงต้อง...ทนอยู่ต่อไป...
ฉันถอดยางรัดผมออกปล่อยให้ผมรกรุงรังปิดทั้งตัวแล้วหันหน้าเข้ามุมห้อง
จะทำยังไงดี...ถ้าไม่หนี...ก็อาจจะต้องทรมานทีหลัง
ช้วงนี้ไซนัสกำเริบแถมอากาศหนาวอย่างกะหิมะจะตก โฮ...เมื่อไหร่จะผ่านช่วงนี้ไปเนี่ย
ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ ขออย่าให้มีโรคร้ายๆ (ทั้งหนักและเบา) ตามรังควานเลย สา.....ธุ _ /l\ _
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
มาต่อกัน
สิ่งที่ไม่ยอมรับ........................ความทรงจำในวัยเด็ก.....................เพื่อนรัก...............................รักเพื่อน
- Spoiler:
- เช้าวันรุ่งขึ้นหญิงสาวตื่นมาจากการหลับใหลด้วยอาการงัวเงียเนื่องจากเมื่อคืนเธอต้องไปช่วยงานของตำรวจประจำเกาะ เธอลุกขึ้นจากเตียงพลางขยี้ตาเบาๆแล้วเดินเข้าห้องน้ำ...........เมื่อเสร็จแล้วเธอจึงเดินลงมาด้านล่างด้วยอาการงัวเงียเล็กน้อย
ฮารุนะ : อ้าวพี่ฮานะจังอรุณสวัดค่ะ................ทำไมวันนี้พี่ฮานะดูไม่ลดชื่นเลยล่ะคะ
ลิโนะ : คือเมื่อคืนพี่นอนไม่ค่อยหลับน่ะ
ฮารุนะ : ห............ไหวไมคะพี่
ลิโนะ : หะ..............ไหว.........ไหวสิ (ชูสองนิ้วเป็นสัญลักษณ์ตัวv)
ฮารุนะ : ฮ่ะๆพี่เนี๊ยะหญิงเหล็กจริงๆเลยนะคะ.........ทำได้ตั้งหลายอย่างแนะ
ลิโนะ : ฮ่ะๆ คนอย่างพี่นะมันปากกันตีนถีบมาตั้งแต่เด็กแล้ว......ต้องทำเป็นทุกอย่างไม่งั้นก็อด........................
ฮารุนะ : นั่นสินะคะไม่อย่างนั้นตอนเด็กๆพี่คงไม่เป็นผู้หญิงที่ป๊อปที่สุดในบ้านหรอกทั้งสวยทั้งเก่ง.........................พี่ชายนี่โชคดีจริงๆน๊า
ลิโนะ : (ทำหน้างง) ยูโตะคุง? เกี่ยวอะไรด้วยเหรอ
ฮารุนะ : ก็ (บิดไป-มาพลางทำท่าคิด) ได้ผู้หญิงอย่างพี่มาอยู่ข้างๆไงคะ
ลิโนะ : (ชี้หน้าตัวเอง) หะ..........เห พี่เหรอ
ฮารุนะ : ค่ะพี่!!!หนูอยากเป็นแบบพี่มั่งจัง พี่ชายจะได้เลิกห่วงหนูซักที
ลิโนะ : (ลูบหัวฮารุนะ) ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่เขาเป็นห่วงน่ะ...........ดีกว่าไม่มีใครเป็นห่วง (หรี่ตาลงอย่างเศร้าๆ) มันเหงามากนะรู้ไหม
ฮารุนะ : แต่พี่ก็มีพี่ชายอยู่ทั้งคนนี่คะ.......................รายนั้นน่ะทั้งหวงทั้งหวงพี่เลย
ลิโนะ : (หัวเราะ) ฮ่ะๆ จะจริงเหรอ.............................
ฮารุนะ : จริงสิคะ หนูดูออกนะคะ ถึงพี่ชายจะไม่พูดอะไรมากแต่หนูก็รู้นะคะว่าพี่ชายเขาแคร์พี่มาก……………………..หนูไม่เคยเห็นพี่ชายเขาแคร์ใครขนาดนี้เลย
ลิโนะ : แต่เขาก็เป็นห่วงเรามากไม่ใช่เหรอ
ฮารุนะ : ก็ใช่นะคะ แต่ห่วงน้องสาวกับห่วงแฟนมันแตกต่างกันนี่
ลิโนะ : ฟ……………………แฟน พี่ไม่ใช่นะ
ฮารุนะ : แหม ใช่ได้ยังไงล่ะคะ แค่หนูมองตาของพี่กับพี่ชายหนูก็รู้แล้ว
ลิโนะ : ม่ะ………………….ไม่ใข่………………………..ไม่ใช่นะ
ฮารุนะ : แหม๋……………………พี่ฮานะอย่ามาปฏิเศษซะให้ยากเลยค่ะหนูรู้นะว่าพี่ชายน่ะเขาห่วงพี่มากขนาดไหนและพี่เองก็เป็นห่วงพี่ชายอยู่เหมือนกัน
ลิโนะ : (ทำแก้มป้อง)ฮารุจังน่ะ!!!ไม่คุยด้วยแล้ว(เดินหนี)
ฮารุนะ : อ้าวจะไปไหนล่ะคะพี่ฮานะ หนีหนูน่ะหนีได้ แต่หนีความจริงคงยากซักหน่อย
ลิโนะรีบเดินหนีจากเด็กหญิงที่อยู่ตรงนั้นเธอรีบเดินจนมาชนกับคนๆหนึ่ง………………….เธอรู้สึกคุ้นหน้าหญิงสาวคนนี้เหมือนเคยเจอที่ไหนแต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก
“เฮ๋เธอคนนั้นนี่ ที่มาของยืมฐานฝึกของฉันให้ทีมไรมงนี่”หญิงสาวคนนั้นร้องออกมาด้วยน้ำเสียงเหน่อๆ
ลิโนะ : (ทำหน้างง) อะนี่!!! คะ………….. คุณ
ริกะ (ชี่มาที่ตัวเอง) นี่ริกะซังไง จำได้ม๊ะ ที่รักของดาร์ลิ้งไง
ลิโนะ : (ทำหน้าเข้าใจ) อ่ะอา………….(ยิ้ม) ริกะซังนั่นเอง ดีใจจังทีได้เจอ เรื่องวันนั้นน่ะขอบคุณมากเลยนะคะ ถ้าวันนั้นไม่ได้คุณริกะซังช่วย พวกยูโตะคุงคงแย่…………….
ริกะ : ยูโตะคุงเอ๋(ทำหน้าเจ้าเลห์)…………………….ยูโตะคุงคือใครน่ะ
ฮารุนะ : (ตอบเสียงใส) ก็พี่ชายไงล่ะคะพี่ริกะ
ริกะ : คิโดคุง………………………….เอ๋จริงเหรอ…………………………….
“แว่วๆใครอะไรกับคิโดคุงเหรอ”เด็กหญิงผมสีชมพูหม่นเดินเข้ามา
ฮารุนะ : อ้าวพีโทโกะ ตื่นแล้วเหรอคะ……………………..แหม๋สองคนนี่ตกข่าวได้ไง ก็พี่ฮานะกะพี่ชายน่ะสิคะเป็นแฟนกัน
ริกะ : เอ๋……………….แล้วทำไมไม่มีใครบอกฉันเลยล่ะ
โทโกะ : นั่นสิ…………………..
ฮารุนะ : เอ๋ พี่จำไม่ได้เหรอคะในวันที่พี่ชายแถลงข่าวก็คนนี้แหละค่ะที่พี่ชายเขาลากขึ้นไปเปิดตัวบนเวทีด้วย……………..แล้วยังร้องเพลงคู่ด้วยน่าร๊ากกกกสุดๆ
ฮารุนะพูดพลางทำท่าเคลิบเคลิ้ม
ลิโนะ : (หน้าแดง) ฮารุจังก็พูดเกินไป
ฮารุนะ: หนูก็พูดแต่เรื่องจริงหนิคะพี่ฮานะ
ริกะ : เอ๊ะเดี๋ยวนะ……………………….ตอนนั้นจำได้ว่าเธอบอกฉันว่าชื่อลิโนะ ซาชิโยะไม่ใช่เหรอ
ลิโนะ : ก………………………….ก็ใช่ ทำไมเหรอ
ริกะ : (เอียงตัวเข้ามาใกล้ลิโนะเรื่อยๆ) แล้วทำไมฮารุนะจังถึงได้เรียกเธอว่าฮานะจังล่ะ
ลิโนะ : (ถอยหลังหนี)ก………ก็ฮานะจังเป็นชื่อเก่าฉันน่ะ
ริกะ : หะ…………………เห ชื่อเก่าเหรอ……………………..
ลิโนะ : (เหงื่อตก) ก็ชื่อนี้……………………มีแต่เพื่อนสมัยเด็กที่รู้…………………..
ริกะ : (ทำท่าคิด) เอ………………แล้วอย่างนี้ถ้าฮารุนะรู้ก็แสดงว่าคนที่เป็นพี่ชายอย่างคิโดต้องรู้ด้วยล่ะสิ
ลิโนะ : อ่ะ……………………..อืม ก็เรา………………………….เป็นเพื่อนกันมาตั่งแต่เด็กนี่
โทโกะ : เอ๋………………………..เพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก………………………งั้นเหรอ
ลิโนะ :อ่ะ……………………..อืม เราสามคนฉัน ฮารุจัง และก็ยูโตะคุง รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว
ริกะ : (ทำหน้าตาเคลิ้ม)อ๋า…………..โรแมนติกที่สุด เพื่อนรัก………….รักเพื่อน
สิ่งที่ไม่ยอมรับ........................ความทรงจำในวัยเด็ก.....................เพื่อนรัก...............................รักเพื่อน
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
>< กลับมาแล้วค่าาาา หลังจากหายไปนาน
แต่ก็ยังไม่ได้แต่งต่อนะค่ะ ต้องนั่งอ่านก่อนว่าแต่งกันไปถึงไหนแล้ววว 5555
ปล. >< วันนี้โรงเรียนที่ไปสอบมาประกาศผลแล้วค่ะ
แล้วพราวก็ติดเตรียม >[]<!!!!!
55555 แล้วจะรีบกลับมาแต่งต่อนะค่ะ ><;;;
บะบายค่ะ!
แต่ก็ยังไม่ได้แต่งต่อนะค่ะ ต้องนั่งอ่านก่อนว่าแต่งกันไปถึงไหนแล้ววว 5555
ปล. >< วันนี้โรงเรียนที่ไปสอบมาประกาศผลแล้วค่ะ
แล้วพราวก็ติดเตรียม >[]<!!!!!
55555 แล้วจะรีบกลับมาแต่งต่อนะค่ะ ><;;;
บะบายค่ะ!
lovlyprao- จำนวนข้อความ : 278
Join date : 03/10/2010
Age : 28
ที่อยู่ : ในอ้อมกอดของฟุบุกิ~ >_<
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ดีใจด้วยนะ บอกแล้วว่าต้องติดถ้าเราเต็มที่กะมัน
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ยินดีกับพี่พราวด้วยนะคะ
ช่วงนี้เชียงใหม่ตอนกลางวันร้อนมั่กๆ จนไม่อยากออกบ้านไปไหนเลย
ตอนกลางคืนอากาศก็เย็นสบาย(เกินไป) 55+
บ่นแค่นี้พอ กลัวยาว
ต่อถึงเรื่องที่คั่งค้างไว้ค่อนข้างหลายวัน
ช่วงนี้เชียงใหม่ตอนกลางวันร้อนมั่กๆ จนไม่อยากออกบ้านไปไหนเลย
ตอนกลางคืนอากาศก็เย็นสบาย(เกินไป) 55+
บ่นแค่นี้พอ กลัวยาว
ต่อถึงเรื่องที่คั่งค้างไว้ค่อนข้างหลายวัน
- Spoiler:
- โป้ก!
“โอ้ย!”
ฉันหัวกระแทกลงพื้นอย่างแรง ไม่รู้เลยว่าตัวเองหลับไปเมื่อไหร่ ยิ่งมึนๆ หัวอยู่ด้วย โดนโขกคราวนี้จะเป็นอะไรอีกไหมเนี่ย
สายตาฉันค่อยๆ ปรับสภาพการมองเห็นอย่างช้าๆ นานแค่ไหนไม่รู้กว่าจะได้เห็นว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
...ที่เดิม...ดีจังที่ไม่ได้โดนย้ายไปที่อื่น
ฉันประคองตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ข้างในนี้เริ่มหนาวขึ้นแล้ว ทั้งมือทั้งเท้าเย็นไปหมด ยกเว้นตามตัวที่ใส่เสื้อกับกางเกงขายาวไว้
ฉันนั่งถูมือตัวเองเพื่อให้ลดความเย็นลง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะถ้าไม่มีเหงื่อออก ความร้อนก็จะไม่เกิด มือก็จะไม่หายเย็น เลยต้องเปลี่ยนเป็นซุกมือไว้ในกระเป๋าเสื้อแทน
.....ฟิ้ว.....ฟิ้ว.....
ฉันลองนิ่งฟังเสียงดูแล้ว ได้ยินก็แต่เสียงลมพัดเอื่อยๆ ที่พัดกระทบกับผนังหิน คงไม่มีสิ่งอื่นใดอยู่รอบๆ นี้แล้วล่ะ และนั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกหวั่นแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยมาก่อน
นั่งไปก็สัปหงกไปแต่ก็ไม่หลับจนชักรำคาญตัวเองขึ้นมาแล้ว เลยปล่อยให้ตัวเองนอนขดลงพื้นซะเลย ชิ!
----------------------------------------------
ZZzz... _ _ …zzZZ
ปึก!
“เอาคืนไปซะ โทรศัพท์แกนี่ทุเรศชะมัด ใช้อะไรก็ไม่ได้ เบอร์โทรศัพท์ก็มีน้อย แถมมีข้อมูลอะไรก็ไม่รู้ของแกอีกตั้งเยอะแยะ...”
บังอาจมาปลุกฉันนะ... แต่สุดท้ายก็ต้องยอมฝืนตัวเองคลานไปเอาโทรศัพท์อยู่ดี โอย...ไม่อยากตื่นเลย แต่ทำไงได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าแล้วนี่
กริ๊กๆๆ
นี่ไม่ใช่เสียงเวลากดปุ่มโทรศัพท์ตอนเวลาเครื่องเปิดนะ แต่เป็นเสียงปุ่มแบบปกติที่กดเวลาเครื่องดับน่ะ T T ไอ้พวกนั้นมันเล่นสูบแบตฯ ไปซะหมดหลอดเลย คงไม่มีอะไรจะพึ่งพาแล้วล่ะ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
“นั่นอะไรน่ะ แสงวาบๆ ตรงนั้นน่ะ ............ ไปดูดีกว่า”
……………….
“ดูไม่คุ้นตาเลยแฮะ.......เฮ้ย!!!!”
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
“เฮ้ย!!! อ้ากกก!”
ฉันสดุ้งตื่นขึ้นกับเสียงร้องของตัวเอง
ฮู่ว์... ฝันร้ายเองเหรอ เห็นเป็นลูกบอลกลมๆ สีขาวๆ ฟ้าๆ ลอยอยู่ พอเข้าไปดูใหล้ๆ บอลก็เปลี่ยนสีเป็นสีออกดำๆ และก็เหมือนตัวเองถูกดูดเข้าไป แล้วก็สะดุ้งตื่น
แก๊ง!!
ฉันสะดุ้งวาบอีกรอบ เพราะรู้สึกเหมือนเสียงอะไรกลมๆ นิ่มๆ โดนเหล็กกรงขังอย่างแรง
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่าเพิ่ง อย่าเพิ่ง นายนี่ไม่ฟังเลยนะ”
ฟู่ว์... แค่บอลธรรมดาโดนเหล็กกรงด้วยแรงขว้าง แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าเสียงมันยังคิดจะหลอกหลอนฉันอยู่ล่ะ
-----------------------------------------------------
=.=):
ฉันตื่นขึ้นมากับอาการสั่นนิดๆ โหย....ลมที่นี่มันแรงเกินไปแล้ว หนาวเกินด้วย
แต่พอลุกขึ้นนั่งแล้วเห็นจานอะไรไม่รู้วางห่างตัวเองไปประมาณหนึ่งเมตร ความคิดที่ทำให้ฉันปวดขมับก็แล่นเข้ามาในสมองทันที
‘อาหารนี่ใส่ยาไว้.......ยาที่เหมือนกับสารเสพติด....’
ทั้งคำพูดของนายนั่นเมื่อวานกับความคิดตัวเองกำลังวกวนอยู่ในสมองฉันอีกแล้ว ทำไมฉันถึงปัดมันออกไปไม่ได้ล่ะ
ยิ่งเห็น ยิ่งคิด ก็ยิ่งฟุ้งซ่าน เปลี่ยนมาเป็นกำจัดไอ้อาหารพิษนี่ดีกว่า อืม....
ถ้าเอาเข้ามาไว้ในนี้กลิ่นมันคงรบกวนแน่ แล้วถ้าไว้ข้างนอก...พวกมันคงรู้อยู่ดี แล้วจะไว้ที่ไหนดีล่ะ.....
........... “-_-“ .........
......ซ่า.......ซ่า.......
นั่นเสียงน้ำไหลไม่ใช่เหรอ ถ้าคิดไม่ผิด เสียงมันคล้ายๆ กับท่อน้ำทิ้ง ต้องมีแน่ ซักที่ในนี้
ฉันหาทุกซอกทุกมุมของกรงแล้วก็เจอท่อน้ำทิ้งตรงข้างๆ ผนังห้อง ค่อนข้างไกลจากเขตประตู
แต่...ถ้าทิ้งไว้มันก็ไม่แตกต่างเลยกับการทิ้งไว้ข้างในสิ
ฉันลองเปิดตะแกรงที่ปิดไว้ออกมา ขนาดก็ค่อนข้างใหญ่อยู่เหมือนกัน พอจะยัดพวกอาหารพวกนี้ลงไปได้ แต่น้ำที่ไหลมันน้อยกว่าที่คิดไว้มาก ถ้าเอาอะไรใส่ลงไปมันก็คงไม่ไหลออกไปแน่ นอกจากจะรอให้น้ำมันไหลเอ่อมาเองถ้าท่อนี่ไม่ใช่ท่อที่เชื่อมไว้เป็นโครงอ่านะ
ยังไงก็เหอะ ตอนนี้คงยังคิดอะไรไม่ได้มากนัก เพราะหัวเริ่มปวดตุบๆ อีกแล้ว รู้สึกเพลียมากๆ ด้วย ถ้าไม่ได้กินอะไรที่ดูดีและมีประโยชน์กว่านี้สักนิด ฉันก็เดาชะตากรรมตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ต่อแระ
สิ่งที่ต้องทำ...........................คนที่ต้องห่วง................................คำพูดของพี่ชาย
- Spoiler:
- ตอนสายนักเตะทุกคนมารวมตัวเพื่อฝึกซ้อมกันอย่างสนุกสนานโดยที่วันนี้รี ทิกิซังและลิโนะเพียงสองคนเท่านั้นที่คุมการฝึกซ้อมอยู่ แต่ทันใดนั้นเด็กหนุ่มผมสีดาร์กช็อกโกแล็ตก็ปรากฏตัวขึ้น ฟิดิโอ้นั่นเอง ลิโนะทำหน้าสงสัยน้อยๆว่าเขามาทำอะไรที่นี่
ฟุโดว :อะไรกันเนี๊ยะ นี่คิดที่จะมาดูฟอร์มศตรูงั้นเหรอ
ลิโนะ : (ตะโกนเสียงขุ่น) ฟุโดวคุงอย่าเสียมารยาท
ฟุโดว : (ท่าทางสบายๆไม่ยี่หระ) ทำไมฉันพูดอะไรผิดเหรอ
ลิโนะ+คิจัง : ฟุโดว!!!นายนี่มัน!!!
ฟุโดว : (จ้องหน้าคิจังเขม็ง) ทำไม!!!มีอะไรเหรอนายแว่นตาดำน้ำ
ลิโนะ : (พูดด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ) นายก็เหมือนกันแหละนายหัวไม้กวาด!!!
ฟุโดว : …………
ในระหว่างที่ทั้งสองเถียงกันอยู่นั้นฟิดิโอ้ก็ได้พาเพี่อนที่เล่นให้กับทีมชาติต่างๆเข้ามาในสนามซ้อม……………………แล้วทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่ข้างสนามโดยที่ลิโนะและทิกิซังคอยดูอยู่ห่างๆ
“ไฮ………….ฮานะจัง”เสียงญี่ปุนสำเนียงแปร่งๆดังมาจากข้างหลัง
ลิโนะ : ยูจะไปแล้วสิ
หญิงสาวพูดอย่างเศร้าๆ
ฟิลลิป : อืม ไอจะไปแล้ว แต่ยินดีกับยูด้วยนะที่พาทีมมาได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็……………อย่าเพิ่งรึบแพ้ซะล่ะ รอเชียร์อยู่นะ
ลิโนะ : (ยิ้ม) บ้า!!!จะแพ้ได้ไงล่ะก็มี………………….(ปรายตาไปมองคิจัง) อยูทั้งคนนี่
ฟิลลิป : แหม เปิดช่องให้หน่อยนี่ไม่ได้เลยนะ
ลิโนะ : (หน้าแดง) จะบ้าเหรอ………………
เธอเสไปมองที่คิจัง……………..พอดีกับที่เอนโดชวนทุกคนเล่นบอลด้วยกัน
ลิโนะ : ไม่ไปเล่นกับเขาเหรอ
ฟิลลิป :ไม่ล่ะไออยากคุยกับยูมากกว่า
ทิกิ : (แซวลิโนะ)สเนห์แรงจังนะ เดี๋ยวคิโดคุงก็หึงเอาหรอก
ลิโนะ : ร…………..รุ่นพี่ก็…………………
ทิกิ : อ่ะ ไม่ต้องมาหน้าแดงเลย
ลิโนะ : รุ่นพี่อ่ะ
ลิโนะทำแก้มป่อง
ทิกิ : (หันมาหัวเราะกับฟิลลิป) ฮ่ะๆยัยนี่ยิ่อายแล้วยิ่งน่าแกล้งนะ
ฟิลลิป : ครับ……………ยิ่งอายยิ่งน่ารัก
ลิโนะและทิกิสะดุ้งน้อยๆหันมามองหน้าฟิลลิปอย่างหาคำตอบ
ฟิลลิป : (เหงื่อตก) ห………หมายถึงว่ายูน่ะยิ่งอายก็ยิ่งน่ารักมิน่าคิโดซังถึงได้ชอบทำให้ยูอาย
ลิโนะ+ทิกิ : อ้อ………………….
แล้วทั้งหมดก็พากันเดินไปที่ข้างสนามเพื่อคุยกัน………………แต่จู่ๆก็เกิดฟ้าแลปขึ้นมาบรรยากาศรอบๆเริ่มขมุกขมัวและเต็มไปด้วยหมอกควัน แต่เหล่านักเตะที่อยู่ในสนามก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกเล่นแต่อย่างใด กลับก้มหน้าก้มตาเล่นอย่างเอาจริงเอาจัง…………………….ทันใดนั้นก็มีฟ้าผ่าขึ้นมาอีกครั้งแต่ทั้งลิโนะและทิกิซังไม่มีท่าทีกลัวซักนิดจนฟิลลิปมองหน้าทั้งสองอย่างแปลกใจ
ฟิลลิป : นี่ฟ้าฝ่านะ นี่พวกยูไม่คิดจะกลัวกันบ้างเลยเหรอ
ลิโนะ : แล้วยูคิดว่าผู้หญิงทุกคนต้องกลัวฟ้าผ่าเหรอ
ฟิลลิป : อืมมมมมมม…………….คิโดซังนี่สอนยูมาดีจริงๆ
ลิโนะ : (หน้าแดง)จะบ้าเหรอยูโตะคุงจะมาสอนอะไรฉันเล่า
ฟิลลิป : (แซว) แหนะๆ ไม่มีอะไรแล้วทำไมหน้าแดง
ลิโนะ : (ตีแขนฟิลลิป) จะบ้าเหรอ
ฟิลลิป : โอ๊ย!!! มีหนักมากผู้หญิงอะไร คิโดซังเอ๊ยโชคดีแล้วกันนะ อยู่กันผู้หญิงคนนี้คงต้องใช้โชคล่ะ
ลิโนะ : (เสียงเขียว) ฟิลอ่ะ!!! ไม่น่ารักเลย!!!
หญิงสาวพูดพลางสะบัดหน้าหนีสายตาเธอเหลือบไปเห็นกำไลที่ฮารุนะและริกะเรืองแสงขึ้นมา หญิงสาวสังหรณ์ใจไม่ดีเลยเธอมองขึ้นฟ้าพลางกวาดสายตาไปทั่ว………………และทันใดนั้นเสาสปอร์คไลท์ ก็เหมือนมีไฟรั่วออกมา
ทะจะมุไก : (ตะโกนมาจากประตูอีกด้าน)เอนโดซัง……………………..ด้านหลังคุณน่ะ
หญิงสาวมองตามเสียงของเด็กหนุ่มที่ตะโกนมา
ลิโนะ : นะ……………..นาย
“สวัดดี………………..แอนทีรอส ยินดีที่ได้พบกันอีก”
เอนโด : เธอรู้จักกันด้วยเหรอ
ลิโนะ : ก็ไม่เชิงหรอก เคยเจอกันตอนฉันอยู่โรงพยาบาลน่ะ
“เป็นเกียรติอน่างยิ่งที่ท่านยังจำเราได้”
เด็กชายโค้งให้กับลิโนะ
แล้วเด็กชายคนนั้นก็กระดกบอลขึ้นฟ้าแล้วเตะลูกเรียดจนทุกคนที่อยู่ในสนามกระเด็นไปคนละทิศละทาง
ลิโนะ : (สะดุ้งสุดตัว) ยูโคะคุง!!!
เด็กชายคนนั้นหันมามองลิโนะ”ขอโทษด้วยนะข้าจำเป็นต้องทำ”
ลิโนะ : จำเป็นที่ต้องทำร้ายคนนี่นะ
“ขอโทษด้วยข้าไม่มีทางเลือก
ลิโนะ : เราทุกคนมีทางเลือก
“เผื่อท่านจะลืมว่าข้าไม่ใช่คน”
ลิโนะชะงักกับคำพูดนั้น……………………….เด็กหนุ่มผละจากลิโนะมาให้ความสนใจที่ริกะแทนแล้วเด็กหนุ่มคนนั้นก็เดินเข้าไปเพื่อจะอุ้มริกะแต่ถูกเอนโดขวางไว้เด็กหนุ่มขึงเตะบอลอัดเข้าไปที่ที่ท้องของเอนโด
ลิโนะ : (ตะโกน) รายจะมาเที่ยวทำร้ายคนอย่างนี้ไม่ได้นะ
“ข้าจำเป็นขออภัยด้วย”
ในขณะเดียวกันหญิงสาวก็ได้ยินเสียงฮารุนะร้องด้วยความหวาดกลัว
“หยุดนะอย่าทำอะไรฮารุจังนะ!!!”
หญิงสาวตะโกนสุดเสียงเมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่คอยมาทำให้เธอหวาดกลัวเมื่อตอนที่อยู่โรงพยาบาล
คิจ้ง: อ………..อย่านะฮานะจัง
ลิโนะ : ก่อนจะห่วงฉันห่วงตัวเองก่อนดีกว่า
เด็กหนุ่มในชุดรัดรูปสีดำเดินไปจับไหล่ฮารูนะทำให้คิจังผู้เป็นพี่ชายถึงกับกัดฟันวิ่งเข้ามา
คิจัง : ฮารุนะ!!!
เด็กหนุ่มคนนั้นหันมามองอย่างไม่พอใจแล้วตะบอลอัดใส่ท้องของคิจัง
ลิโนะ : กรี๊ด!!!!ยูโตะคุง!!! (หันไปมองตาเขียว)มันจะมากไปแล้วนะ!!!
“ไม่หรอกฮึๆ คนที่มาขวางฉันสมควรต้องโดนอย่างนี้”
ลิโนะ : และถ้าเป็นฉันล่ะ……………..ถ้าเป็นฉันที่ขวางนาย
“ถ้าเป็นเธอเหรอแอนทีรอส……………ก็ลองดูสิ หึๆ”
ในขณะเดียวกันนั่นเองฮารุนะก็จะวิ่งเข้าไปดูอาการของคิจังแต่ถูกเด็กหนุ่มชุดดำรั้งข้อมือไว้
ลิโนะ :อย่านะ!!!
เธอพูดพลางแตะบอลเข้าใส่เด็กหนุ่มชุดดำ แต่เขาก็แตะบอลเบาๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและปั่นบอลไปที่งท้องของลิโนะอย่างเต็มแรงจนเธอต้องกระอักเลือดออกมาขนเละเสื้อผ้าเต็มไปหมด
“เจ้ากล้ามากนะ………….ไม่รู้เหรอว่าถ้าท่านแอนทีรอสโกรธแล้วจะเป็นยังไง”เด็ชายคนแรกพูดขึ้น
“ข้าไม่สน……………………เด็กคนนี้ถูกเลือกแล้วใครก็อย่ามาขวางข้าทั้งนั้น”เด็กชุดดำพูดอย่างเลือดเย็น
ทุกตน+คิจัง : ลิโนะ/ฮานะจัง
ระหว่านั้นเด็กชายก็ได้อุ้มฮารุนะที่หมดสติขึ้น
ลิโนะ : ไม่………………………ต้องห่วง…………….ฉัน…………………………อย่าให้……………..เขาเอา……………….ฮารุจัง……………ไป
หญิงสาวพูดอย่างยากลำบากด้วยอาการเจ็บปวดที่ท้อง……………………จากนั้นก็มีฟ้าผ่าลงมาแสงนั้นแยงเข้าไปในตาจนหญิงสาวต้องยกมือขึ้นมาบังใบหน้าเมื่อแสงนั้นหายไปหญิงสาวก็มองไม่เห็นเด็กชายแปลกหน้าทั้งสอง จากนั้ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ข้าสนามเพื่อปรึกษากันโดยมีฟิลลิปและทิกิที่คอยพยุงปีกลิโนะเอาไว้ไม่ให้ล้ม หญิงสาวนิ่งฟังบทสนทนาทั้งหมดแต่ก็ไม่ค่อยชัดเตจนนักเพราะสติของเธอเริ่มเลือนลางเต็มที เธอแค่จับใจความได้ว่าทุกคนจะไปที่เขาแม็กนีโต้นั่นเพื่อช่วยทั้งสองกลับมา
ลิโนะ : ดะ…………………..เดี๋ยวฉันไปด้วยสิ ถ้าฉันไปอาจจะพอช่วยอะไรบ้างก็ได้นะ
คิจัง : คุณอยู่ที่นี่เถอะ
ลิโนะ : ตะ…………..แต่
โกเอนจิ : เธอจะให้คิโดคุงเขาห่วงหน้าพะวงหลังหรือยังไง
ลิโนะ : ……………………
โกเอนจิ : เธออยู่ที่นี่แหละดีแล้วจะได้อยู่เป็นเพื่อนฮิโระจังด้วย
ลิโนะ : อ่ะ…………..อืมมม
แต่จู่ๆคิจังก็เดินออกจากกลุ่มมาคว้ามือของลิโนะออกไปที่ข้างสนาม
คิจัง : (กระซิบ) อยู่ที่นี่นะครับอย่างให้ผมต้องห่วง ผมจะกลับมาให้เร็วที่สุด
ลิโนะ : (น้ำตาคลอพร้อมพยักหน้าถี่ๆ) อืม ฉันจะรอนะ กลับมาเร็วๆล่ะ
คิจัง: (ลูบผมลิโนะ) อืมเร็วที่สุดเลยล่ะ
ลิโนะ พาฮารุจังกลับมาให้ได้นะ………………………ยูโตะคุง
คิจัง :ค……..ครับ
ลิโนะหยิบคลิปบอร์ดจากม้านั่ที่ข้างสนามขึ้นมาบังพลางประกบปากอย่างแผ่วเบากับคิจัง
ลิโนะ : (ถอนริมฝีปากออก) โชคดีนะ
คิจัง : (หน้าแดงพลางเดินออกไป) อยู่แล้วครับ อยู่แล้ว
หญิงสาวมองทุกคนที่วิ่งออกไปจจลับสายตาพลางหอบหายใจถี่ๆออกมา
ฟิลลิป : เฮ้ฮานะจังยูเป็นอะไร
ลิโนะ : ป่ะ………เปล่า แล้วทำไมยูไม่ไปช่วยพวกเขาล่ะ
ฟิลลิป : ก็ พวกนั้นมีคนครบแล้วหนิ
อากิ : ฉันว่าตอนนี้เราพาลิโนะจังไปที่บ้านก่อนดีกว่าค่ะ
ว่าแล้วทุกคนก็ช่วยพยุงลิโนะเข้าบ้าน
ฮิโระ+ชิกะ : นี่ลิโนะเป็นอะไรไป!!!
อากิ : โดนบอลอัดมาค่ะ อย่าถามมากเลยรีบปฐมพยาบาลลิโนะจังดีกว่า
ฮิโระ : งั้นเดี๋ยวฉันจะไปตามพี่ฮิริวมานะเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง
อากิ : อืมก็ดีเหมือนกันนะ
ฮิโระวิ่งหายไปซักพักก็วิ่งกลับมาพร้อมกับฮิริว
ฮิริว : ฮานะจัง!!!ฮานะจัง!!!ใครทำอะไรน้องน่ะ!!!
ฮิริวพูดพลาวิ่งถลามานั่งข้างเตียงของลิโนะ
ลิโนะ : (ยิ้ม)ไม่มีอะไรค่ะพี่……………..
ฮิริวคลำไปที่แผลของน้องสาวพลางทำสีหน้าตกใจ
ฮิริว : นี่เราเจอมันแล้วเหรอ
ลิโนะ : (กัดฟันด้วยความเจ็บปวด) มัน………………..ใครเหรอคะ
ฮิริว : (ขบฟันอย่างเคียดแค้น) เดลต้า…………………..!!!
สิ่งที่ต้องทำ...........................คนที่ต้องห่วง................................คำพูดของพี่ชาย
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
เดสต้าโผล่มาแว้วววว~~
ピエロココ- จำนวนข้อความ : 397
Join date : 15/08/2010
Age : 29
ที่อยู่ : ทีมสิงโตทราย.. แง้วๆ
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
จไชื่อตัวละครบางคนไม่ได้ ฟิลลิป แอนรีทอส (คนที่มารับมันเซนไม่ใช่หรอก!!)
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ฟิลลิป ก็ ฟิลลิป โอเว่น เบอร์10ทีมอังกฤษไงคร้าาาาาาาาาา ส่วนแอนทีรอสคือใครเดี๋ยวมีเฉลยfujiwara พิมพ์ว่า:จไชื่อตัวละครบางคนไม่ได้ ฟิลลิป แอนรีทอส (คนที่มารับมันเซนไม่ใช่หรอก!!)
ปล. เซนมาพาริกะไปไงคะ ส่วนเดลต้ามาพาฮารุนะไป
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
- Spoiler:
- ลิโนะ : (สีหน้าตกใจ) เดลต้า!!!
ฮิริว : น้องพอจะเห็นอีกคนหนึ่งที่มาด้วยที่ใส่ชุดสีขาวๆบ้างไหม
ลิโนะ : (พูดอย่างยากลำบาก)ค่ะ……………………..พี่ที่…………….รวบเปียยาวๆใช่ไหมคะ
ฮิริว : นั่นแหละ เขาชื่อเซนล่ะ
ลิโนะ : (หรี่ตาลง) เซน……………………
ลิโนะพูดได้แค่นั้น แล้วเธอก็กระอักเลือดออกมาอีกครั้งจนฮิริวต้องผวามากอดเธอไว้
ฮิริว : นี่ ฮานะจัง!!!ฮานะจัง!!! ฝื้นสิ อย่ามาเล่นกันพี่อย่างนี้นะ!!! เรามีกันอยู่สองคนพี่น้องน่ะ!!! ปัดโธ่เอ๊ย
ฮิริวกำหมัดแน่น แต่จู่ๆลิโนะก็ฟื้นขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้น
ฮิริว : ฮานะจัง………….เหรอ
ลิโนะ : (มองดูฮิริวอย่างอ่อนโยน) ขอโทษนะอีรอสข้าไม่ใช่ฮานะจัง
ฮิริว : อ่ะ………..แอ…………….แอนทีรอส
แอนทีรอส : (ยิ้มให้ฮิริว) ใช่ ข้าเอง ข้าให้ ฮานะจังไปพักผ่อนแล้ว………………….งานนี้เดลต้าทำเกินไปจริงๆ ถ้าข้าไม่ลงโทษซะบ้างคงจะไม่เข็ดหลาบ
ฮิริว : ต……………………….แต่ฮานะจัง!!!
แอนทีรอส : (พูดเหมือนรู้ว่าฮิริวจะพูดอะไรต่อไป) ฮานะจังน่ะฟื้นแน่ แต่ตอนนี้ปล่อยนางพักก่อนเถอะนางเหนื่อยมามาก………………มากกว่าที่เจ้าจะคิดถึงอีกนะอีรอส……………………..ระหว่างนี้ข้าขอทดสอบมนุษย์คนนั้นด้วยนะ
ฮิริว : ถ้าหมายความถึงคิโดคุงล่ะก็……………………น้องสาวเขาเพิ่งถูกเดลต้าจับตัวไป
แอนทีรอส : งั้นเราก็ต้องไปที่เดม่อนเกตล่ะสินะ
แอนทีรอสโปรยยิ้มอย่างอ่อนโยน
ฮิโระ : (เปรยขึ้นแผ่วๆ) สมเป็นเทพแห่งการรักตอบจริงๆ
ฟิลลิป อากิ ทิกิ ฟุยุกะและชิกะหันมามองฮิโระเป็นตาเดียว
ฟิลลิป อากิ ทิกิ ฟุยุกะ ชิกะ : เมื่อกี้หมายความว่ายังไงเหรอ!!!
ฮิโระ : ก็………………………แอนทีรอสเป็นเทพแห่งการรักตอบไง ส่วนอีรอสก็เป็นเทพแห่งความรัก ทั้งสองคนนี้มีเทพผู้พิทักษ์เป็นเทพแห่งความรักทั้งสอง
ฟิลลิป อากิ ทิกิ ฟุยุกะ ชิกะ : อ่ะ………………………อืม
ทำใดนั้นฮิริวและแอนทีรอลก็ได้ผลุนผลันออกไปจนากบ้านพักโดยที่ไม่มีใครห้ามทัน……………………..ทั้งคู่มุ่งหน้าไปที่ภูเขาแม็กนีโต้อย่างรวดเร็ว
ฮิริว : แอนทีรอสช้าหน่อยก็ได้!!!
แอนทีรอส : จะช้าได้ยังไงเล่าป่านนี้ไม่รู้ว่าเจ้ามนุษย์คนนั้นจะไปถึงไหนแล้ว
ฮิริว : แต่ร่างกายน้องข้า………………….
แอนทีรอส : ไม่ต้องกลัวไปหรอก ร่างกายนางไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อข้าสิ แอนทีรอสซะอย่าง
แอนทีรอสพูดด้วยสายตาขี้เล่น
ฮิริว : แล้วสายตานางฟ้าเมื่อกี้หายไปไหนฟะ นี่มันสายตาปีศาจชัดๆ
แอนทีรอส : แหม๋…………….อยู่ต่อหน้าคนอื่นข้าก็ต้องสร้างภาพหน่อยสิ
ฮิริว : (ตัดบท)เดินทางต่อดีกว่า อีกตั้งไกลกว่าจะถึงเดม่อนเกต
แอทีรอส : ทีงี้ล่ะรีบเชียวนะ
ฮิริว : อ้าวก็แหง๋ล่ะสิขืนไม่รีบร่างกายน้องสาวข้าได้เยินไปมากกว่านี้แน่
แต่ทันใดนั้นก็มีกลุ่มควัญสีดำพวยพุ่งขึ้นมาจากทุกทิศทุกทาง
“งั้นข้าช่วยเอง หลานข้า………………”
ชายหนุ่มผมดำขลับท่าทางเป็นผู้ใหญ่น่าเกรงขามพูดขึ้นด้วยเสียงที่มีพลังอำนาจ
แอนทีรอส : ท่านลุง!!!
ฮิริว : ท่านฮาเดส!!!!
“นอกจากนั้นยังมีราชีนีแห่งยมโลกอีกนะจ๊ะ…………………….”
หญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งส่งเสียงใสใสออกมาเจากราชรถเทียมม้าเพื่อมาทักทายคนทั้งคู่
แอนทีรอส : เพอร์ซิเฟอร์นี่!!! ดีใจจังที่ได้เจอ
ฮิริว : ด…………….เดี๋ยวก่อน ทั้งราชาและราชินีแห่งยมโลกมาทำอะไรที่นี่
เพอร์ซิโฟนี่ : เรามาช่วยเจ้า
ฮาเดส : มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่เจ้าเดลต้ามันจับตัวมนุษย์ผู้นั้นไป
แอนทีรอส : ดีเลยท่านลุงข้ากำลังเมื่อยอยู่พอดี
เทพแห่งการรักตอบพูดอย่างสบายๆพลางเดินขึ้นราชรถเทียมม้า
แอนทีรอส : สวัดดีเซอเบรัส ยังจำข้าได้ไหม เจ้าหมาน้อย
แอนทีรอสนั่งลงบนเบาะด้านหลังพาลลูบหัวทั้งสามของเจ้าตูบที่นอนอยู่เพื่อเป็นการทักทายส่วนเจ้าตูบก็ตอบรับด้วยการเอาลิ้นทั้งสามมาแย่งกันเลียหน้า
แอนทีรอส : (พยายามผลักเซอเบรัสออก) นี่พอแล้วๆ เดี๋ยวเจ้าของร่างที่ข้ายืมมาหน้าเขาจะเป็นสิวแล้วมาโทษข้า
ฮาเดส : ฮ่ะๆ
จ้าวแห่งยมโลกเดินเข้าไปประจำที่ของคนขับพลางสะบัดเชื่อกเบาๆให้ม้าทั้งคู่ทะยานออกไป………………………..เพอร์ซิโฟนี่ที่นั่งอยู่ข้างๆฮาเดสเอียงคอเพื่อเอาศรีษะมาซบกับไหล่กว่าของฮาเดส
ฮาเดส : (หน้าแดง) อากาศดีนะครับ
ฮิริวมองดูภาพนั้นพลางหันมากระซิบกับแอนทีรอส
ฮิริว : เหมือนเลยนะ
แอนทีรอส : เหมือนใคร……………………….อ้อ…………………………คู่ของฮานะจังกับคิโดคุงน่ะเหรอ……………………..อืมดูบางมุมก็เหมือนอ่ะนะ……………….แต่ฮานะจังกับคิโดคุงก็เย็นชากันทั้งคู่ กว่าจะเปิดใจให้กันก็เกือบสายไป
เวลาผ่านไปซักพักฮิริวหันไปมองแอนทีรอสในร่างของน้องสาวของตัวเอง ซึ่งตอนนี้กำลังหลับสนิทโดยมีเซเบรัสเจ้าตูบสามหัวเฝ้าอยู่ไม่ห่าง ฮิริวถึงกับเผลอคลี่ยิ้มให้ตัวเองเมื่อเห็นภาพนั้น
ฮาเดส : เหมือนกันมากใช่ไหมล่ะ………………กับน้องสาวเจ้าน่ะ
ฮิริว : ค……………………ครับ
ฮาเดส : เจ้านั่นน่ะ ถึงจะดูต๊องๆอย่างนั้นแต่เรื่องจิตใจมนุษย์เจ้านี่ก็ไม่เป็นรองใครหรอกน่ะ น้องสาวเจ้าโชคดีจริงๆที่ได้แอนทีรอสมาเป็นเทพผู้พิทักษ์
ฮิริว : ค…………………………ครับ
ฮาเดส : ตอนนี้ก็ปล่อยเขาพักผ่อนไปก่อนเถอะ………………………………ร่างกายของน้องสาวเจ้าคนต้องการจะพัก
ฮิริว : (พูดเหมือนกลั้นสะอื้น)ค………………………..ครับ………………………..เจ้าเดลต้ามันทำอย่างนี้กับน้องสาวผมมันต้องชดใช้
ฮาเดส : ใจเย็นก่อน บ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง ยมโลกเองก็เหมือนกัน เรื่องนี้ขอข้าจัดการเองได้ไหม
ฮิริว: ค…………………….ครับ
หลังจากบทสนทนาสั้นๆจบลงทั้งหมดก็เอาแต่นั่งเงียบจนมาถึงที่หมาย อาเดสดึงบังเหียนเทียมม้าขึ้นเบาๆเพื่อให้ม้าหยุดวิ่ง
ฮิริว : ฮานะจัง เอ๊ย!!! แอนทีรอสตื่นเถอะเราถึงแล้วนะเดม่อนเกต ไงล่ะ
ฮาเดส : หึ!!! คงเป็นห่วงน้องสาวมากล่ะสินะ
แอนทีรอส : (ค่อยๆลืมตา) หืม………………ถึงแล้วเหรอ
เทพแห่งการรักตอบบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยพลางเดินนำหน้าฮิริวเข้าไปในถ้ำ
เพอร์ซิโฟนี่ : หืม อับแฮะ(พลางเหยียบตะไคร่น้ำจนจะจะลื้นล้ม) ว๊าย!!!
ฮาเดส : (ตกใจพลางผวาเข้าไปประคอง) ไม่เป็นไรนะครับ!!!
เพอร์ซิโฟนี่ : ฮ่ะ………………อืม
ฮาเดส : (คอยเดินตามประคอง) ถ้างั้นก็เดินระวังๆหน่อยนะครับ
แอนทีรอส : แหม…………………..หวานแหว๋วกันจริงนะคู่นี้ อยากให้มาเจอคู่ฮานะจังกันคิโด ดูสิ ใครมันจะหวานกว่ากัน
ฮาเดส : (หน้าแดง)ฮ่ะๆ
ฮิริว : (พูดขรึมๆ) อย่ามัวเล่นอยู่เลยรีบไปบอกพวกนั้นให้เอาชนะแล้วเอายามารักษาฮานะจังดีกว่า
ความช่วยเหลือ...........................ความต้องการ..........................ความเป็นห่วง
羽島 花- จำนวนข้อความ : 1445
Join date : 27/07/2010
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
ว้ากกกกกก พี่ฟ็อกซ์ต่ออย่างเร็วเลย สนุกมากๆ เลยด้วย
ลงของตัวเองบ้าง
เมื่อวานลองเซิร์จหาดูชื่อพวกนักเตะเล่นๆ ในเฟส แต่ลิงค์เพลงที่ me โพสต์ไว้บนโปรไฟล์ดั้นไปอยู่ในเพจชื่อนักเตะที่ใครสร้างไม่รู้นี่สิ
คุณพระ! มันไปอยู่นั่นได้เยี่ยงใดคะ แถมมีคนกดไลค์ด้วย...
ลงของตัวเองบ้าง
- Spoiler:
- ตอนนี้ฉันรู้สึกปวดๆ ตาตัวเล็กน้อย เพราะการนั่งๆ นอนๆ บ่อยๆ แถมนอนไม่ค่อยหลับอีกเลยยิ่งทำให้เพลียมากขึ้น ท้องก็ร้องแต่ยังไงๆ ก็จะกินอาหารที่พวกนั้นเอามาให้ไม่ได้ ทำไงดีเนี่ย....
...................
..................เปาะ...............เปาะ...............
‘ฉันไม่ได้หูแว่วไปใช่ไหม’
ฉันลุกพรวดขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียง น้ำ! ต้องเป็นน้ำแน่!
แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยที่ลุกขึ้นแบบนี้ ฉันเลยต้องทาบหูไว้กับพื้นเพื่อฟังใหม่
...เปาะ..................เปาะ................
เหมือนยิ่งฟังยิ่งไม่ได้ยิน ประสาทหูฉันเริ่มเสื่อมแล้วรึยังไงกัน
เฮ่อ คงหมดหวังแล้วล่ะ ถ้าไม่มีแน้แต่น้ำให้กินเราคงอยู่ได้อีกไม่กี่วันแน่ ทำไงดี..... โอ้ย ไม่อยากจะคิด!...
อ๊ะ! อะไรหยดใส่มือน่ะ
ฉันค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นหลังจากกลิ้งไปกลิ้งมา เพราะเหมือนแรงจะหมดไปนิดหน่อย โธ่ ไม่น่ากลิ้งแรงเลย
เออ แล้วเมื่อกี้มันหยดตรงไหนล่ะ อ้าก ลืมซะแล้ว
ฉันทรุดลงพื้นชั่วขณะแต่ดีที่แขนประคองไว้ก่อนหัวจะถึงพื้น
แปะ!
“โอ้ย! เย็น”
เจอแล้ว ตรงนี้ไง เพื่อให้กะจุดได้เลยต้องเอามือเทียบระยะไว้ก่อนแล้วค่อยเอาตัวออกมา
น้ำจริงๆ ด้วย! ฉันลองเอามือรองแล้วไปส่องกับไฟ ยังใสๆ อยู่เลย โชคดีแล้วเรา อย่างมากก็ต่อชีวิตตัวเองได้อีกนิด
-------------------------------------------------------
เหมือนผ่านไปไม่กี่นาทีเองแฮะที่ฉันนั่งเหม่อลอยอยู่ พวกมันก็พากันมารุมล้อมในกรงนี่อีกแล้ว ออกซิเจนยิ่งมีไม่ค่อยพออยู่นะ
“ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ยอมกินข้าวล่ะ”
“นั่นดิ ทุกทีเห็นกินจุจะตาย”
…เมื่อไหร่กัน แกรู้จักฉันตั้งแต่ฉันเกิดหรือไง........
“ข้าวที่เราให้ไม่ได้มีแคลอรีสูงขนาดนั้นซักหน่อย ไม่ต้องกลัวอ้วนหรอกน่า”
นายคนที่ผมแห้งที่สุดข้างหลังไอ้อ้วนเถื่อนพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง และอีกหลายๆ ประโยคชักชวนเท่าที่พวกมันสรรหากันมาได้ น่ารำคาญจริงพวกนี้
“พอได้แล้วพวกเรา เดี๋ยวหูมันจะเฉาไปซะก่อน 55555”
“55555”
พวกนายนี่มันโอเปราลูกคอชั้นดีจริงๆ เลยนะ ส่งสัญญาณปุ๊บ ประสานเสียงกันปั๊บ ถี่สุดๆ อีกด้วย พอๆๆๆ ก่อนที่ฉันจะเหลืออดได้ไหม
“ใช่ไหม? เอ....เด็กที่ไม่ยอมกินข้าวต้องโดนผู้ใหญ่บังคับตามปกติใช่ไหมน้า”
ไอ้อ้วนเถื่อนนั่งลงชันเข่าอยู่หน้าฉันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ
“…”
“พวกเรา! จับมันมัด”
เฮ้ย! พวกแกจะทำอะไรฉันอีกเนี่ย ไม่นะ!
ฉันพยายามขัดขืนอย่างเต็มที่ แต่มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นเลยเมื่อยิ่งทำแรงฉันก็ยิ่งลด สุดท้ายฉันก็โดนพวกมันจับล่ามโซ่แขนให้ห้อยลงจากข้างบน และล่ามขาไม่ให้ขยับอยู่ข้างล่าง
“แกรู้ป่ะ ว่าการทรมานคนที่ไม่มีแรงเนี่ย.....มันสะใจที่สุดแล้ว”
“รู้ดิ.....ฉันทำทุกวัน....”
พลั่ว!
“แกมีหน้าที่ฟังอย่างเดียวเข้าใจไหม ถ้าขืนพูดอีกฉันอัดแกเละแน่”
แจ๊ส : (ส่ายหน้านิดๆ เป็นเชิงปฏิเสธ) “ฉันไม่ได้ขยับปากตั้งนาน จะพูดหน่อยไม่ได้เหรอ”
“เก็บปากแกไว้กินข้าวสูตรพิเศษที่ฉันคิดทั้งวันทั้งคืนดีกว่ามั้ง”
แจ๊ส : “แกเรียกสิ่งที่กินได้แบบนั้นว่าอาหารเหรอ หึ...งั้นฉันคงเรียกแกว่าไอ้กะโหลกกลวงได้สินะ”
“หน็อย...แก.... กล้ามากนะ พูดถึงขนาดนี้...”
แจ๊ส : “ฉันแค่พูดตามปกติ คิดว่าตัวเองมีอำนาจมากหรือไงแกถึงทำแบบนี้ได้”
“...”
แจ๊ส : “ชิ เพราะแกมีสมองที่ทั้งกลวงและโล่งเตียนสินะถึงคิดได้แค่นี้ หัดเข้าร้านหนังสือหาหนังสือเพิ่ม IQ กับ EQ มาอ่านบ้างก็ได้นะ”
“…….”
ไอ้อ้วนเถื่อนเริ่มตัวสั่นขึ้นเรื่อยๆ หุๆๆ สนุกดีจริง ยั่วโมโหคนเลวเนี่ย
แจ๊ส : “พล่ามไปมาก ขอน้ำสักอึกได้ป่ะ”
“กวนมากนะแก มีสิทธ์อะไรมาสั่ง!”
แจ๊ส : “อุก...!” (หดร่างกายลงเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวดจากการโดนต่อยท้อง)
“พูดไม่ออกเลยล่ะสิ”
แจ๊ส : (พูดคล้ายๆ กับมีอะไรติดคอ) “...เปล่า...” (บ้วนน้ำลายออกจากปาก) “...แค่น้ำลายติดคอ”
“เหรอ~~”
ไอ้อ้วนเถื่อนนี่พูดออกแนวล้อเลียนกวนๆ ก่อนจะอัดหมัดแทบไม่ยั้งใส่ฉัน
แจ๊ส : (ไอถี่อยู่นานและเงียบไปดื้อๆ)
“ฮ่ะๆ สุดท้ายก็หมดฤทธิ์ ผู้หญิงนี่...ไม่ไหวกันเลยจริงๆ”
แจ๊ส : (พูดขึ้นพร้อมกับเงยหน้ามองกลุ่มคนข้างหน้าตัวเอง) “ยังไม่ได้สำรวจกระสอบทรายดีๆ ก็อย่าเพิ่งตัดสินสิ” (เช็ดคราบเลือดที่เปื้อนหน้ากับแขนเสื้อตัวเอง)
“แกมันผู้หญิงจริงๆ รึเปล่าเนี่ย ต่อยท้องแล้วไม่จุกซักนิด ถึกกว่าผู้ชายอีก”
แจ๊ส : “งั้นฉันก็ไม่ใช่คนแล้วล่ะ แรงฉันยังเหลือ ฉันอยากฆ่าแก!” (พยายามพุ่งตัวไปหาชายตรงหน้า)
“ฮึ......ฝืนตัวเองมากไปไม่ดีนะ~”
แจ๊ส : “นั่นสิ อัดคนมากเกินไปก็บาปด้วย”
“... เถียงหัวชนฝาแบบนี้ระวังหน้าแตกทีหลังนะ”
แจ๊ส : “ถ้าหน้าแตกก็ดีสิ เผื่อมันจะฆ่าคนแถวนี้ได้บ้าง”
“... รู้ไหม ถ้าคนเราพูดมากไปน้ำลายจะท่วมโลก”
แจ๊ส : “นั่นมันขึ้นอยู่กับคนตัดต้นไม้กันเยอะรึเปล่าต่างหาก น้ำลายมีไว้บริหารปากและขากรรไกร ไปพูดอีท่าไหนให้มันทะลักโลกได้เนี่ย”
ฮ่ะๆๆๆๆ ยิ่งเห็นไอ้อ้วนนี้ตัวสั่นฉันยิ่งมีความสุขแฮะ
“...... โว้ย! ไม่เถียงแล้ว ปัญญาอ่อน!”
แจ๊ส : “ไม่ใช่ว่าเซ็งที่แกสู้ฉันไม่ได้หรอกเหรอ”
“กวนมากนัก ฆ่าทิ้งซะเลยดีกว่า”
แจ๊ส : “ก็แล้วแต่... แต่แกบอกว่าต้องการตัวฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ ตัวฉันไม่ได้มีหลายคนในโลกนี้นะ นายคงไม่ได้ทำงานของนายแล้วล่ะ”
“กะ...แก...”
แจ๊ส : “ประโยคก็แก สองประโยคก็แก... ไม่มีคำพูดอื่นแล้วหรือไง”
“…”
ไอ้อ้วนถึกเงียบไปซักพักก่อนจะทำหน้าเหมือนข่มอารมณ์ตัวเองได้และพูดต่อ
“ฉันว่า...เราเปลี่ยนจากการบริหารสมองเป็นบริหารกรามดีไหม”
เสียงระรื่นเชียว บรื๋อ เสียวสันหลังวาบเลย น่ากลัวว่ามันจะทำอะไรแผลงๆ อีกแล้ว
แจ๊ส : “แกรงใจ ฉันบริหารมามากพอแล้ว”
“ไม่ต้องทุ่มทุนเปลี่ยนความคิดตัวเองหรอก ฉันไม่ได้คิดเงิน”
ฉันงกนิดๆ ก็จริง แต่มันรู้สึกได้ว่า คนละเรื่องกับเรื่องเงินแน่
“รู้ไหม นี่อะไร”
ไอ้อ้วนสมองฝ่อถามฉันพร้อมกับชูจานอะไรไม่รู้ที่เดินไปเอามาตะกี้ ฉันชายตามองนิดๆ แล้วก็ปล่อยให้หัวตัวเองห้อยตามธรรมชาติ
“โห....คุณถึกเจ้าบทบาท ฉันไม่หลงกลแกแล้ว”
แจ๊ส : (แสร้งว่าร่างกายตนหมดแรงโดยปล่อยน้ำหนักให้ร่างกายอ่อนปวกเปียก)
“พอเลย ก่อนที่ฉันจะปัญญาอ่อนไปมากกว่านี้!”
แจ๊ส : (สะดุ้งเพราะโดนตบหัวอย่างแรง) “โอ้ย”
“ในเมื่อร่างกายแกมันไม่เหมือนคนปกติ ฉันก็คงไม่ต้องละเมียดละไมอะไรมากแล้วมั้ง”
แจ๊ส : “นี่มันความคิดแก บอกทำไม แค่กๆ อะไรเนี่ย!!” (พยายามคายสิ่งที่อยู่ในปาก)
“ข้าวเย็นไงถามได้ 5555”
แจ๊ส : “ไม่ต้องมายัดใส่ปากให้ ฉันไม่กิน!”
“ต้องกิน!”
แจ๊ส : “เหตุผลมันสำคัญอะไรนักหนาฉันถึงต้องกิน แค่กๆ” (พยายามคายและหลบมือที่กำอาหารไปมา) “ให้ลูกน้องแกกินให้ยังง่ายกว่าเยอะ”
“...”
มันไม่ตอบแล้ว ตอนนี้มันเหมือนคนบ้าที่พยายามจะยัดก้อนกระดาษให้เข้ารังนกที่แกว่งไปมาตามสายลม
ฉันหลบสุดชีวิตเพื่อไม่ให้สิ่งที่มันพยายามยัดเยีบดมาเข้าปากมากที่สุด แต่มันดันเอาคนมาช่วยซะเยอะเลย เข้ากระเพาะฉันลูกเดียว ‘ตาย...ตายแน่…’
“เป็นไง..........เงียบไปเลยแฮะ หึๆๆ รู้แล้วรึยังว่าการแข็งข้อกับคนที่ควบคุมอยู่จะเป็นยังไง กลับก่อนดีกว่าพวกเรา เดี๋ยวมันจะช้ำในตายซะก่อน”
แจ๊ส : ‘นี่แสดงว่า.....ตอนนี้แกยังอ่อนข้อให้ฉันอยู่ใช่ไหม ใครก็ได้ตอบที ว่าฉันควรคิดว่ามันดีหรือไม่ดีกันแน่’
เมื่อวานลองเซิร์จหาดูชื่อพวกนักเตะเล่นๆ ในเฟส แต่ลิงค์เพลงที่ me โพสต์ไว้บนโปรไฟล์ดั้นไปอยู่ในเพจชื่อนักเตะที่ใครสร้างไม่รู้นี่สิ
คุณพระ! มันไปอยู่นั่นได้เยี่ยงใดคะ แถมมีคนกดไลค์ด้วย...
jass-blue2020- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 29/10/2010
Age : 26
Re: มาจำลองเหตุการณ์ของเรากับตัวละครในอินะอิเระที่เราชอบกันเถอะ!!
สวัสดีค่า^o^ อาซึสะมาแล้ววววววววว ถึงหน้า70แล้วเหรออ่านแทบไม่ทันเลยนะเนี่ยแต่ก้อสนุกทุกตอน555+ ช่วงนี่คงต้องไว้อาลัยให้ผู้ประสบภัยสึนามิที่ญี่ปุ่น เห็นแล้วสงสารจังเลย พวกเอนโดจะเป็นยังไงนะคงร้องไห้นำตาแตกรึป่าว?(บ้าไปแล้ว นี่เรื่องจริงเกี่ยวอะไรกับการ์ตูน)555+ คุณฮานะมีเรื่องอยากถามว่าทำไมถึงชอบคิโดเหรอคะ? ตอบด้วยนะ
shiotari atsusa- จำนวนข้อความ : 43
Join date : 11/11/2010
Age : 26
ที่อยู่ : อยู่กับกาเซล
หน้า 2 จาก 8 • 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8
หน้า 2 จาก 8
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|